บทที่ 8 แสดงความเป็นเจ้าของ
“ไม่ชอบเหรอ?” อลิชาเอ่ยถาม เมื่อเธอสังเกตได้ถึงท่าทีไม่ชอบใจของโฮป ดาราหนุ่มคนดังที่พิลึกพิลั่นเลือกมาตัดสูทออกงานที่กับแบรนด์เสื้อผ้าผู้หญิงอย่าง Girls เขาอ้างว่ากำลังช่วยเพื่อนทำมาหากิน แต่ที่จริงแล้วมันมีอะไรที่มากกว่านั้น ซึ่งอลิชาเองก็รับรู้ได้ถึงมัน
“อืม...” ชายหนุ่มทำหน้าครุ่นคิด เพ่งเล็งตัวเองที่กำลังสวมสูทสีแดงเข้มผ่านกระจกใสบานโต “ก็ดี ฉันชอบ”
“จริงเหรอ? หน้านายดูเหมือนไม่อยากจะใส่มันด้วยซ้ำ” ดีไซเนอร์สาวทำหน้างง เห็นได้ชัดว่าเขาทำหน้ามุ่ย แต่ปากกลับบอกว่าชอบ
“เธอเก่ง ทำได้ทั้งเสื้อผ้าผู้หญิงแล้วก็เสื้อผ้าผู้ชาย เพราะงั้นยอมรับข้อเสนอของฉันมาได้แล้ว” โฮปหันกลับมาหาอลิชา และทำสายตาหว่านล้อมเธอ เขาสนใจเธอ เขาอยากเป็นมากกว่าเพื่อนของเธอ แต่ไม่เคยยอมรับออกมาตรงๆว่าอยากจะจีบเธอเป็นแฟน คอยตามติดเธอมาหลายปี หาข้ออ้างไปเรื่อยเปื่อย ล่าสุดคือการมาชวนเธอไปร่วมทำแบรนด์ผู้ชายกับเขา
“งานฉันเยอะอยู่แล้ว ไม่ได้อยากจะปฏิเสธนายนะ แต่ฉันทำงานมากกว่านี้ไม่ไหวจริงๆ” สาวสวยคนเก่งมีวิธีปฏิเสธคนอื่นเสมอ
“คิดไว้อยู่แล้วว่าเธอต้องพูดแบบนี้”
“ยกแขนขึ้น ฉันขอเก็บรายละเอียดอีกนิด” ว่าแล้วอลิชาก็เข้าไปใกล้ร่างสูง แล้วเริ่มทำงานของเธอ นั่นก็คือการจัดเก็บรายละเอียดและตรวจเช็กความประณีต ที่จริงแล้วเธอไม่ต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วยตัวเอง เพราะมีลูกน้องคนอื่นที่ประจำหน้าที่นี่อยู่แล้ว แต่เพราะว่าคนคนนี้คือโฮป ผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนและคนดัง เขาจะเป็นกระบอกเสียงที่จะเพิ่มชื่อเสียงให้กับแบรนด์ อลิชาจึงต้องลงมือด้วยตัวเอง
“ตัวเธอหอมจัง” แต่โฮปก็คือโฮป พอหญิงสาวเข้ามาใกล้ก็ทำเจ้าชู้ใส่ ทำเป็นทีเล่นทีจริง แกล้งหมาหยอกไก่เหมือนไม่จริงจัง
“?!” ร่างบางรีบผละตัวออกห่างจากเขาอย่างรวดเร็ว “ไอ้บ้า! ใครให้นายดมตัวฉันวะ?”
“ไม่ได้ตั้งใจดมสักหน่อย เธอเข้ามาใกล้...แล้วฉันได้กลิ่นตัวเธอ ฉันผิดเหรอ?”
“ก็...”
“ไปกินกาแฟกัน วันนี้ฉันว่าง”
“แต่...”
“ห้ามปฏิเสธ!”
♥
Secret Weapon : 15.00 PM
ติณณ์นั่งมองโทรศัพท์มือถือของตัวเองอยู่เป็นนานสองนาน เขากำลังรอคอยอะไรบางอย่าง และกำลังแปลกใจว่าทำไมคนที่เอาแต่พูดว่ารักและคิดถึงเขาอย่างอลิชา ถึงได้เงียบหายไปทั้งวัน เธอไม่โทรหาเขา ไม่ส่งข้อความ ไม่สนใจจะถามว่าเขากินมื้อเที่ยงหรือยัง เธอเงียบหายไปตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้
“ไหนว่ารักฉันนักหนาไง!” มาเฟียเอ่ยกับตัวเอง คว้ามือถือขึ้นมาเข้าไอจี เลื่อนดูหน้าฟีดที่ติดตามเพียงแค่อลิชาคนเดียว แต่แล้วเขาก็ได้รู้ว่าวันนี้เธอยังไม่ได้อัปเดตอะไร “หายไปไหน?!”
“นายครับ” เวลานั้นริวก็เดินเข้ามาหยุดที่หน้าโต๊ะทำงาน
“มีอะไร?”
“มีข่าวว่าผู้ถือหุ้นสิบเปอร์เซ็นต์ของ Jira Group กำลังต้องการใช้เงิน นายอยากให้ผมติดต่อเขาไปไหม?”
“ใคร?”
“เห็นว่าชื่อธนินทร์ครับนาย”
“อืม ซื้อหุ้นนั้นไว้ในชื่อนาย อย่าให้ผิดสังเกตล่ะ”
“ครับ”
“ริว” เมื่อลูกน้องคนสนิทหันหลังเตรียมจะเดินออกไป มาเฟียหนุ่มก็เรียกเขาเอาไว้ “อลิชาอยู่ที่ไหน?”
“ครับ?”
“เธอเงียบไป ฉันแค่สงสัย...”
“ตอนนี้เธออยู่กับดาราที่ชื่อโฮปครับนาย” ไม่เคยมีครั้งไหนที่ริวจะไม่สามารถตอบคำถามของติณณ์ได้ เขาทำงานกับมาเฟียหนุ่มมานาน อายุไล่เลี่ยกัน นอกจากเป็นลูกน้องแล้ว ริวยังเป็นเพื่อนรักและเพื่อนตายของติณณ์ เขาฉลาดและรอบคอบ วางแผนหลายอย่างแทนนายอยู่หลายเรื่อง บางครั้งเขาก็ตัดสินใจทำอะไรโดยที่นายไม่จำเป็นต้องออกคำสั่ง อย่างเช่น...ติดตามไอจีทุกคนที่อยู่รอบตัวอลิชา หรือส่งคนเข้าไปทำงานในออฟฟิศของเธอ
♥
Coffee Or Me? : 15.45 PM
“ออกไปไหนกับนายทีไร ฉันต้องตกเป็นเป้าสายตาตลอด มันน่าเบื่อรู้ไหม?” อลิชาทำหน้ามุ่ยไม่พอใจ ขณะที่กำลังดื่มกาแฟยามบ่ายแก่ๆกับโฮปที่ร้านกาแฟชื่อดังใจกลางเมือง
“ยังไม่ชินอีกเหรอ? มันเป็นที่เธอเองต่างหาก...ไม่เกี่ยวกับฉันเลย ลืมหรือไงว่าเธอดังไม่ต่างจากฉันเลย”
“แต่พวกเขาคิดว่าเราคบกัน! นายเองก็ไม่เคยแก้ข่าวเลย!”
“ทำไมต้องแก้ข่าว? พวกเขาอยากคิดอะไรก็ให้เขาคิดไปสิ แล้วคบกับฉันมันไม่ดีหรือไง? ฉันคือโฮปนะ...ฉันเป็นฝันดีของสาวๆครึ่งประเทศก็ว่าได้”
“ไม่ได้ ตอนนี้ฉันปล่อยให้คนอื่นเข้าใจผิดต่อไปไม่ได้แล้ว”
“ทำไม?” พออลิชาเอ่ยออกมาแบบนั้น ดาราหนุ่มก็นิ่งไปทันที ใบหน้าที่เคยยิ้มแก้มก็แปรเปลี่ยนเป็นเรียบนิ่ง
“เพราะคนที่ฉันรอเขากลับมาแล้ว...ที่ฉันเคยเล่าให้นายฟัง จำได้ไหม?” โฮปคือคนแรกที่อลิชาเล่าเรื่องติณณ์ให้ฟัง นั่นเพราะเขาสนิทกับเธอมาตั้งแต่ไฮสคูล
“พี่ติณณ์อะไรนั่นน่ะเหรอ?”
“พี่ติณณ์?!” ขณะที่โฮปเอ่ยชื่อมาเฟียหนุ่มออกมา อลิชาเองก็เอ่ยตามเช่นกัน นั่นเป็นเพราะเธอเห็นว่าเวลานี้ติณณ์กำลังยืนอยู่ตรงหน้า
“พี่แค่ผ่านมา...ไม่คิดว่าจะเจอเธอที่นี่”
♥
ดูเหมือนว่าบรรยากาศภายในร้านกาแฟจะอึมครึมขึ้นมา เมื่อที่ด้านหน้าร้านนั้นมีรถยนต์สีดำสองคันจอดขวางอยู่ อีกทั้งที่หน้าประตูยังมีชายสูทดำสี่คุมยืนดูสถานการณ์อย่างเคร่งเครียด มีแต่คนไม่ประสีประสาเท่านั้นที่จะไม่รู้ว่าที่แห่งนี้ในตอนนี้มีคนสำคัญใช้บริการอยู่
“อืม...พี่ติณณ์มีงานที่ไหนหรือเปล่าคะวันนี้?” อลิชารับรู้ได้ถึงสถานการณ์ที่แสนจะอึดอัด เพราะติณณ์และโฮปเอาแต่นั่งจ้องหน้ากันนิ่ง ทั้งๆที่เธอก็แนะนำให้ทั้งสองได้รู้จักกันแล้ว
“ไม่มี ตอนแรกคิดว่าจะกลับบ้านเลย แต่พอได้เจอเธอที่นี่ก็เลยเปลี่ยนใจ ลองมานั่งร้านกาแฟดูบ้างก็ไม่เลว” มาเฟียหนุ่มเอ่ยเสียงเย็น ขณะเดียวกันก็วาดวงแขนไปโอบไหล่อลิชามาแนบชิด โดยไม่ละสายตาจากโฮป แน่นอน...เขากำลังแสดงความเป็นเจ้าของเธออยู่
“พี่ติณณ์...มีคนติดตามเยอะนะครับ พนักงานในร้านดูเกร็งกันไปหมด” ดาราหนุ่มยิ้มมุมปาก
“นี่ไม่เรียกว่าเยอะหรอก”
“สี่คนก็ถือว่าเยอะครับ กับแค่มาร้านกาแฟ...ต้องพาคนติดตามมาถึงสี่คน พี่ติณณ์ทำงานอะไรครับ?”
“โฮป...” อลิชาส่งสัญญาณให้เพื่อนเงียบ เพราะเห็นท่าทางทั้งสองคนดูจะไม่กินเส้นกันเท่าไหร่นัก
“เยอะ บอกไม่หมดหรอก ลองสืบประวัติผมดูเอาเองสิ”
“เอ่อ...ลิชาว่าเราออกไปจากที่นี่กันดีไหมคะ? พอดี...”
“ได้ เดี๋ยวฉันไปส่งเธอที่ออฟฟิศ” โฮปไม่รอให้อลิชาพูดจบ เขารีบแทรกขึ้นมาทันควันเพราะกลัวก็จะถูกแย่งหน้าที่นั้นไป
“ไปกับพี่ดีกว่า พี่อยากนอนกอดเธอเหมือนเมื่อคืนอีก...” แต่นกยูงตัวผู้จะรวดเร็วเท่าเสือได้อย่างไร ติณณ์ไม่รีรอ และไม่สนใจจะฟังคำตอบ เมื่อเขาเอ่ยใจความสำคัญให้โฮปได้รับรู้ เขาก็ลุกขึ้นยืนแล้วคว้าแขนอลิชาพาออกไปจากร้านกาแฟในทันที...
