บท
ตั้งค่า

ตอนที่10

ภายในสถานที่จัดงานศพ ผู้คนในหมู่บ้านนั่งล้อมวงกันเพื่อหารือเรื่องของเด็กสาวในหมู่บ้านคนหนึ่งที่ต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าอีกครั้ง

"ลุงผู้ใหญ่แล้วเราจะทำยังไงกับนังนันมันดีล่ะ ไอ้ชัยก็ไม่อยู่แล้ว ที่นี้ใครจะเลี้ยงมันล่ะ" หนึ่งในวงสนทนาเอ่ยถามผู้ใหญ่บ้านซึ่งเป็นคนที่ต้องจัดการกับเรื่องนี้

"ข้าก็ยังปวดหัวอยู่เนี่ย คนอื่นๆ ยังมีแม่มีญาติ แต่นังนันมันไม่เหลือใครเลยนี่สิ"

"จะให้มันอยู่คนเดียวก็คงไม่ได้หรอกนะ เด็กตัวแค่นั้นจะไปเลี้ยงปากท้องตัวเองได้ไง"

"แล้วจะมาฝากพวกฉันเลี้ยงไม่ได้หรอกนะ เด็กมันก็โตขึ้นทุกวัน" คนในหมู่บ้านเริ่มตีโพยตีพายเพราะกลัวว่าจะต้องเลี้ยงดูนันรวีแทนนายชัยที่เสียไป

"ข้ารู้ๆ เอาไว้ข้าจะลองคุยกับมันเรื่องให้ย้ายไปอยู่สถานสงเคราะห์แล้วกัน"

ผู้ใหญ่บ้านเอ่ยขึ้นเพื่อให้ทุกคนสบายใจ ในเมื่อนันรวีไม่เหลือญาติพี่น้องที่ไหนอีก ทางเดียวที่พอจะช่วยได้คือการให้สถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าในเมืองมารับตัวไป

"จะดีเหรอพี่ผู้ใหญ่ จะให้นันมันไปอยู่บ้านเด็กกำพร้าจริงๆ เหรอ" ภรรยาผู้ใหญ่บ้านเอ่ยถามสามีด้วยสีหน้ากังวล

"เราไม่มีทางเลือกแล้ว อีกอย่างคนในหมู่บ้านนี้ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ฉันไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอก แต่ให้นันมันไปอยู่ที่นั่นอาจจะดีกว่าที่นี่ก็ได้นะ"

ผู้ใหญ่บ้านหน้าซึมไม่สดใสเหมือนอย่างเคย เขาต้องเสียคนในหมู่บ้านไปนับสิบคน ไหนจะต้องแก้ปัญหาเรื่องของนันรวีอีก แค่นี้ก็เครียดจนปวดหัวไปหมดแล้ว

"ลุงผู้ใหญ่.." จู่ๆ เสียงของเด็กหญิงที่ตกเป็นหัวข้อสนทนาก็เอ่ยเรียกมาจากทางด้านหลัง

"อ้าวนันมาพอดีเลย ลุงว่าจะไปคุยกับเอ็งพอดี"

"หนูไปบ้านเด็กกำพร้าก็ได้จ้ะ แต่ขอไปหลังจากจบงานของพ่อได้ไหมจ๊ะ" นันรวีได้ยินทุกบทสนทนาของทุกคน เธอไม่อยากทำตัวเป็นภาระของใครจึงตัดสินใจยอมไปเองแต่โดยดี

"เอ็งแน่ใจแล้วใช่ไหม"

"จ้ะ หนูจะไป" ถึงจะเป็นแค่เด็กเจ็ดขวบ แต่เธอเข้าใจทุกเรื่องได้กระจ่าง เธอไม่มีพ่ออีกแล้ว โชคชะตาของการเป็นเด็กกำพร้าย้อนกลับมาอีกครั้ง

"อืม ข้าจะประสานงานกับมูลนิธิให้ เอ็งก็เตรียมตัวแล้วกัน" ผู้ใหญ่บ้านลูบหัวเด็กสาวด้วยความเอ็นดู นันรวีพยักหน้าน้อยๆ แทนคำตอบก่อนจะเดินไปนั่งที่หน้าโลงของผู้เป็นพ่อเงียบๆ

"นัน จะไปบ้านเด็กกำพร้าจริงเหรอ" แก้วตาที่เพิ่งสูญเสียพ่อไปและตอนนี้เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวก็กำลังจะไปอยู่ไกลจากตนอีกคน

"อืม"

"แล้วเราจะได้เจอกันอีกไหม" ใบหน้าเล็กก้มลงจวนจะร้องไห้

"ก็อาจจะได้เจอกันอีกนะ"

"ฉันกับแม่ก็ต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นเหมือนกัน" เพราะเสียพ่อไป แม่จึงจำเป็นต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นเพื่อหางานทำ ไม่เช่นนั้นคงได้อดตายกันทั้งแม่และลูก

"เอาไว้โตขึ้นเราค่อยมาเจอกันนะ"

"อืม" สองเพื่อนซี้กอดกันกลมหน้าโลงศพของผู้เป็นพ่อทั้งสองคน

เด็กหญิงวัยเพียงเจ็ดขวบกลับต้องเจอเรื่องหนักหนาจนแม้แต่ผู้ใหญ่บางคนยังรับไม่ไหว แต่นันรวีกลับสามารถผ่านพ้นมันไปได้อย่างเข้มแข็งตามที่พ่อเคยสอนเอาไว้

งานฌาปนกิจของผู้จากไปถูกจัดอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมทางศาสนาของแต่ละบ้าน ก่อนร่างอันไร้วิญญาณจะถูกเผาเหลือเพียงเถ้ากระดูก

