บท
ตั้งค่า

ตอนที่9

เช้าวันใหม่มาเยือน พายุฝนเมื่อคืนผ่านพ้นไปเปลี่ยนท้องฟ้าให้สว่างสดใส นันรวีกลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง สองขาเล็กวิ่งออกจากบ้านเพื่อมาพบปะทุกคนอย่างเช่นทุกวัน แต่ทว่าวันนี้บรรยากาศรอบข้างช่างดูอึมครึมผิดปกติ

"มีอะไรกันเหรอแก้ว" เด็กหญิงตัวเล็กวิ่งเข้ามาหาเพื่อนที่มีสีหน้าตื่นตะหนก

"นัน..ฮือ" จู่ๆ แก้วตาก็หันมากอดเธอพร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยน

"แก้วเป็นอะไร"

"ฮือ.." แก้วตาร้องไห้จนไม่สามารถพูดออกมาเป็นประโยคได้

"น้าศร แก้วร้องไห้ทำไม มีเรื่องอะไรเหรอจ๊ะ" นันรวีหันไปถามแม่ของแก้วตาแทนด้วยความอยากรู้

"นัน แกฟังแล้วอย่าเพิ่งตกใจล่ะ" คำพูดของคนตรงหน้าทำให้ใจของเธอเต้นรัวอย่างขวัญเสีย สายตาหันมองรอบๆ เห็นผู้คนยืนปิดหน้าร้องไห้ไม่ต่างจากเพื่อนของเธอ

"มะ..มีอะไรเหรอจ๊ะ"

"เมื่อเช้าผู้ใหญ่บ้านได้รับโทรศัพท์จากตำรวจว่ามีคนเห็นซากเรือหาปลาลอยไปติดชายฝั่ง"

"ละ..แล้วทำไมเหรอน้า" เด็กหญิงตัวเล็กเริ่มน้ำเสียงสั่นเทา

"เรือที่เขาเจอเป็นเรื่องของหมู่บ้านเราที่ออกไปเมื่อคืนน่ะสิ" สิ่งที่ได้ยินทำให้หูของเธอดับอื้อ เรือที่ออกจากหมู่บ้านไปเมื่อคืนมีเพียงแค่เรือที่พ่อของเธอขึ้นไปเท่านั้น

"มะ..ไม่จริงใช่ไหมน้า"

"เขาบอกว่าน่าจะเพราะพายุลูกเมื่อคืนน่ะ ตอนนี้ผู้ใหญ่บ้านกำลังประสานงานกับตำรวจอยู่"

"ฮึก..น้าศรอำหนูเล่นใช่ไหม..ฮือ..ไม่ใช่เรือของพ่อชัยใช่ไหม" นันรวีทรุดลงนั่งอย่างหมดแรง ดวงตาพร่ามัวด้วยน้ำตาที่ไหลนองหน้า

"ข้าไม่ได้อำเอ็งหรอก เรือลำนั้นก็มีไอ้กล้าผัวข้าอยู่ด้วย..ฮึก" คนที่พยายามไม่ร้องไห้ให้ลูกสาวเห็นแต่สุดท้ายก็ไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ เมื่อได้รับข่าวร้ายของสามีที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมาหลายปี

"ฮือ..พ่อจ๋า..ฮือ"

เสียงร้องไห้เรียกหาพ่อของนันรวีพาให้คนรอบข้างพากันสงสาร เพราะนายชัยเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่นันรวีมี

"ฮือ.." เด็กหญิงสองคนนั่งร้องไห้กอดกันอยู่พักใหญ่ก่อนจะมีคุณครูจิตอาสาจากโรงเรียนในหมู่บ้านเข้ามาช่วยปลอบ

จากท้องฟ้าสว่างสดใสกลับกลายเป็นมืดมัว ในที่สุดผู้ใหญ่บ้านที่ออกเรือไปประสานงานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบนฝั่งก็กลับเข้ามา

"ลุงผู้ใหญ่ เจอพ่อหนูไหม พ่อไม่เป็นอะไรใช่ไหม" แก้วตารีบเข้ามาเขย่าแขนผู้ใหญ่บ้านเพื่อต้องการคำตอบ

ชายวัยกลางคนที่ทุกคนเรียกว่าผู้ใหญ่บ้าน ไม่กล้าตอบในสิ่งที่เด็กหญิงตรงหน้าถาม เขากลับก้มหน้าลงก่อนจะถอดหมวกที่สวมอยู่ลงมาถือไว้ที่กลางหน้าอก

"ลุงผู้ใหญ่..ฮือ..ตอบหนูสิ..ฮือ"

"ผู้ใหญ่บอกพวกเราเถอะค่ะ เจอผัวฉันกับคนอื่นๆ ไหมคะ" หญิงวัยกลางคนจากด้านหลังตะโกนเสียงดังแทรกขึ้นมา

"เจอ" คำตอบสั้นๆ ของผู้ใหญ่บ้านทำให้ชาวบ้านตาสีตาสารู้สึกโล่งใจเพราะคิดว่าเจอในที่นี้หมายถึงพวกเขาทุกคนปลอดภัย

"พรุ่งนี้เจ้าหน้าที่จะพาศพพวกเขากลับมาส่งที่นี่"

"คะ? ศพ?" ผู้คนในหมู่บ้านกลับมาตื่นตระหนกอีกครั้งหลังจากโล่งใจได้ยังไม่ถึงเสี้ยววินาที

"ใช่ ในเรือนั้นไม่มีใครรอดเลย"

ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยด้วยสีหน้าเศร้าสลด วันนี้เขาได้รับข่าวร้ายตั้งแต่เช้าตรู่จนต้องรีบออกเรือไป แต่กลับได้เจอกับข่าวร้ายมากกว่าเมื่อทราบข่าวว่าทุกคนบนเรือลำนั้นไม่มีใครเหลือรอดแม้แต่คนเดียว

"ไม่จริง..ฮือ..ไม่จริงใช่ไหมลุงผู้ใหญ่..ฮึก..พ่อหนูว่ายน้ำเก่งมากจะจมน้ำได้ไง" นันรวียังไม่เชื่อว่าพ่อของตนจะจมน้ำ เพราะพ่อของเธอเป็นชาวประมงมาตั้งแต่เด็กเรื่องว่ายน้ำไม่เป็นสองรองใครอยู่แล้ว

"ข้ารู้ว่าพ่อเอ็งว่ายน้ำเก่ง แต่นั่นกลางทะเลนะ"

"ฮือ.." เสียงร้องไห้กลับมาดังระงมอีกครั้งจากคนที่สูญเสียคนที่รักไป เด็กบางคนต้องสูญเสียพ่อไปโดยไม่ได้ร่ำลา ไม่มีใครคาดคิดว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวของตนเอง

ร่างไร้วิญญาณถูกห่อด้วยผ้าขาววางเรียงรายนับสิบ ครอบครัวรวมถึงญาติพี่น้องต่างเศร้าโศกกับความสูญเสียในครั้งนี้ พิธีการฌาปนกิจตามศาสนาถูกจัดขึ้นในวันเดียวกัน

"นัน เอ็งไปล้างหน้าล้างตาหน่อยไป" ภรรยาของผู้ใหญ่บ้านเอ่ยบอกกับเด็กสาวที่เพิ่งสูญเสียพ่อบุญธรรมไป

"หนูไม่อยากทิ้งพ่อให้อยู่คนเดียว" นันรวีมองรอบๆ ตัวเห็นครอบครัวคนอื่นคอยนั่งเฝ้าร่างไร้วิญญาณของผู้จากไป แต่พ่อของเธอไม่มีญาติพี่น้องที่ไหนอีก

"เดี๋ยวป้านั่งเฝ้าให้ก่อน เอ็งไปล้างหน้าล้างตาแล้วหาข้าวกินก่อนเถอะ"

"ก็ได้จ้ะ หนูจะรีบกลับมานะ" นันรวีเดินคอตก แววตาเศร้าละห้อยออกไป

เธอพาตัวเองกลับมาบ้านที่เงียบเชียบไม่มีแม้แต่เสียงใบไม้พัด บ้านที่เคยอยู่ด้วยกันสองคนพ่อลูก ตอนนี้เหลือเพียงแค่เธอคนเดียว

"พ่อจ๋า..ฮือ..ไหนสัญญาจะไปอยู่เมืองหลวงกับหนูไง" เด็กสาววัยเจ็ดขวบกอดเสื้อของพ่อเอาไว้แน่นเหมือนกับว่าได้กอดท่านอีกครั้ง

"เราสัญญาว่าจะอยู่ด้วยกันไม่ใช่เหรอ..ฮือ" นันรวีซุกหน้าเข้าที่เสื้อตัวเก่าของพ่อ เธอไม่เหลือใครอีกแล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel