ตอนที่7
"รักษาตัวด้วยนะแม่หนู" เจ้าสัวประทีปส่งเสียงลงมาจากเรือเพื่อบอกนันรวี
"คุณตาก็ด้วยนะคะ ดูแลตัวเองด้วยนะ" นันรวีตะโกนกลับเสียงดังพอสมควร เธอโบกมือลาจนเรือสปีดโบตแล่นไปไกลจนลับสายตา เหลือให้เห็นเพียงท้องทะเลแสนกว้างใหญ่
เมื่อเดินทางร่วมหลายชั่วโมงจนถึงบ้านใหญ่ของตนเองจู่ๆ เจ้าสัวประทีปก็รู้สึกใจห่อเหี่ยว แค่สี่วันเขาก็ผูกพันกับที่นั่นไปเสียแล้ว เห็นทีคงต้องหาโอกาสไปหาหนูน้อยนันรวีอีกสักครั้ง
"พ่อครับ วันที่พ่อประสบอุบัติเหตุผมรู้สึกไม่ชอบมาพากลเลยไปเค้นความจริงกับคนขับเรือมา"
"อืม ฉันก็พอรู้อยู่ว่าไอ้พวกคณะกรรมการบริหารมันจ้องจะฆ่าฉัน" เจ้าสัวประทีปหันกลับมาสนใจสิ่งที่ลูกชายพูด การตกเรือจนเกือบตายของเขาไม่ใช่อุบัติเหตุเป็นแน่
"ให้ผมจัดการส่งเรื่องให้ตำรวเลยไหมครับ"
"จัดการได้เลย ฉันเองก็คงแก่เกินจะบริหารอย่างที่พวกนั้นว่าแล้วแหละ"
เพราะในบริษัทต้องการจะเปลี่ยนผู้บริหาร เจ้าสัวประทีปยืนกรานจะให้ประทินลูกชายของตนขึ้นแทน แต่ลูกชายกลับขอปฏิเสธการรับตำแหน่งนี้ ทำให้เหล่าคณะกรรมการในบริษัทตั้งใจลอบฆ่าเจ้าสัวเพื่อหวังจะขึ้นแท่นผู้บริหารแทน ทว่าเขากลับดวงแข็งไม่ตายเสียง่ายๆ
"อีกไม่กี่ปีปุริณก็เรียนจบแล้วครับ"
"เหอะ! แกเลี่ยงตำแหน่งให้ลูกชายฉันไม่ว่าหรอกนะ แต่ไม่เห็นเลยหรือไงว่าพ่อแกเพิ่งจะเสี่ยงตายมาหมาดๆ" เจ้าสัวประทีปค่อนแคะลูกชายที่ปฏิเสธการรับตำแหน่งหัวชนฝา ไม่มีใครรู้เหตุผลของเขา ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้ทิ้งตำแหน่งสูงสุดไปเช่นนี้
"ผมไม่ต้องการอะไรแล้วครับ" ผู้เป็นลูกชายเอ่ยขึ้นมาเสียงเบาหวิวแทบกลืนไปกับสายลม เขามีเรื่องที่ยังไม่ได้บอกใครแม้แต่ภรรยาของตนเอง และนั่นก็ทำให้เขาไม่อาจรับตำแหน่งประธานบริหารต่อจากผู้เป็นพ่อได้
"แล้วนี่ตาปราบเตรียมตัวเก็บของหรือยัง" ท่านประทีปถามถึงหลานชายที่ต้องไปเรียนต่อต่างประเทศในอีกไม่ช้า เพื่อเตรียมกลับมารับตำแหน่งประธานในอนาคต
"เรียบร้อยแล้วค่ะ แต่ทำไมคุณพ่อต้องส่งหลานไปเรียนไกลด้วยล่ะคะ" ผู้เป็นแม่เริ่มเศร้าเมื่อลูกชายต้องไปเรียนไกลตัวคนเดียว แต่เธอก็ขัดคำสั่งของพ่อสามีไม่ได้
"หึ! ก็ถ้ามันไม่ก่อเรื่องที่ไทยฉันคงไม่ส่งมันไปหรอก ฝากบอกลูกชายตัวดีของเธอด้วยนะว่าถ้าไม่จบปริญญาโทไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้า!" เจ้าสัวประทีปว่าหลานชายฝากผ่านลูกสะใภ้ให้รู้สำนึก
"ลูกของหนูก็หลานคุณพ่อนะคะ" คุณหญิงภารตีค่อนแคะผู้เป็นพ่อของสามีที่ชอบเหน็บแนมเธออยู่เรื่อย
"แล้วใครล่ะที่ตามใจมันจนเสียคน เป็นนักเรียนดีๆ ไม่ชอบริจะเป็นนักเลงต่อยตีกับคนอื่นจนโดนไล่ออกจากโรงเรียน"
วีรกรรมของหลานชายทำให้เจ้าสัวประทีปกลุ้มใจไม่น้อย แถมยังมีหลานแค่คนเดียวอีกต่างหาก แต่ต่อให้หนักใจแค่ไหนปุริณก็ยังเป็นหลานที่ได้สืบทอดทุกอย่างต่อจากท่าน
"คุณคะ ถ้าตาปราบถูกคุณพ่อตัดออกจากตระกูลจะทำยังไงล่ะคะ" คุณหญิงภารตีกระซิบถามสามีหลังจากเจ้าสัวประทีปคล้อยหลังไปสักพัก
"คุณพ่อท่านไม่ทำแบบนั้นหรอก คุณก็รู้ว่าท่านรักตาปราบมากแค่ไหน" ลูกชายรู้ใจผู้เป็นพ่อมากกว่าใคร ถึงเจ้าสัวประทีปจะโผงผาง แต่ท่านก็รักหลานชายมาก ที่ส่งไปเรียนต่างประเทศก็เพื่อดัดนิสัยเสียๆ ของปุริณ
"ว่าแต่ทำไมคุณถึงไม่ยอมรับช่วงต่อจากคุณพ่อล่ะคะ"
"ผมว่าเราเคยคุยเรื่องนี้กันแล้วนะคุณหญิง"
"แต่คุณก็ไม่เคยบอกเหตุผลจริงๆ ให้ฉันฟังนี่คะว่าทำไม"
"ผมไม่มีเหตุผลอะไรจะบอกคุณทั้งนั้นแหละ เราเลิกคุยเรื่องนึ้กันเถอะ"
"เราเป็นผัวเมียกันนะคุณประทิน ฉันมีสิทธิ์รู้เรื่องของคุณสิ"
"ผมเหนื่อยมากแล้ว ขอตัวไปพักก่อนนะ" เมื่อภรรยาพยายามเค้นคำตอบ เขาจึงเดินหนีเพื่อเลี่ยงการสนทนากับเธอไป
คุณหญิงภารตีมองสามีที่เปลี่ยนไปราวกับคนละคน เขาดูเหมือนคนกำลังปกปิดอะไรเธอบางอย่าง สีหน้าและแววตาก็ต่างไปจากเมื่อคนจนเริ่มน่าสงสัย
