บทย่อ
เธอ ใฝ่ฝันที่จะได้แต่งงานกับ เขา เพราะความรัก ส่วนเขา อยากแต่งงานกับ เธอ เพราะความแค้น สิบห้าปีแห่งการรอคอยให้ความรักหวนคืน สิบสามปีที่รอ ชำระแค้น เธอจะทำอย่างไร เมื่อเขาไม่ใช่พี่ชายคนเดิมที่รักและคอยทะนุถนอมเธออีกต่อไป เขาจะทำอย่างไร เมื่อต้องฉีกหัวใจเธอที่เคยเป็นน้องสาวให้แหลกเป็นชิ้น เพื่อแก้แค้น
บทนำ
“ติณณ์...มานี่ลูก มาดูน้องสิ”
เสียงของผู้เป็นแม่เรียกให้ลูกชายเพียงคนเดียวให้มาดูน้อง เด็กสาวตัวน้อยที่เพิ่งเกิดมาในวันนี้ และเมื่อได้ยินคำว่า ‘น้อง’ เด็กชายวัยห้าขวบก็รีบวิ่งเข้ามาเกาะที่หน้ากระจกใส เขย่งเท้าเล็กขึ้นดูเด็กน้อยตัวแดงๆที่อยู่ในห้องอบ
“นี่น้องผมเหรอฮะคุณแม่?”
“ใช่จ่ะ น้องเป็นลูกสาวของคุณน้าเกวลินกับคุณอาฤกษ์เพื่อนของแม่ น้องก็ถือว่าเป็นน้องสาวของลูกด้วย” นลินีเอ่ยบอกลูกชายตัวเล็กของเธอพร้อมรอยยิ้ม
“น้องชื่ออะไรเหรอฮะคุณแม่?”
“อลิชาจ่ะ ต่อไปติณณ์ต้องรักน้องให้มากๆนะ ติณณ์จะต้องดูแลน้องให้ดีด้วยนะรู้ไหม?”
“ฮะแม่...ผมจะรักน้อง จะดูแลน้องให้ดีฮะ”
♥
“พี่ติณณ์! อย่าวิ่งหนีลิชานะ!”
“ฮะๆๆ แน่จริงก็ตามให้ทันสิ! ลิชาขาสั้น!”
“พี่ติณณ์! หยุดวิ่งนะ! มาให้ลิชาขี่หลังเดี๋ยวนี้เลย!”
“จับพี่ให้ได้ก่อนสิ! ยัยหมูตอน!”
เด็กสาวตัวน้อยแสนจ้ำม่ำในวัยห้าขวบ สาวเท้าเล็กวิ่งตามที่พี่ชายตัวสูงในวันสิบขวบ เธออยากจะขี่หลังเขา อยากให้เขาตามใจเธอ แต่เพราะวิ่งไม่ทันเขา เพราะเริ่มทนการขัดใจไม่ได้ เธอจึง...
พลั่ก!
“อ๊ะ! ฮือๆๆๆๆ ลิชาเจ็บ! พี่ติณณ์! ฮือๆๆๆๆ ลิชาเจ็บ!” แกล้งทำเป็นล้ม ยอมเจ็บตัว ยอมเลือดออก เพราะต้องการให้พี่ชายเอาใจเธอ
“ลิชา!” ติณณ์ในวัยสิบขวบวิ่งเข้าไปหาน้องสาวตัวน้อยของเขาอย่างรวดเร็ว พอได้เห็นว่าที่หัวเข่านั้นถลอกจนเกิดเป็นเลือด เขาก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที
“ฮึก! พี่ติณณ์...ลิชาเจ็บ ฮือๆๆๆ”
“อย่าร้อง...อย่าร้องนะลิชา พี่ขอโทษ พี่จะไม่วิ่งหนีลิชาอีกแล้ว มา...เดี๋ยวพี่เป่าแผลให้นะ” ติณณ์ก้มลงเปล่าแผลที่หัวเข่าให้อลิชา ในตอนนั้นเด็กสาวตัวน้อยจอมเอาแต่ใจก็แอบยิ้มออกมา
“พี่ติณณ์ต้องให้ลิชาขี่หลังนะ ลิชาเดินไม่ไหวแล้ว เจ็บจังเลย”
“ได้...มาขี่หลังพี่มา” แล้วอลิชาตัวแสบก็ได้ขี่หลังพี่ชาย...ทั้งๆที่เธอวิ่งตามเขาไม่ทันด้วยซ้ำ
“ลิชารักพี่ติณณ์ที่สุดเลย” เธอโอบกอดรอบคอพี่ชายไว้แน่น
“รักพี่ ลิชาก็ต้องเป็นเด็กดีนะรู้ไหม?”
“อื้ม ลิชาจะเป็นเด็กดีเพื่อพี่ติณณ์”
♥
“พี่ติณณ์...”
“ชู่ว์!” ติณณ์ส่งสัญญาณให้อลิชาเงียบเสียง เวลานี้เขากำลังแอบฟังผู้ใหญ่คุยกัน
“มีอะไรเหรอพี่ติณณ์?” อลิชาค่อยๆย่องเข้าไปในวงแขนของพี่ชาย กระซิบถามเขาอย่างเป็นที่รู้กันว่าต้องส่งเสียงให้น้อยที่สุด
“พ่อแม่พี่กับพ่อแม่ลิชาคุยอะไรกันก็ไม่รู้”
“เราจะแอบฟังผู้ใหญ่คุยกันเหรอพี่ติณณ์?”
“เขากำลังคุยเรื่องของเรา”
“เรื่องของเรา?”
“เงียบก่อนลิชา...” ติณณ์ในเวลานี้โตพอที่จะรับรู้เรื่องของผู้ใหญ่แล้ว เขาในวัยสิบห้ายกมือขึ้นปิดปากน้องสาวที่อายุเพียงสิบขวบเท่านั้น ทั้งสองกำลังตั้งใจฟังสิ่งที่ผู้ใหญ่กำลังคุยกัน
“ก่อนที่ฉันจะส่งเจ้าติณณ์ไปเรียนต่อที่อังกฤษ ฉันอยากจะหมั้นหมายเด็กสองคนนั้นไว้ก่อน...วันนี้ฉันเลยอยากจะมาขออลิชาอย่างเป็นทางการ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังเด็ก แต่ฉันคิดว่าฉันดูไม่ผิดหรอก อีกหน่อยเด็กสองคนนั้นจะรักกัน และมันไม่ใช่ความรักแบบพี่ชายรักน้องสาวแน่” ตุลย์ ผู้เป็นพ่อของติณณ์ เป็นฝ่ายเปิดประเด็นที่ทำให้พวกเขามาเยี่ยมบ้านของอลิชาในวันนี้
“นายว่าไง ฉันก็ว่าตามนายตุลย์ เราต่างก็รู้ว่าลูกสาวฉันเอาแต่ใจตัวเองแค่ไหน เขาไม่ยอมลงให้ใครเลยนอกจากติณณ์” เสียงของฤกษ์ซึ่งเป็นพ่อของอลิชาดังออกมาจากห้องรับแขก
“เกวก็ยินดีมากค่ะ ลิชาเองก็คงดีใจถ้าได้รู้เรื่องนี้ ลูกสาวเกว...ถึงจะยังเด็กแต่ก็แก่แดดเอามากๆ เขาบอกแต่ว่าความฝันของเขาคือการได้แต่งงานกับติณณ์” เกวลิน แม่ของอลิชาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
“แบบนี้ก็ดีเลย ครอบครัวของเราจะได้ดองกันสักที ติณณ์เองก็รักลิชามาก เดี๋ยวพอโต...พวกเขาจะรู้ว่าความรักแบบพี่น้องมันจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นความรักแบบหญิงสาว” นลินีคิดมาตั้งแต่แรกที่รู้ว่าเกวลินจะคลอดลูกสาว ทั้งสองครอบครัวร่วมทำธุรกิจด้วยกันมานาน หากจะมีการดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน มันจะยิ่งดีมากเป็นเท่าตัว
“ฮึก! คืออะไร?! คุณลุงตุลย์จะส่งพี่ติณณ์ไปเรียนที่อังกฤษเหรอ?” อลิชาที่ได้ยินทุกอย่าง ปลดปล่อยหยดน้ำตาลงมาในทันที เธอไม่สนใจเรื่องที่ทั้งสองครอบครัวจะคลุมถุงชนแต่อย่างใด เพราะแน่นอนว่าเธออยากแต่งงานกับติณณ์เป็นที่หนึ่ง แต่ที่เธอรับไม่ได้...คือการที่พวกผู้ใหญ่จะจับเธอทั้งคู่แยกจากกัน
“...” ผิดกับติณณ์ที่นิ่งเงียบ เขารู้เรื่องการไปเรียนต่างประเทศดีอยู่แล้ว แต่วันนี้เขาเพิ่งได้รู้เรื่องการหมั้นหมายของเขาและอลิชา
“ฮึก! ลิชาไม่ให้พี่ติณณ์ไป! พี่ติณณ์ต้องอยู่ที่นี่กับลิชา!” เด็กสาวโผเข้ากอดพี่ชาย
“หยุดร้อง!” และนี่เป็นครั้งแรกที่พี่ชายตะคอกใส่น้องสาวตัวน้อยของเขา
“พะ...พี่ติณณ์?”
♥
“คุณหนู...ทานสักคำเถอะนะคะ ถ้าคุณหนูไม่ทานอะไรเลย คุณพ่อกับคุณแม่จะเป็นห่วงเอานะคะ” แต้ว สาวใช้คนสนิทของอลิชาเอ่ย ขณะที่ตักข้าวมาจ่อรอที่เรียวปากเล็ก ทว่าเด็กสาวกลับส่ายหน้าแล้วปัดช้อนหนี
“ลิชาไม่กิน! ทำไมพี่ติณณ์ไม่มาหาลิชาเลย! ที่โรงเรียนก็ไม่เจอ เสาร์อาทิตย์ก็ไม่มาหา!”
“คุณติณณ์อาจจะเรียนหนักก็ได้นะคะ ช่วงนี้ใกล้จะสอบแล้วนี่คะ”
“ลิชาอยากเจอพี่ติณณ์! ลิชาคิดถึงพี่ติณณ์! พี่แต้วโทรไปที่บ้านพี่ติณณ์หน่อยสิ บอกให้พี่ติณณ์มาหาลิชาตอนนี้เลย!” คุณหนูผู้เอาแต่ใจ ออกปากสั่งปาวๆ หลายวันมานี้เธอไม่เอาอะไรเลย ไม่ยอมกิน ไม่ยอมไปเรียนพิเศษ เพราะจิตใจจับจ้องอยู่แต่การหายหน้าไปของติณณ์
“โถ่คุณหนู...พี่จะมีสิทธิ์อะไรไปสั่งให้คุณติณณ์มาที่นี่ล่ะคะ?”
“ก็บอกไปสิว่าลิชาสั่ง! ถ้าพี่ติณณ์รู้ว่าลิชาคิดถึง เขาต้องมาแน่!”
“อะ...เอาแบบนั้นก็ได้ค่ะ” แต้มจำใจรับคำ ก่อนจะลุกจากห้องอาหารไปที่โทรศัพท์บ้าน แล้วโทรไปยังบ้านของติณณ์ แต่ไม่นานก็กลับไปหาอลิชา
“ว่ายังไงคะพี่แต้ว?”
“เอ่อ...คุณติณณ์บอกว่าไม่ว่างค่ะ สงสัยจะอ่านหนังสือหนักจริงๆ”
“ฮึก! หนังสือจะสำคัญว่าลิชาได้ยังไง?!” เด็กสาวเบะปากเหมือนกำลังจะร้องไห้
“คุณหนู...อย่าร้องเลยนะคะ...”
“พี่แต้ว! ไปบอกลุงชัยค่ะว่าลิชาจะไปหาพี่ติณณ์ที่บ้าน!”
♥
“พี่ติณณ์!”
ทันทีที่ลุงชัย คนขับรถพาอลิชามาส่งที่บ้านหลังใหญ่ของติณณ์ เด็กสาวก็วิ่งพรวดพราดขึ้นไปที่ห้องนอนของเขา เปิดประตูเข้าไปด้านในอย่างถือวิสาสะ แต่สิ่งที่ได้เห็นมันทำให้เธอพูดอะไรไม่ออก ติณณ์ไม่ได้กำลังอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบ แต่เขากำลัง...เล่นเกมอยู่กับกลุ่มเพื่อนผู้ชาย
“ใครวะติณณ์?” แทนไท เพื่อนสนิทของติณณ์เอ่ยถาม เมื่อเห็นอลิชาตัวน้อยวิ่งเข้ามาในห้อง
“อย่าสนใจเลย เล่นเกมต่อเหอะ” ติณณ์ไม่แม้แต่จะแยแสหรือปรายตามองอลิชา
“แต่น้องเขาเรียกมึงนะไอ้ติณณ์”
“กูบอกว่าไม่ต้องใส่ใจไง! ก็แค่ลูกเพื่อนพ่อ!”
“พี่ติณณ์! ฮึก! หันมาคุยกับลิชาเดี๋ยวนี้นะ!” อลิชาที่เห็นท่าทีเมินเฉยของติณณ์ก็เอ่ยขึ้นมาทันที
“น่ารำคาญ! ออกไปจากห้องสักทีลิชา!”
“ฮือๆ พี่ติณณ์เป็นอะไร?! ทำไมพี่ติณณ์ไม่สนใจลิชาเลย! ลิชาอุตส่าห์มาหา! ฮือๆ ลิชาคิดถึงพี่ติณณ์!”
ปัก!
“โถ่เว้ย!” ติณณ์โยนจอยเกมในมือลงกระแทกกับพื้น ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าอลิชา “มาทำไม?! ถ้าเหงาก็ไปหาเพื่อนสิ! จะมาวุ่นวายอะไรกับพี่นักหนา!”
“ฮึก!” อลิชานิ่งอึ้ง ตั้งแต่วันที่แอบฟังพ่อแม่คุยกันวันนั้น ติณณ์ก็เปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ จากที่ไม่เคยตะคอก ไม่เคยขึ้นเสียง ตอนนี้เขาไม่เคยพูดดีๆกับเธอเลย
“อย่าทำตัวน่ารำคาญ!”
“ฮือๆ พี่ติณณ์เป็นอะไร? ลิชาทำอะไรผิด? ฮือๆ หรือลิชานิสัยไม่ดี? ฮือๆ ลิชาจะปรับตัว...ฮึก! พี่ติณณ์มาเล่นกับลิชานะ อย่าทิ้งลิชานะพี่ติณณ์”
“พี่เพิ่งบอกไปไงว่าเธอมันน่ารำคาญ! ออกไปซะ! พี่ไม่อยากเห็นหน้าเธอ! พี่ไม่อยากแต่งงานกับเธอ!”
“พะ...พี่ติณณ์?”
“เธออยากแต่งงานกับพี่เหรอ?! เธออยากให้พ่อแม่บงการชีวิตเราหรือไง? พี่ไม่เอาด้วยหรอก! พี่ไม่อยากแต่งงานเป็นสามีเธอ!”
“แต่ลิชารักพี่ติณณ์...ฮือๆ ทำไมพี่ติณณ์ไม่อยากแต่งงานกับลิชา?”
“เธอรู้เหรอว่าการแต่งงานมันคืออะไร?! เธอท่องสูตรคูณถึงแม่สิบสองได้หรือยัง?! ไม่ต้องมารักพี่! เพราะพี่จะไม่รักเธอแล้ว! เราจะไม่รักกัน! ระหว่างเรามันเป็นได้แค่พี่น้อง! พี่ไม่มีวันเอาเธอมาเป็นภรรยา! จำเอาไว้ลิชา!”
“กรี๊ดดดดดด! ไม่เอา! พี่ติณณ์ต้องแต่งงานกับลิชา! ฮือๆ ไม่เอาแบบนี้! พี่ติณณ์ต้องรักลิชา! ต้องรักลิชาคนเดียว!”
“เลิกโวยวายสักที! พี่บอกแล้วไงว่าจะไม่แต่งงานกับเธอ! ยัยเด็กอ้วนหมูตอน! สวยก็ไม่สวย! ขาก็สั้น อ้วนก็อ้วน! เรียนก็ไม่เก่ง แถมนิสัยก็ไม่ดี! เอาแต่ใจตัวเองเป็นที่หนึ่ง! ใครจะไปอยากแต่งงานกับเธอ!”
“ฮือๆ ไอ้พี่ติณณ์บ้า! ฮือๆ” เด็กสาวตัวน้อยเข้าไปกำหมัดทุบอกพี่ชายตัวสูงอย่างแรง
ตุบ! ตุบ! ตุบ!
“โอ้ย! ลิชา!”
พลั่ก!
ตุบ!
“อ๊ะ! ฮึก! ฮือๆๆๆๆ” ร่างเล็กโดนคนที่ตัวโตกว่าผลักจนร่วงลงไปที่พื้น เธอแหกปากร้องไห้ออกมาไม่หยุด ร้องอยู่อย่างนั้นเพื่อเรียกให้เขากลับมาสนใจและใจอ่อนกับเธอ ทว่าติณณ์กลับเดินไปนั่นเล่นเกมต่อ เขาทำหูทวนลม ทำเหมือนว่าเธอไม่มีตัวตนอีกต่อไป
“อย่าร้องเลยนะ...มา พี่จะพาเธอไปกินไอติม” แต่ยังมีคนหนึ่งที่สนใจเธอ นั่นก็คือแทนไท
“ฮึก! อย่ามายุ่ง! ลิชาบอกตอนไหนว่าอยากกินไอติม!” และอลิชาก็ยังเป็นอลิชา ถึงจะเสียใจ ถึงจะกำลังร้องไห้ แต่ก็ใช่ว่าใครจะมาปลอบเธอได้ อย่างที่รู้ๆกันอยู่ ว่าเธอไม่เคยเอาใครเลยนอกจากติณณ์ ที่ซึ่งตอนนี้...เขาไม่ต้องการเข้าใกล้เธออีกต่อไปแล้ว
♥
“ลิชา...หนูจะไม่ไปสนามบินกับแม่จริงๆเหรอลูก?” เกวลินเข้ามาหาลูกสาวของเธอถึงในห้องนอน วันนี้เป็นวันที่ติณณ์จะต้องเดินทางไปเรียนต่อที่อังกฤษ ทุกคนคาดหวังให้อลิชาไปสั่งพี่ชาย ทว่าเธอกลับไม่ยอมลุกจากเตียง
“ไม่ไปค่ะ ฮึก! พี่ติณณ์เขาไม่อยากเจอหน้าลิชา ลิชาเองก็ไม่อยากเจอหน้าพี่ติณณ์เหมือนกัน” หยดน้ำตายังคงไหลอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าเธอจะเสียใจที่ถูกติณณ์ทำใจร้ายใส่และผลักไสเธอ แต่สิ่งที่เสียใจกว่านั้นคือการที่เธอจะไม่ได้เจอหน้าเขาอีกหลายปี
“ทำไมล่ะลูก? พี่ติณณ์คงจะอยากบอกลาหนูนะ หนูไม่อยากไปส่งพี่เขาเหรอ?”
“ฮือๆ ไม่ค่ะ! ลิชาไม่รักพี่ติณณ์แล้ว! คุณแม่ได้ยินไหมคะว่าลิชาไม่รักพี่ติณณ์แล้ว! เพราะพี่ติณณ์เขาก็ไม่รักลิชา! ฮึก! พี่ติณณ์เขาเกลียดลิชา! พี่ติณณ์เขาบอกว่าจะไม่แต่งงานกับลิชา! ลิชาก็จะไม่แต่งงานกับเขาเหมือนกัน!”
“ลิชา หนูพูดเรื่องอะไรลูก?”
“ฮึก! พี่ติณณ์กับหนูรู้ว่าคุณพ่อกับคุณแม่แล้วก็คุณลุง คุณป้า จะให้พวกเราแต่งงานกัน เพราะแบบนั้นพี่ติณณ์เขาถึงเกลียดหนู! ฮือๆ ยกเลิกการแต่งงานได้ไหมคะ? ฮือๆ การแต่งงานนั่นมันทำให้พี่ติณณ์เกลียดหนู!”
“โถ่ลูกแม่...” เกวลินดึงตัวลูกสาวเข้ามากอดไว้แน่น “เดี๋ยวพอโตขึ้น พี่ติณณ์ก็จะไม่เกลียดหนูแล้วล่ะจ่ะ เพราะลูกของแม่จะโตมาเป็นคนสวย สวยมากจนใครๆก็อยากจะแต่งงานด้วย”
“ฮึก! ไม่จริง! พี่ติณณ์บอกว่าลิชาอ้วนเป็นหมูตอน! เขาบอกว่าหนูไม่สวย แล้วก็นิสัยแย่ เขาถึงไม่อยากแต่งงานกับหนู!”