"ไม่ต้องห่วงหนูแล้วนะพ่อ" นันรวีนำเถ้ากระดูกของผู้เป็นพ่อมาลอยอังคารที่ทะเลพร้อมกับคนอื่นๆ เพื่อให้พ่อไม่ต้องมีห่วงใดๆ

"เก็บของแล้วใช่ไหม ตอนบ่ายเจ้าหน้าที่เขาจะมารับเอ็งนะ" แม่ของแก้วตารับหน้าที่ดูแลนันรวีระหว่างที่รอเจ้าหน้าที่มูลนิธิจากในตัวเมืองมารับ

"จ้ะ"

"ขอโทษนะที่ข้ารับเลี้ยงเอ็งไม่ได้ ลำพังแค่นังแก้วข้าก็จวนตัวแล้ว"

"ไม่เป็นไรจ้ะน้า"

นันรวีส่งยิ้มบางๆ ให้คนตรงหน้าที่เพิ่งสูญเสียสามีซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวไป เธอเข้าใจดีว่าความรู้สึกของการที่ต้องเสียคนรักไปเป็นอย่างไร

"เอาไว้ข้าจะพานังแก้วไปเยี่ยมเอ็งนะ"

"ขอบคุณนะจ๊ะน้าศร" นันรวีโผเข้ากอดหญิงวัยกลางคนที่ใจดีกับเธอและพ่อมาตลอด

"ไปอยู่ที่นั่นอาจจะดีกว่าที่นี่จริงๆ นั่นแหละนะ จะได้เรียนหนังสือ ถ้าโชคดีก็อาจจะมีคนรวยๆ รับไปเลี้ยงก็ได้" นางศรได้แต่หวังว่าจะมีคนมาเอ็นดูนันรวีแล้วรับไปเลี้ยงเป็นลูก จะได้ไม่ถูกเรียกว่าเด็กกำพร้าไปตลอดชีวิต

"นันเก็บของเสร็จหรือยัง เจ้าหน้าที่จวนจะถึงเกาะแล้ว" ผู้ใหญ่บ้านมาตามด้วยตนเอง เพื่อพานันรวีไปส่งให้กับเจ้าหน้าที่จากสถานสงเคราะห์บ้านเด็กกำพร้า

"เสร็จแล้วจ้ะลุงผู้ใหญ่" นันรวีสะพายกระเป๋าเป้ใบกะทัดรัดขึ้นหลัง ด้านในมีเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นรวมถึงเสื้อเก่าๆ ของพ่อที่เอาไว้ดูต่างหน้าและนาฬิกาของคุณตาที่เธอเคยช่วยชีวิตเอาไว้

"ไปกันเถอะ ให้คนอื่นรอมันไม่ดี"

"หนูจะไปส่งนันด้วย" แก้วตาขอตามติดไปส่งเพื่อนขึ้นเรือเพื่อข้ามฝั่งด้วย

นันรวีถูกจูงมือมาถึงท่าเรือที่มีเรือสปีดโบ๊ตลำหนึ่งจอดเทียบท่ารออยู่ เจ้าหน้าที่ผู้หญิงสองคนลงจากเรือมาพร้อมกับรอยยิ้มอ่อนโยนให้เธอหายตื่นกลัว

"สวัสดีค่ะ" สองมือยกขึ้นไหว้ทักทายเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนอย่างสุภาพ

"จ้ะ พร้อมแล้วใช่ไหมจ๊ะ"

"ค่ะ" ถึงไม่พร้อมก็ต้องพร้อม

"ฝากด้วยนะครับคุณเจ้าหน้าที่ ขอบคุณที่รับดูแลนะครับ" ผู้ใหญ่บ้านก้มหัวน้อยๆ ให้เจ้าหน้าที่สาวทั้งสองคน

"เป็นหน้าที่ของเราอยู่แล้วค่ะ"

"หนูไปก่อนนะคะลุงผู้ใหญ่ สวัสดีค่ะ" นันรวีไหว้ผู้ใหญ่บ้านด้วยความเคารพเหมือนญาติคนหนึ่งก่อนจะหันไปกอดกับเพื่อนสนิทที่ยืนร้องไห้อยู่ไม่ไกล

"ไปก่อนนะแก้ว บ๊ายบาย"

"ดูแลตัวเองด้วยนะ" แก้วตากอดเพื่อนแน่นจนผู้ใหญ่บ้านต้องมาช่วยจับทั้งคู่ให้แยกจากกัน

"ไม่ต้องห่วงนะคะ เราจะดูแลให้อย่างดีจนกว่าจะมีคนมารับอุปการะหรือจนกว่าน้องจะบรรลุนิติภาวะค่ะ" นันรวีได้แต่ฟังเงียบๆ สองมือกำสายกระเป๋าแน่นราวกับเตรียมตัวเตรียมใจมาเป็นอย่างดี

เรือค่อยๆ แล่นออกจากชายฝั่ง ความเร็วเพิ่มขึ้นจนมองเห็นหมู่บ้านของเธอเป็นจุดเล็กๆ จากระยะไกล นี่เป็นครั้งแรกในรอบเจ็ดปีที่เธอมีโอกาสได้ออกจากเกาะแห่งนี้ เป็นการจากลาที่เธอไม่ได้เตรียมใจเอาไว้เลย

ความทรงจำวัยเด็กของเธอพบเจอแต่การสูญเสียและต้องจากลากับทุกคนที่รู้จัก ต่อจากนี้ชะตากรรมของนันรวีจะเป็นอย่างไรไม่มีใครล่วงรู้ได้เลย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel