บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 กลั่นแกล้ง

ในตอนเช้าวันถัดมาอธิปก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะฟื้น ซึ่งแพทย์เจ้าของไข้แจ้งแต่แรกแล้วว่าอาจเกิดผลข้างเคียงของฤทธิ์ยาสลบและร่างกายที่กำลังฟื้นตัวนั้นยังไม่พร้อมที่จะตื่นขึ้นมาในตอนนี้

มารดาบุญธรรมวัยสามสิบสองโน้มใบหน้าลงไปจูบลาเจ้าตัวน้อยพร้อมกับลูบศีรษะด้วยความรักใคร่

หากผ่านพ้นช่วงสองเดือนที่แสนยากลำบากนี้ไปได้เธอจะพาเขาหนีไปอยู่ชนบทที่ห่างไกล เพื่อบรรยากาศที่ดีต่อการฟื้นตัวของเขาและค่าครองชีพที่น่าจะถูกกว่าการอยู่ในเมืองใหญ่แบบนี้

พีรญาอาบน้ำเปลี่ยนเป็นเสื้อผ้าชุดที่สุภาพเพื่อไปเริ่มงานทาสของเธอเป็นวันแรก

เมื่อไปถึงคฤหาสน์ตันติวิลามาศ หญิงสาวก็ถูกพาตัวไปพบกับเจ้าของคฤหาสน์หลังงานที่ห้องทำงานของเขา

ศานต์มองดูชุดที่เธอสวมใส่อย่างขัดใจ ก่อนหน้านี้ตอนที่คบหากับเขาชายหนุ่มซื้อเสื้อผ้าแบรนด์เนมที่ดูดีกว่านี้ให้เธอได้สวมใส่

“ไม่มีชุดที่ดูดีกว่าชุดแบบนี้แล้วเหรอ” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เย้ยหยัน

“ไม่มีค่ะ”

“ชุดที่ฉันเคยซื้อให้ล่ะ”

“ฉันขายเอาเงินมาใช้จ่ายหมดแล้วค่ะ” หญิงสาวตอบตามตรง แล้วมองเขาที่ดูเหมือนว่าไม่พอใจกับคำตอบนั้นแต่มันก็เป็นความจริงที่เธอไม่อยากโกหก

“ไอ้หมอนั่นมันคงไม่ได้เลี้ยงดูเธอดีไปกว่าฉัน แต่เธอก็คงติดใจเรื่องบนเตียงของมันจนยอมไปกัดก้อนเกลือกินด้วยกัน ตลกสิ้นดี” เขาพูดเหมือนจะดูถูกเธอ

แต่ลึกๆ ในใจนั้นสมเพชตัวเองมากกว่าที่เงินของเขารั้งหญิงสาวเอาไว้ไม่ได้ เธอยอมปล่อยมือเขาเพื่อไปกับผู้ชายคนอื่นแล้วยังตั้งท้องในขณะที่ยังคบหากับเขา

พีรญาไม่อยากแก้ตัวอะไรทั้งนั้น เธอปล่อยให้เขาเข้าใจผิดต่อไป เพราะอย่างไรพูดตอนนี้มันก็คงไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นและอาจจะถูกมองว่าเธอต้องการผลประโยชน์จากเขา

ในเมื่อตอนนั้นเขาไม่ยอมฟัง ตอนนี้มันหมดเวลาแล้วเธอก็ไม่ต้องการอธิบายใดๆ เช่นกัน!

“งานแรกที่คุณจะให้ฉันทำคืออะไรคะ” เธอเข้าเรื่องโดยไม่อ้อมค้อม

“แปลงดอกไม้ด้านหลังมันร้างมานานแล้ว เธอไปจัดการถางหญ้าและเตรียมดินไว้ พรุ่งนี้ฉันจะให้คนซื้อดอกไม้มาลงปลูก” เขาใช้งานเธอในสิ่งที่สามารถใช้คนสวนได้เพื่อต้องการกลั่นแกล้งให้เธอทำในสิ่งที่ไม่เคยทำ

“ค่ะ” หญิงสาวรับปากโดยไม่มีข้อแม้ แล้วเดินไปยังแปลงดอกไม้ที่อยู่ในเรือนกระจกด้านหลัง

ความหลังเมื่อครั้งที่ยังรักกันเขาทำเรือนกระจกเพาะชำนี้เพื่อปลูกดอกไม้ที่เธอชอบ ตอนนี้มันรกร้างต่างจากเดิมมาก แม้เธอใช้เวลาทำทั้งวันก็อาจเสร็จไม่ทันเวลาที่เขาจะปลูกดอกไม้ในวันพรุ่งนี้

“เขาจงใจให้เราทำงานเกินเวลา”

ริมฝีปากบางพึมพำออกมาแล้วมองไปรอบๆ เพื่อวางแผนขั้นตอนการทำงาน

เธอไม่มีเวลามาคิดน้อยใจในโชคชะตา เมื่อลำดับขั้นตอนในหัวเสร็จก็รีบลงมือจัดการงานตรงหน้าโดยเริ่มจากการถอนวัชพืชออกจากแปลงปลูกก่อนเป็นอันดับแรก

************************

“ตอนนี้คุณแพนถอนหญ้าและกำจัดวัชพืชอยู่ยังไม่เสร็จเลยครับ จะให้เธอกลับเลยหรือว่าให้เธอทำต่อไปครับ” ลูกน้องมือขวาเข้ามารายงานผลทุกชั่วโมงตามที่เขาสั่ง

ศานต์มองดูนาฬิกาที่ตอนนี้บอกเวลาสี่โมงเย็นแล้ว เธอยังไม่ได้พักกินข้าวตั้งแต่ตอนเที่ยง เขาเองก็ไม่อยากใจร้ายมากไปนักจึงตัดสินใจให้เธอกลับไปก่อน

“งานคงยากไปสินะ งั้นให้เธอกลับไปก่อน แล้วเรียกเธอมาพบฉันด้วย” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ราบเรียบ

พีรญาที่มองดูแปลงดอกไม้ที่ปกคลุมด้วยวัชพืช เหลืออีกสองแปลงเธอก็จะถอนหญ้าเสร็จแล้ว แต่ขั้นตอนอื่นๆ นั้นยังไม่ได้เริ่มเลย

เมื่อนทีเดินมาบอกเธอว่าศานต์อนุญาตให้เธอพักและกลับไปก่อนหญิงสาวก็ถึงกับโล่งใจ

เธอเก็บเครื่องมือทำสวนในตู้เก็บอุปกรณ์จากนั้นก็เดินตามลูกน้องของเขากลับเข้าไปในบ้านตามที่เขาสั่งเอาไว้

ศานต์มองเธอที่เนื้อตัวมอมแมมแล้วก็ยกยิ้มอย่างสมเพช สายตาที่ไร้ความปรานีนั้นพีรญาไม่ได้รู้สึกอะไร เธอรู้อยู่แล้วว่าอย่างไรก็ไม่มีวันกลับมารู้สึกต่อกันได้อีกแล้ว

“พรุ่งนี้ค่อยมาทำต่อ ฉันให้เวลาเธอห้าวันก็แล้วกัน กลับบ้านได้” เขาใจดีขยายเวลาให้เธอเพิ่ม

“ค่ะ” เธอรับคำสั่งนั้นแล้วหมุนตัวจะเดินกลับออกไป แต่รู้สึกหน้ามืดจึงเซนิดๆ แล้วถลาไปพิงตัวที่ตู้โชว์ที่ตั้งอยู่ข้างประตูเพื่อพยุงตัวเอาไว้ก่อน

“อย่าเอาเนื้อตัวสกปรกของเธอมาถูกเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงของฉัน” เขาตวาดเธอเสียงดังด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ

พีรญาสูดลมหายใจนึกถึงหน้าลูกบุญธรรมแล้วอดทนต่อเรื่องนี้ ก่อนจะยืดตัวตรงแล้วเดินออกจากห้องทำงานของเขาไป

“นที” เขาเรียกลูกน้องของตน

นทีเดินเข้ามายืนตรงหน้าแล้วรอรับคำสั่งของเจ้านาย

“หาคนไปรับส่งเธอ แต่อย่าให้เธอรู้ว่าฉันสั่ง” ศานต์สั่งด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงเล็กน้อย หัวใจเขามันไม่แข็งพอที่จะมองเห็นอดีตคนรักต้องล้มพับไปต่อหน้าแม้จะยังโกรธเธอมากแค่ไหนก็ตาม

“ครับ” ลูกน้องมือขวารับคำสั่งแล้วรีบออกไปจัดการตามที่เจ้านายสั่ง

พีรญาที่กำลังเดินไปตามทางเดินมุ่งหน้าสู่ประตูรั้วด้านหน้าด้วยความหิวและอ่อนแรง เธอหยุดชะงักเมื่อมีรถเก๋งคันกลางเก่ากลางใหม่มาจอดเทียบข้างๆ เธอ

“ให้พี่ไปส่งไหมคะ” สาวใช้เก่าแก่ที่เคยรู้จักกันถามเธอด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตร เธอเป็นภรรยาของนทีผู้ช่วยมือขวาของศานต์

“เอ่อ พี่ดาจะไปไหนเหรอคะ” หญิงสาวถามด้วยความเกรงใจ หากไปคนละทางเธอจะได้ไม่รบกวน

“พี่จะไปตลาดสดเทศบาลน่ะ พอดีว่าซื้อมาไม่ครบ” สาวใช้วัยสามสิบหกยิ้มตอบ

พีรญาตัดสินใจจะติดรถไปกับเธอ เพราะตลาดที่ว่านั้นอยู่เส้นทางเดียวกัน

“งั้นขอรบกวนด้วยนะคะ” หญิงสาวขึ้นไปนั่งข้างๆ ที่เบาะด้านหน้า เมื่อเจอกับแอร์เย็นๆ ในรถก็รู้สึกดีขึ้นไม่น้อย

“ให้ไปส่งที่ไหนดีคะ” ลัดดาแกล้งถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้ว เพราะนี่คือคำสั่งของเจ้านาย

“โรงพยาบาลเอกอนันต์ค่ะ”

“ทางผ่านพี่พอดีเลย พี่ไปตลาดเองทั้งเช้าและเย็น ติดรถมาพร้อมพี่ทุกวันก็ได้นะคะไม่ต้องเกรงใจ ยังไงก็ทางเดียวกันอยู่แล้ว” เธอบอกตามที่นทีสั่งเอาไว้ว่าให้เสนอความช่วยเหลือแก่อีกฝ่าย

“ถ้าอย่างนั้นต้องขอรบกวนด้วยนะคะ” พีรญารับน้ำใจนั้นเอาไว้เพราะเธอไม่มีทางเลือกมากนัก อันไหนประหยัดเงินและประหยัดเวลาได้เธอต้องเก็บเกี่ยวเอาไว้ก่อน

“นี่ค่ะขนมปังค่ะ คุณแพนกินรองท้องก่อนนะคะ ตอนเที่ยงพี่เห็นทำงานไม่ได้พักเลย” ลัดดาเอาขนมที่เตรียมไว้มอบให้เธอแล้วหันไปตั้งใจขับรถไปส่งอีกฝ่ายให้ถึงที่

พีรญารับเอาไว้แล้วด้วยความซาบซึ้งใจที่มีคนทำดีกับเธออยู่ในบ้านหลังนี้ โดยไม่รู้เลยว่าทั้งหมดคือความช่วยเหลือลับๆ ของอดีตคนรักของตน

************************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel