5.1 งานหยาบ
ชัดเจนแล้วว่ารสนิยมเรื่องเซ็กส์ของทิวากรนั้นแตกต่างจากแต่ก่อนราวฟ้ากับเหว เขาสนุกกับการได้งับกัดผิวกายขาวนวลจนมันแดงก่ำห้อเลือด ไม่มีคำว่าเบามือหรือผ่อนแรง แค่วราลียินยอมให้กระทำ เขาก็พร้อมที่จะจ่ายให้เธอมากขึ้น มากเท่าไรก็ได้ตามความเจ็บปวดที่เธอได้รับ ข้อมือทั้งสองข้างของเธอยังคงถูกมัดเอาไว้ สองคนยังคนนัวเนียกันอยู่บนโซฟาหนังตัวยาว ทิวากรโหมกระหน่ำความซาบซ่านแสนรุนแรงอย่างไม่หยุดยั้ง เข้าสุดออกสุด เน้นหนักกระแทกแรงจนสะเทือนไปทุกส่วน
ทิวากรจับวราลีกดกระแทกจนร่างบางนั้นแทบจะจมหายลงไปในโซฟา สิ่งที่เธอตอบรับการกระทำของเขาได้ก็มีเพียงเสียงคราง บางครั้งก็ครางเพราะความเสียวรุนแรง แต่หลายครั้งที่เสียวนั้นมาจากความเจ็บปวด ยิ่งเขาเร่งความเร็ว ยิ่งเข้าคว้าเอาสองเต้ามาดูดสลับกัดเธอก็ยิ่งคราง ไม่รู้จริง ๆ ว่าสิ่งที่เขากำลังทำมันเกิดมาจากรสนิยมส่วนตัวที่เพิ่งกล้าเปิดเผย หรือมันมาจากความเครียดที่สั่งสมมานานหลายปี วราลีได้แต่หวัง…หวังเหลือเกินว่ามันจะไม่รุนแรงมากไปกว่านี้
“ฮึก! คุณทิวากร…อ๊ะ! ลีเจ็บ! กัดตรงนั้นมันเจ็บมาก…” สองมือที่ถูกมัดเอาไว้ทำให้เธอปัดป่ายเขาออกไปไม่ได้ ได้แต่ส่ายหน้าไปมาเมื่อคุณผู้ซื้องับกัดเข้าที่จุกด้านซ้าย
“เพิ่มให้ห้าพัน” ไม่มีคำขอโทษ ไม่แม้แต่จะยับยั้งการกระทำของตัวเอง พอเธอบอกว่าเจ็บเขาก็เอาเงินเข้าช่วย “คราวนี้หายเจ็บหรือยัง?”
“ฮึก! ทำไมชอบกัด?” เงินไม่ได้ช่วยให้หายเจ็บ แต่มันแค่ช่วยให้เธออดทนได้มากขึ้นก็เท่านั้น “อ๊ะ! เมื่อก่อนไม่เห็นคุณกัดเลย”
“ขึ้นให้ผม” ไม่ใช่หน้าที่เขาที่ต้องมาตอบคำถาม จับวราลีที่นอนหงายอยู่ใต้ร่างให้ขึ้นมานั่งคร่อม เอาสองแขนที่ถูกมัดมาคล้องคอเขาไว้ เวลานี้ใบหน้าของคนทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงคืบเท่านั้น ต่างฝ่ายก็ต่างสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน “โยกสิ โยกแรง ๆ”
“อ๊ะ! แบบนี้มันลึก…อ๊าห์!” ถ้าลึกเธอจะเสร็จไว แล้วเดี๋ยวเขาก็ไม่พอใจขึ้นมาอีก โยกสะโพกร่อนลำกายใหญ่โตที่คาค้างอยู่ในตัว นิ่วหน้าสบตาเขา มองดูเขาที่วางนิ่งเหมือนไม่รู้สึกอะไร “อ๊ะ! คุณไม่เสียวบ้างเลยเหรอคะ?”
“เสียวสิ คิดว่าผมไม่มีความรู้สึกหรือไง?”
“ละ…อ๊ะ! แล้วทำไม…อ๊าห์! ทำไมถึงนิ่งได้ขนาดนี้?” เขาเสียวน้อยกว่าเธอหรือยังไง ทำไมเธอถึงไม่สามารถอดกลั้นเสียงครางเอาไว้ได้เลย
“เพราะผมอดทนเก่งกว่าคุณ ร่อนอีก! ร่อนให้แรงกว่านี้!” คว้าหมับเข้าที่ก้น แบะออกเล็กน้อยแล้วบังคับให้เธอออกแรง วราลีขึ้นเก่ง…หากนับจากครั้งแรก ๆ ที่เขาต้องเสียเวลามานั่งสอน ที่จริงควรเป็นเธอที่ให้เงินเขามากกว่า เธอเป็นงานเสียที่ไหน มีแต่เขาที่จัดหนักจัดเต็มจนเธอฟิน เพิ่งจะมีช่วงหลังนี่แหละที่เธอทำให้เขาฟินได้แบบถึงใจจริง ๆ
“อ๊าห์! ลีไม่ไหว…ฮึก! เสียวเกินไปแล้วค่ะ! อ๊ะ! คุณทิวากร…อึก! อ๊ะ! อึก…งึก ๆ” วราลีไม่อาจทนทานต่อความเสียวอันมากมาย จนแล้วจนรอดก็สำเร็จความใคร่ เกร็งเสียวจนกระตุกสั่นไปหมด
“เสร็จกี่รอบแล้วเนี่ย?”
“ลี…ขอโทษ”
“ถ้าจะเสร็จบ่อยขนาดนี้จ่ายเงินให้ผมแทนดีไหม? หืม?”
“ลีก็จ่ายเป็นความซื่อสัตย์ไปแล้วไงคะ บอกแล้วว่าลีไม่มีเงิน…คุณทิวากรมีเยอะแล้วจะมาอยากได้เงินลีไปทำไม?”
“หึ! เดี๋ยวนี้คุณกล้าต่อปากต่อคำนะ”
“ขอโทษค่ะ อ๊ะ! อ๊าห์!” ขอโทษเขายังไม่ทันขาดคำก็ต้องร้องครางขึ้นมา เมื่อถูกเขางับเข้าที่ลำคอ “ฮึก! ลีเจ็บ…”
“แล้วทนได้ไหม?” เลิกคิ้วถาม “ถ้าทนไม่ได้…ผมจะไม่ทำ”
“…”
“จะได้หาคนที่ทนได้มารับงานนี้แทน”
“ทะ ทนได้ ฮึก! เจ็บกว่านี้ก็จะทนค่ะ” ได้ยินแบบนั้นมีหรือที่วราลีจะบอกว่าทนไม่ไหว ทิวากรเปรียบเสมือนบ่อเงินบ่อทองของเธอ เจ็บแค่นี้ทนได้อยู่แล้ว ยอมไม่ได้แน่หากเขาจะหาคนอื่นมาทำงานนี้แทน ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วจะเอาเงินที่ไหนไปจ่ายดอกเบี้ยรายอาทิตย์ล่ะ?
“นิ่งอยู่ทำไม? โยกต่อสิ” ออกคำสั่งพร้อมกับก้มลงไปซุกหน้าฟัดอกอวบอิ่ม ลงรอยฟันให้วราลีได้รู้สึกถึงความเจ็บ ก่อนจะครางออกมาอย่างชอบใจ “อืม…พอได้กัดคุณ มันยิ่งทำให้ผมเสียว”
“อ๊ะ! คุณชอบที่ได้เห็นลีเจ็บเหรอคะ?”
“เปล่า ผมไม่ได้ชอบที่เห็นคุณเจ็บ ไม่ได้ซาดิสม์ขนานนั้น ผมแค่ชอบที่ได้กัดแค่นั้นเอง” ก็ซาดิสม์ไม่ต่างกันมาก เพียงแต่เขาไม่ยอมรับก็เท่านั้น “อื้อ! ร่อนผมแบบนั้นแหละ อืม…แรงแบบนั้นเลย! เอาอีก! แรงอีก!”
“อ๊าห์!!!”
สองเท้าเล็กสับวิ่งรวดเร็วแบบไม่คิดชีวิต ไม่ทันได้มองชนเอาคนที่เดินอยู่ใกล้ ๆ จนล้มกลิ้งไปกับพื้น ต่อให้เจ็บมากแต่ก็ไม่แยแส ไม่สนใจว่าใครจะเข้ามาช่วยยังไง พอลุกได้ก็วิ่งต่อ วิ่งจนมาถึงห้องผู้ป่วยรวมของโรงพยาบาลรัฐ วราลีหยุดหอบหายใจ น้ำตาที่ไหลยากมากมายกลับไหลออกมาในตอนที่เห็นวริศผู้เป็นพี่ชายนอนหลับอยู่บนเตียง มีสายระโยงรยางค์เต็มเตียงไปหมด พอหันไปเห็นว่ากราฟการเต้นของหัวใจนั้นอยู่ในระดับปกติ เธอก็ยิ่งร้องไห้ออกมาหนักมากขึ้นกว่าเดิม
“ฮึก! ฮือ ๆ พี่วิน…ลีมาแล้ว ฮือ ๆ พี่วินยังอยู่กับลีใช่ไหม? ใช่ไหมพี่วิน?” โผเข้ากอดพี่ชายแนบแน่น ครึ่งชั่วโมงก่อนตอนที่กำลังทำงานให้บริการลูกค้าวีไอพี พยาบาลที่ดูแลพี่ชายโทรไปบอกว่าอยู่ ๆ เขาก็หยุดหายใจ ทีมแพทย์ต้องเข้ามาช่วยกันเป็นการใหญ่ วราลีใจหายใจคว่ำ ได้ยินอย่างนั้นแล้วก็รีบลางาน วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต จนกระทั่งถึงโรงพยาบาล วินาทีที่คิดว่าพี่ชายอาจไม่อยู่กับเธออีกต่อไปแล้ว วินาทีนั้นก็เหมือนว่าฟ้าจะถล่มลงมาใส่ตัว เหมือนใจมันจะขาด เธอกลัวเหลือเกิน กลัวว่าหากไม่มีวริศแล้วจะอยู่ไม่ได้ เพราะมันไม่มีเหตุผลให้ต้องอยู่ต่อ
“ตอนนี้คุณวินกลับมาอยู่ในสภาวะปกติแล้วล่ะค่ะคุณลี” นีรนาถหรือพี่นาถ พยาบาลที่วราลีจ้างให้มาดูแลพี่ชายเอ่ยขึ้น ช่วยประคับประคองวราลีมานั่งที่โซฟาข้างเตียงคนไข้
“อยู่ ๆ ทำไมพี่วินไม่หายใจคะ? ฮึก! อาการพี่วินทรุดลงเหรอคะพี่นาถ?”
“ช่วงนี้อาการไม่ดีเลยค่ะ บางคืนก็ชักขึ้นมา บางวันร่างกายก็ต่อต้านยาด้วย…อีกอย่าง…” นีรนาถลำบากใจที่จะพูด
“อะไรคะ?”
“ตอนนี้โรงพยาบาลต้องรองรับผู้ป่วยมากขึ้น หัวหน้าพยาบาลบอกพี่ว่าคุณลีอาจต้องพาคุณวินกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านน่ะค่ะ”
“คะ?” กลับไปรักษาตัวที่บ้านไม่ได้ ทำแบบนั้นแล้วใครจะดูแลวริศ วราลีต้องทำงานกลับดึกทุกวัน ต่อให้มีนีรนาถ…พยาบาลสาววัยสี่สิบก็ไม่สามารถดูแลได้ตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง อีกอย่าง…หากพวกลูกน้องของไอ้ชาติเจ้าหนี้นอกระบบมาเจอ พวกมันที่เลวทรามไร้หัวใจ ไม่สนว่าจะเป็นเด็ก คนแก่ หรือคนป่วยก็อาจจะทำร้ายพี่ชาย คิดแบบนั้นแล้วเธอก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมา “ไม่ได้ค่ะ ให้พี่วินกลับไปอยู่บ้านไม่ได้ พอจะมีทางอื่นไหมคะพี่นาถ?”
“มันก็มีค่ะ ที่จริงให้คุณวินย้ายไปอยู่ห้องพิเศษก็ได้ แต่มันอาจจะต้องใช้เงินเยอะกว่าตอนนี้มาก แล้วก็ไม่รู้ว่าจะมีห้องว่างหรือเปล่า”
“ต้องไปติดต่อที่ไหนคะ? จะต้องใช้เงินเท่าไรก็ได้…ฮึก! ลีจะทำทุกอย่างเพื่อหาเงินมาดูแลพี่วิน” เรื่องเงินต่อให้หายากแค่ไหนวราลีก็ต้องพยายาม เพราะทางเลือกของเธอนั้นมีไม่มาก
“เดี๋ยวพี่พาไปค่ะ แล้วก็…ค่ารักษางวดก่อนที่คุณลีค้างไว้ มันถึงเวลาที่ต้องจ่ายแล้วใช่ไหมคะ?”
“?” วราลีลืมเรื่องนั้นไปเสียสนิท แค่ครั้งก่อนที่รับงานจากทิวากรมาเธอได้สองหมื่น รวมกับครั้งเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาก็ได้อีกสองหมื่น ตอนนี้เธอมีติดตัวอยู่ทั้งหมดห้าหมื่น รวมกับเงินที่เหลืออยู่ในบัญชี มันพอที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล…แต่แน่นอนว่าไม่เหลือจะจ่ายดอกเบี้ยหนึ่งหมื่นห้าพันที่พวกเจ้าหนี้หน้าเลือดจะมาเก็บจากเธอในวันนี้ แต่ยังไง…เรื่องที่สำคัญกว่าก็ต้องมาก่อน “ค่ะ ลีจะจ่ายวันนี้เลย”
