บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 ข้อแลกเปลี่ยน

ริมฝีปากหยักแสยะยิ้มออกมาด้วยความสมเพชเมื่ออดีตคนรักที่ทอดทิ้งเขาไปกำลังมาขอความช่วยเหลือจากเขา

ศานต์ ตันติวิลามาศ ในวัยสามสิบแปดเคาะนิ้วลงบนโต๊ะทำงานขนาดใหญ่อย่างเป็นจังหวะ ก่อนที่จะกลั้วเสียงหัวเราะออกมาด้วยความสะใจปนเวทนา

ทำเอาอดีตคนรักอย่าง พีรญา รู้สึกอับอายที่บากหน้ามาขอความช่วยเหลือจากเขา ซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายที่เธอไม่เคยคิดจะมาหาหากไม่จนตรอกแล้วจริงๆ

“เงินแค่สามแสนพ่อของเด็กไม่มีปัญญาจ่ายค่าผ่าตัดลูกชายเขาเหรอ” น้ำเสียงนั้นเย้ยหยันเธอ แต่หญิงสาวก็ต้องอดทนเอาไว้

“เขาเสียชีวิตไปแล้ว ครอบครัวของเขาก็ไม่ยอมรับน้องอาร์ม ถ้าฉันไม่ถึงที่สุดจริงก็คงไม่มาขอความช่วยเหลือจากคุณ” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาหวิว

ท้องไส้ปั่นป่วนเพราะรู้ว่าอีกฝ่ายโกรธแค้นตนมากแค่ไหนกับเรื่องเมื่อหลายปีก่อน

ในตอนนั้นแม้จะอ้าปากอธิบายเขาก็ไม่ยอมฟัง เขาเชื่อในสิ่งที่คนอื่นบอกเขามากกว่าคำพูดของเธอ แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรหากคนรักขาดความเชื่อใจกันและด่าทอผลักไส

การที่เธอออกไปจากชีวิตเขาในตอนนั้นมันดีกับทุกฝ่ายแล้วจริงๆ

“สามแสน แล้วอะไรล่ะคือข้อแลกเปลี่ยน” เขาถามเธอแล้วมองเรือนร่างที่หญิงสาวหวงนักหนา ไม่ยอมให้เขาชิงสุกก่อนห่ามแต่กลับตั้งท้องกับคนอื่น

“ฉันไม่มีสมบัติอะไรติดตัวเลยสักชิ้น เป็นไปได้ไหมที่คุณจะเมตตาให้ฉันยืมโดยไม่มีอะไรค้ำประกัน” เธอถามด้วยน้ำเสียงที่แผ่วลงเรื่อยๆ

เกรงว่าตนเองจะพูดอะไรออกไปให้เขาไม่พอใจแล้วไม่ยอมช่วยเหลือเธอ เพราะเท่าที่ดูตอนนี้ก็มีความหวังริบหรี่เหลือเกิน

ใบหน้าที่เศร้าและแววตาที่เต็มไปด้วยความทุกข์ ร่างกายที่ซูบผอมเพราะทำงานอย่างหนักเพื่อหาเงินมารักษาลูกชายทำให้เธอดูไม่เหมือนคนที่เคยสวยงามก่อนหน้านี้

แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาใจอ่อนกับเธอเลยสักนิด

“เธอมาเป็นทาสฉันเป็นเวลาสองเดือน”

“สองเดือน แค่สองเดือนใช่ไหม”

“ใช่ การช่วยเหลือจากฉันแลกกับอิสรภาพของเธอทั้งสองเดือน แล้วฉันจะช่วยค่ารักษาพยาบาลทั้งหมด”

ข้อเสนอของเขาเป็นทางออกสุดท้ายของเธอ แม้จะรู้ว่าต้องเผชิญกับการกลั่นแกล้งจากเขาพีรญาก็ต้องรับมันเอาไว้

“ค่ะ ฉันยินดีรับข้อเสนอของคุณ” เธอรับปากอย่างไม่มีทางเลือกอื่นที่จะหาเงินมารักษาเด็กชายวัยสองขวบในการผ่าตัด

ศานต์หัวเราะอีกครั้งด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ จนเธอขนลุกซู่ไปทั่วร่าง

ริมฝีปากที่หัวเราะนั้น พูดด้วยเสียงที่น่าเกรงขามและดุดัน “ดี งั้นนับตั้งแต่วันนี้ไปเธอคือทาสของฉัน”

พีรญากลืนน้ำลายแทบไม่ลง เหมือนมีก้อนบางอย่างจุกอยู่ที่ลำคอ

ชะตาชีวิตของเธอหลังจากนี้อีกหกเดือนต้องเผชิญกับอารมณ์ที่แปรปรวนของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้

************************

ณ โรงพยาบาลเอกชนที่มีชื่อเสียงด้านหมอเฉพาะทางด้านการผ่าตัดหัวใจ

พีรญามาให้กำลังใจหลานรักที่ตนรับเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม เด็กชายอธิปกำลังจะเข้ารับการผ่าตัดเพราะการช่วยเหลือจากศานต์ที่จ่ายค่าเข้ารับการผ่าตัดให้ก่อนแล้ว

“สู้ๆ นะครับน้องอาร์ม แม่จะอยู่ตอนที่หนูตื่น” เธอลูบผมเด็กน้อยแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน

เด็กน้อยค่อยๆ หลับไปเพราะความอ่อนเพลียและฤทธิ์ยา จากนั้นเธอก็มองดูอธิปถูกพาเข้าห้องผ่าตัดไปเพื่อดมยาสลบและเข้ารับการผ่าตัดตามขั้นตอนโดยที่หญิงสาวกลับไปรอที่ห้องพักฟื้นด้วยความกังวลใจ

อธิปเป็นลูกของน้องสาวของเธอที่ตั้งท้องกับแฟนหนุ่ม ในตอนนั้นศานต์ถูก ธนิดา ผู้หญิงที่พยายามแทรกกลางระหว่างความสัมพันธ์ของเธอและเขามาพูดเป่าหูว่าคนที่ตั้งท้องเป็นเธอ

พร้อมกับหลักฐานรูปถ่ายตอนที่พาน้องสาวไปฝากครรภ์แต่ถ่ายติดรูปเธอกับแฟนของน้องสาวเพียงสองคน

หญิงสาวพยายามอธิบายแต่เพราะเขาโกรธมากจนพลั้งผลักเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ ประกอบกับหูเบาเชื่อคนอื่นโดยไม่ฟังเหตุผลทำให้หญิงสาวไม่ได้อธิบายและออกมาจากชีวิตเขาตั้งแต่ตอนนั้น

ยอมถูกศานต์ตราหน้าว่านอกใจ ดีกว่าคบกับเขาไปแล้วต้องทนอยู่กับคนที่ไม่เคยเชื่อใจเธอและหูเบาฟังคนนอก อนาคตหากอยู่ร่วมกันไปก็คงไม่มีความสุข

สู้ถอยออกมาในช่วงที่น้องสาวต้องการกำลังใจเพราะครอบครัวของแฟนหนุ่มไม่ยอมรับเธอและลูกในท้องจะดีกว่า

อีกอย่างฐานะที่แตกต่างกันนั้นเป็นปัญหาตั้งแต่แรกแล้ว การที่เธอตัดสินใจถอยออกไปจึงไม่ใช่เพียงเพราะน้อยใจหรืออารมณ์ชั่ววูบ

ต่อมาน้องสาวเธอคลอดลูกไม่นานก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตพร้อมแฟนหนุ่ม เธอจึงรับเลี้ยงอธิปมาตั้งแต่ตอนนั้นและรักอีกฝ่ายเหมือนลูกแท้ๆ

พออธิปป่วยบ่อยและถูกวินิจฉัยว่าหัวใจเต้นผิดปกติและต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อรักษา เธอก็หาเงินทุกวิถีทางเพื่อมารักษาเด็กชายตัวน้อย

จนกระทั่งมาจบที่อดีตคนรักที่ยังแค้นเธออยู่ แต่นั่นก็ยังโชคดีกว่าการที่ไม่มีใครยื่นมือมาช่วยเหลือเธอ

หญิงสาวรอจนกระทั่งการผ่าตัดผ่านไปด้วยดี มองดูหลานชายด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรักและสงสารที่อีกฝ่ายต้องมาเจ็บตัวเพราะการผ่าตัดตั้งแต่อายุยังน้อย

ในตอนนั้นประตูห้องพักฟื้นก็ถูกเปิด คนที่เข้ามาคือศานต์ที่เข้ามาพร้อมกับมองเด็กชายตัวน้อยด้วยสายตาที่ไร้ความรู้สึก

“ผมโทรมาทำไมไม่รับ” เขาถามเสียงกร้าว

“ฉันขอโทษค่ะ พอดีปิดเสียงเอาไว้ เอ่อ รบกวนอย่างส่งเสียงดังนะคะ ฉันไม่อยากให้น้องอาร์มตื่น” เธอบอกเขาเสียงเบาในตอนท้าย

นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มมองไปยังเด็กชายที่นอนพักฟื้น เสื้อคนไข้ถูกเปิดออกให้เห็นผ้าปิดแผลที่ผ่าตัดอยู่ แล้วเบือนหน้าไปมองที่อดีตคนรักอีกครั้ง

“เวลางานคือแปดโมงเช้าถึงบ่ายสาม พรุ่งนี้เริ่มงานวันแรกอย่าสายล่ะ”

เรื่องเพียงแค่นี้เขาถึงขั้นลงทุนมาบอกเธอด้วยตัวเอง คงตั้งใจมาดูว่าเธอโกหกเรื่องพ่อเด็กที่เสียชีวิตไปแล้วว่าจริงหรือไม่

“ค่ะ ฉันไม่ไปสายแน่”

เธอรับปากเขาแล้วหันไปมองหลานชายเพื่อซึมซับเอากำลังใจให้แก่ตัวเอง

ศานต์เดินกลับออกไปด้วยใบหน้าที่เย็นชา เด็กคนนั้นเหมือนหญิงสาวราวกับพิมพ์เดียวกัน แม้จะอยากเกลียดก็เกลียดไม่ลง เพราะหัวใจเขายังไม่เคยลืมเธอเลยแม้แต่สักวินาที

แต่เพราะรักมากก็ยิ่งแค้นมาก เขาจะทำให้เธอเจ็บปวดและสำนึกว่าการทิ้งเขาไปเธอได้ทำพลาดครั้งใหญ่หลวงแล้ว

“แล้วคุณจะรู้ว่าการที่ทิ้งผมให้อยู่กับความเจ็บปวดมาสามปี สุดท้ายแล้วต้องเจอกับอะไรบ้าง” เขาพูดกัดฟันด้วยความโกรธ พร้อมกับรีบสาวเท้าไปให้พ้นจากสถานที่แห่งนี้

************************

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel