บทที่ 6 ...ไม่ต้องการอะไรนอกจาก...
The Resident : 22.30 PM
ติณณ์พาอลิชาขึ้นมายังเพนท์เฮาส์ของเขา ซึ่งอยู่บนชั้นสูงสุดของ The Resident คอนโดมิเนียมสุดหรูสูงเฉียดฟ้า ซึ่งมีราคาเกินที่คนทั่วไปจะเอื้อมถึง เขาจูงมือเธอมานั่งที่โซฟาหนังตัวยาว อลิชายังคงร้องไห้...ยิ่งร้องหนักเมื่อได้เจอหน้าเขา เธอกุมมือเขาไม่ยอมปล่อย จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่คิดบอกถึงเหตุผลที่ทำให้เสียน้ำตา
“ทำไมแก้มแดงแบบนี้...ใครทำอะไรเธอ บอกพี่ได้ไหม?” มาเฟียหนุ่มสัมผัสรอยแดงเป็นรอยฝ่ามือที่แก้มของอลิชาเบาๆ ดูแค่นี้ก็รู้ว่าเธอโดนตบหน้ามา และมันคงไม่ใช่ใครที่ไหน
“ฮึก!”
“พี่อยากปลอบเธอ อยากช่วยเธอ แต่จะทำแบบนั้นได้ยังไงในเมื่อเธอเอาแต่ร้องไห้แบบนี้”
“ฮึก! ลิชาไม่รู้จะเริ่มพูดยังไง ไม่รู้จริงๆว่าต้องเริ่มที่ตรงไหน”
“เริ่มที่หยุดร้องไห้ก่อน...น้ำตาของเธอมันทำให้พี่อยากจะบ้าแล้วรู้ไหม?” ติณณ์ค่อยๆบรรจงเช็ดน้ำตาให้หญิงสาวด้วยมือ ก่อนจะกดจูบที่พวงแก้มแดงเปื้อนน้ำตานั้นอย่างแผ่วเบา
“ฮึก!”
“วันนี้เธอร้องไห้มาเยอะแล้วนะ เก็บน้ำตาเอาไว้ร้องวันหลังบ้าง...”
“วันไหนคะ? ยังต้องมีวันที่ลิชาต้องร้องไห้อีกเหรอ?”
“วันที่พี่ขอเธอแต่งงานไง” เขาโกหก โกหกคำโต
“พี่ติณณ์?”
“หรือเธอไม่อยากแต่งงานกับพี่แล้ว?”
“แต่เราเพิ่งเจอกัน...”
“ยังอยากจะรออีกเหรอ? เธอรอพี่มาสิบห้าปีแล้วนะ”
“ฮึก! เราจะแต่งงานกันได้ยังไงคะ? ในเมื่อ...” เขาหลอกล่อให้เธอบอกเหตุผลได้สำเร็จ หลอกให้เธอตายใจได้อย่างแนบเนียน
“ในเมื่ออะไร?”
“ในเมื่อคุณพ่อไม่อยากให้ลิชามาเกี่ยวข้องกับพี่ติณณ์ นี่เป็นครั้งแรกที่คุณพ่อลงมือกับลิชา เราทะเลาะกันแรงที่สุดตั้งแต่ที่ลิชาจำความได้ ฮึก! ลิชาไม่เข้าใจเลย...คุณพ่อรู้มาตลอด เขารู้ว่าพี่ติณณ์ทำงานอะไร เขาบอกว่าพี่ติณณ์จะกลับมาเพื่อแย่งทุกอย่างไป คุณพ่อต้องไม่มีทางยอมให้เราแต่งงานกันแน่”
“...” ติณณ์นิ่งเงียบ เพราะสิ่งที่อลิชาพูดมา มันไม่เกินความคาดหมายของเขา ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าฤกษ์คิดจะทำอะไร
“พี่ติณณ์พูดอะไรสักอย่างได้ไหมคะ? บอกลิชาได้ไหมว่าคุณพ่อเข้าใจผิด...บอกได้ไหมว่าพี่ติณณ์ไม่ได้คิดจะทำแบบนั้น”
“แล้วพี่จะแย่งอะไรมาจากคุณอาล่ะ?”
“บริษัท...คุณพ่อกลัวว่าพี่ติณณ์จะมาเอา Jira Group ไปจากเขา ลิชารู้ค่ะว่าบริษัทเป็นของพี่ติณณ์...ลิชาบอกคุณพ่อไปแล้วว่าเราควรจะคืนมันให้เจ้าของ แต่คุณพ่อก็ไม่ฟังอะไรเลย...”
“พี่ไม่เคยอยากได้ Jira Group” เขาพูดเรื่องจริง การกลับมาครั้งนี้เขาไม่ได้มาเพื่อจะทวงบริษัทคืน “อาฤกษ์ลงทุนลงแรงไปกับมันตั้งหลายปี ถ้าไม่มีเขามาสานต่อ บริษัทคงไปไม่รอด แล้วพี่จะไปแย่งมันคืนมาเพื่ออะไร อีกอย่าง...ตอนนี้พี่ก็มีธุรกิจเป็นของตัวเอง”
“ลิชาเชื่อพี่ติณณ์...ลิชารู้จักพี่ติณณ์ดีกว่าใคร ลิชารู้ว่าพี่ติณณ์ไม่ทางทำร้ายคุณพ่อแน่ๆ แต่ลิชาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมคุณพ่อถึงคิดแบบนั้น”
“พี่ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น...ไม่ต้องการอะไรนอกจาก...” ขณะที่กำลังเอ่ย เสือร้ายก็คิดจะล่ากวางด้วยไปในคราวเดียวกัน เขาสอดมือหนาเข้าให้ท้ายทอย รั้งใบหน้าเล็กเข้ามาใกล้ ค่อยๆจูบเธอเบาๆ ‘นอกจากการได้แก้แค้น’ นั่นคือสิ่งที่เขาคิด แต่เพียงไม่ได้พูดมันออกไป
“พี่ติณณ์...”
“เร็วไปไหมถ้าพี่อยากจะบอกว่าเธอต้องการเธอ”
“...” เขาทำให้เธอหวาดหวั่นขึ้นมาอีกครั้ง
“หรือเธอไม่ต้องการพี่?”
“มะ...ไม่ใช่แบบนั้นค่ะ แต่...”
“พี่คิดว่าเราสองคนมีความต้องการตรงกัน...หรือพี่คิดผิด?” เสือร้ายจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของกวางน้อย กระชับเธอเข้ามาใกล้จนสองร่างบดเบียดกันและกัน
“ละ...ลิชาต้องการพี่ติณณ์ แต่ลิชาอยากให้เราค่อยเป็นค่อยไป...ได้ไหมคะ?”
“หึ!” เธอไม่ง่าย เขาเพิ่งจะรู้ก็ตอนนี้เอง
“โกรธลิชาหรือเปล่า?” เธอเอ่ยถาม สายตาและน้ำเสียงเตรียมจะง้อเขาสุดฤทธิ์ เมื่อเขาถอยตัวออกห่างจากเธอ
“พี่เข้าใจ เธออาจจะยังไม่มั่นใจในตัวพี่”
“พี่ติณณ์โกรธลิชา...”
“เปล่า”
“ดูก็รู้ว่าโกรธ ไม่ใช่ว่าลิชาจะไม่ให้...แต่วันนี้ลิชาไม่พร้อมจริงๆ พี่ติณณ์เข้าใจลิชานะคะ” เธอง้อเขา แทรกกายเข้าไปในวงแขนแกร่ง ซุกใบหน้าลงไปนัวเนีย ลมหายใจอุ่นๆของเธอมันทำให้ชายหนุ่มได้แต่นิ่วหน้า จริงอยู่ที่เขามองว่าเธอเป็นเพียงอาวุธสำหรับการแก้แค้น แต่ใบหน้าสวยๆ ผิวขาวๆกับหน้าอกนุ่มนิ่มมันก็แสนจะยั่วยวนและเชื้อเชิญเขาเหลือเกิน และเขาก็เป็นผู้ชาย...เมื่อมีความต้องการ ต่อให้เกลียดแค่ไหน ก็จับกินได้ทั้งนั้น
“ลิชา...”
“คะ?”
“ถ้าไม่ให้ก็อย่ายั่วพี่สิ”
“งื้อ! ยั่วที่ไหนคะ? ลิชากำลังง้อพี่ติณณ์อยู่ต่างหาก”
“บอกแล้วไงว่าพี่ไม่ได้โกรธ”
“งั้นก็ยิ้มหน่อยสิคะ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่ม “ยิ้มให้ลิชาดูหน่อย...”
“...” ติณณ์ยกยิ้มออกมาตามที่อลิชาต้องการ “พอใจหรือยัง?”
“พอใจแล้วค่ะ พอใจที่สุดเลย”
“แล้วพอได้รู้ว่าพี่ไม่คิดจะแย่งอะไรมาจากอาฤกษ์ทั้งนั้น...เธอสบายใจขึ้นมาบ้างหรือยัง?”
“ค่ะ ลิชาจะไปคุยกับคุณพ่อ ลิชาจะทำให้ท่านเชื่อว่าพี่ติณณ์ยังเป็นคนเดิม”
“คนเดิมเหรอ?”
“ก็คนที่รักลิชาไงคะ”
“...” เขาเพียงยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร ใครกันที่บอกว่าเขารักเธอ? เท่าที่จำได้...กลับมาครั้งนี้เขายังไม่ได้เอ่ยคำว่ารักออกไปแม้แต่คำเดียว
“งั้น...ลิชากลับก่อนดีกว่า ดึกมากแล้ว พี่ติณณ์จะได้พักด้วย”
หมั่บ!
ติณณ์คว้าร่างบางให้เข้ามานั่งลงบนตักเขาอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นว่าเธอคิดจะลุกออกไปจากโซฟา
“อ๊ะ! พี่ติณณ์?!”
“กวางน้อยเข้าถ้ำเสือแล้ว...คิดว่าจะได้กลับออกไปง่ายๆเหรอ?”
“งื้อ! เราคุยกันแล้วนี่คะว่าจะไม่...”
“ก็แล้วใครว่าพี่จะทำล่ะ? พี่ชายคนนี้ไม่ได้เจอน้องสาวมาตั้งสิบห้าปี...ขอนอนกอดให้หายคิดถึงสักคืนไม่ได้หรือไง?”
“พี่ติณณ์จะให้ลิชาค้างที่นี่เหรอคะ?”
“อย่าบอกอีกนะว่าไม่ได้ จะใจร้ายกับพี่เกินไปแล้วนะถ้าเป็นแบบนั้น”
“แต่ลิชาไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ไม่มีชุดนอนด้วยซ้ำ...”
“ก็ไม่ต้องใส่สิ พี่ก็จะไม่ใส่ด้วย”
“งื้อ! พี่ติณณ์...”
“อย่าทำหน้าเขินบ่อยได้ไหม? ถ้าทนไม่ไหวพี่อาจไม่ทำแค่นอนกอดเธอ...” เขาจ้องลึกลงไปในดวงตาคู่สวย น้ำเสียงนั้นจริงจังจนทำให้ร่างบางในอ้อมกอดทำตัวไม่ถูก
“ไม่เอาแล้ว...ถ้าพี่ติณณ์เอาแต่จ้องลิชาแบบนี้ จะไม่ให้เขินได้ยังไง?”
“ก็พี่อยากมองเธอนี่ อยากมองหน้าสวยๆของเธอให้นานๆ” ใช่...เขาอยากจะมองเธอให้นานๆ ก่อนจะถึงวันที่เขาต้องทำให้มันต้องเปื้อนน้ำตา