“งั้นแม่ถามอีกครั้ง ว่าจริงๆแล้วหนูอยากแต่งงานกับพี่ติณณ์หรือเปล่า?”
“...” อลิชานิ่งไป
“ว่าไงคะคนดีของแม่? หนูรักพี่ติณณ์ไหมคะ? โตขึ้นไปหนูอยากเป็นเจ้าสาวของพี่ติณณ์ไหม?”
“ฮึก! ค่ะ...ถึงพี่ติณณ์จะใจร้าย ถึงพี่ติณณ์จะไม่รักหนูแล้ว แต่หนูก็ยังรักและอยากแต่งงานกับพี่ติณณ์อยู่ดี” ด้วยความไร้เดียงสาและด้วยความเป็นเด็ก อลิชาจึงได้ตอบไปตามความรู้สึก โดยที่เธอไม่มีทางรู้เลย...ว่ากาลเวลาและระยะทางมันเปลี่ยนอะไรได้มากมายเหลือเกิน
♥
“ฮือๆๆ ฮือๆๆ คุณลุง...คุณป้า...ฮือๆๆ” อลิชาในวันสิบสองขวบนั่งร้องไห้ราวกับจะขาดใจ ต่อหน้าโลงศพของตุลย์และนลินี ผู้เป็นพ่อและแม่ของติณณ์ที่เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์
“ลิชา...เช็ดน้ำตาลูก หนูร้องไห้มาทั้งวันแล้ว เข้าไปไหว้ศพคุณลุงกับคุณป้าหน่อยนะลูก” เกวลินเข้ามาเช็ดน้ำตาให้ลูกสาว
“ฮึก! คุณแม่...ทำไมคุณลุงกับคุณป้าถึงจากไปแบบนี้คะ? แล้วต่อไปพี่ติณณ์เขาจะอยู่ยังไง? ฮือๆ ลิชาสงสารพี่ติณณ์...ลิชาอยากเจอพี่ติณณ์ ทำไมจนถึงป่านนี้แล้วพี่ติณณ์เขายังไม่กลับมาจากอังกฤษอีกคะ?” เด็กสาวเอ่ยถามทั้งน้ำตา
“พี่ติณณ์เขา...โถ่ลิชาลูก...”
“ฮือๆ พี่ติณณ์เขารู้หรือยังคะว่าคุณลุงกับคุณป้าไปสวรรค์แล้ว?”
“ไม่มีใครติดต่อพี่ติณณ์เขาได้เลยลูก...พี่ติณณ์เขาหายไป ตอนนี้คุณพ่อเองก็พยายามตามหาเขาอยู่”
“มะ...หมายความว่ายังไงคะ? พี่ติณณ์เขาหายไปไหนคะคุณแม่?”
“ไม่มีใครรู้เลยลูก...พอคุณลุงกับคุณป้าประสบอุบัติเหตุ พ่อกับแม่ก็พยายามติดต่อพี่ติณณ์ แต่ที่อยู่และเบอร์ติดต่อที่เรามี...เขาบอกว่าพี่ติณณ์ไม่ได้อยู่ที่นั่น...ตอนนี้แม่เองก็จนปัญญา แม่อยากให้พี่ติณณ์เขาได้มาไหว้คุณลุง คุณป้าเป็นครั้งสุดท้าย แต่แม่ไม่รู้ว่าจะไปตามหาเขาที่ไหนจริงๆ”
“ฮือๆ ไม่เอา...ฮือๆๆๆ พี่ติณณ์หายไปไหน?! ฮือๆ คุณแม่...ได้โปรด...ตามหาพี่ติณณ์ให้ลิชาที...ลิชาอยากกอดพี่ติณณ์ ลิชาอยากให้พี่ติณณ์รู้ว่าถึงไม่มีคุณลุงกับคุณป้าแล้ว แต่พี่ติณณ์ก็ยังมีลิชา...ฮือๆๆ”
“โถ่เอ้ย...ลิชาลูก...”

