บทที่ 3 แอบดูเขาเปลือย
เจิงอิ่งรู้สึกสนใจเหล่าลู่อย่างที่เสี่ยวลิ่งต้องการ ทว่า ‘ความสนใจ’ ของเจิงอิ่งกับ ‘ความสนใจ’ ที่เสี่ยวลิ่งคาดหวังนั้นเป็นคนละอย่างกัน เจิงอิ่งได้รับหน้าที่ทำอาหารช่วยนายหญิงเพื่อส่งตามเหลา ตอนเช้าพวกนางจะเริ่มตุ๋นเป็ดนับสิบตัวเพื่อนำไปส่งตามร้านอาหารที่สั่งมา รสชาติเป็ดอบที่จังฮูหยินทำนั้นเป็นที่เลืองลื่อไปทั่วอำเภอ เป็นเพราะองค์ชายสิบห้าเคยมาเสวยที่นี่และทรงเอ่ยชื่นชมไม่ขาดปาก จากนั้นคุณชายน้อยจั๋วที่เป็นบุตรชายคนเล็กของนายอำเภอในฐานะศิษย์พี่ของชิงหลานก็มาติดต่อให้จังฮูหยินทำเป็ดอบไปส่งจำหน่ายยังเหลาสุราริมน้ำของเขา รายได้ในการทำเป็ดอบส่งนั้นดีกว่าการปักผ้ายิ่งนัก ที่สำคัญการทำอาหารสามารถช่วยกันทำได้ทุกคนในครัวเรือน ส่วนการปักผ้าทำได้เพียง จังฮูหยินผู้เดียว นายหญิงแห่งสกุลชิงจึงหันมาทำเป็ดอบขายเป็นล่ำเป็นสัน
เมื่อทำเป็ดอบเสร็จเรียบร้อย ยามบ่ายจังเสี่ยวลิ่งกับเหล่าลู่จะพากันเข็นรถเข็นนำอาหารที่ใส่ปิ่นโตไม้ขนาดใหญ่ไปส่งยังเหลาสุราในอำเภอที่อยู่ไกลจากจวนพอเดินได้เหงื่อ เจิงอิ่งจึงขอติดตามไปด้วย
“ส่งอาหารแล้วพวกเจ้าก็พากันเอาเงินกลับไปให้ฮูหยินที่จวนเถอะ ข้าจะออกไปตกปลาเสียหน่อย เย็นๆ ก็จะกลับ อย่าลืมเตรียมเครื่องไว้ทำปลาเปรี้ยวหวานด้วยล่ะ”
เจิงอิ่งเข็นรถช่วยเสี่ยวลิ่งไปจนถึงจวนแล้วก็ขอตัวไปตลาดสักครู่
“ข้าอยากซื้อของใช้ส่วนตัวสักสองสามอย่าง ฝากเจ้าเรียนนายหญิงด้วยว่าเดี๋ยวข้ากลับมา”
“ได้สิ! เจ้าไปเถอะ เพิ่งมาอยู่ใหม่ก็แบบนี้ล่ะ ขาดอะไรก็รีบไปซื้อ ว่าแต่เจ้ามีเงินแน่นะ ถ้าไม่มีเอากับข้าก่อนก็ได้”
“ไม่ต้องหรอก ข้ามีเงินติดตัวมาพอสมควรอยู่”
“เออๆ รีบไปรีบกลับก็แล้วกันนะ”
เจิงอิ่งหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ที่มีกิ่งไม้ใบบังรุงรังอยู่รายรอบ เหล่าลู่หย่อนเบ็ดไม่นานนักก็ได้ปลาตัวใหญ่ถึงสองตัว นางได้แต่นึกอัศจรรย์ใจว่าบุรุษผู้นี้ช่างมีพรสวรรค์ในการจับปลายิ่งนัก ราวกับว่ามีคาถาเรียกให้ปลามากินเบ็ดได้เลยเทียว แต่พอเขาเก็บปลาใส่ในกระบุงไม้ไผ่ใหญ่เรียบร้อย นางต้องตกใจที่จู่ๆ เขาก็เก็บเบ็ดแล้วลุกขึ้นถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือแต่กางเกงสีขาวบางข้างในเพียงตัวเดียว เขาปล่อยมวยผมสยายลงเต็มหลัง เดินลงไปอาบน้ำสระผมอย่างสบายอารมณ์
‘ตาบ้านี่! นึกยังไงถึงได้แก้ผ้าลงน้ำไปอย่างนั้น? กลางวันอย่างนี้ไม่กลัวจะมีคนมาเห็นหรือไร?’
จุดที่นางหลบอยู่ไม่ไกลจากมุมที่เขาลงอาบน้ำนัก บริเวณนี้มีต้นไม้ใหญ่ร่มครึ้มทาบบนผืนน้ำบางส่วน โขดหินใหญ่น้อยระเกะระกะ นางเองก็นึกชมที่เขาช่างเลือกมุมตกปลาได้เหมาะสม ดูเหมือนบริเวณนี้จะเป็นวังน้ำที่วนเข้ามาผ่านก้อนหินพวกนั้น น่าจะมีฝูงปลาแหวกว่ายหลงเข้ามาไม่น้อย
ผิวกายของเหล่าลู่มิได้คล้ำมากนัก กล้ามเนื้อช่วงบนแน่นเป็นมัด ช่วงใต้ราวนมเป็นลอนแข็งแกร่ง เจิงอิ่งเผลอมองเขาอยู่ครู่หนึ่ง นางมิได้หน้าแดงเพราะเคยเห็นพวกศิษย์พี่แก้ผ้าอาบน้ำกันก็บ่อยในยามที่ฝึกวรยุทธ์บนเขา ที่นางจ้องอยู่นานเพราะรู้สึกว่าร่างกายของเหล่าลู่ดูคล้ายกับพวกศิษย์พี่ที่ฝึกหนัก!
ชายหนุ่มขึ้นจากน้ำในเวลาไม่นานนัก เขาหยิบเอาเสื้อผ้าที่กองไว้แล้วเดินไปยังกระท่อมเล็กๆ ที่สร้างหยาบๆ อยู่หลังต้นไม้สองสามต้นไม่ไกลฝั่ง เจิงอิ่งรีบตามไปดู ครั้นไปถึงหน้ากระท่อมชายหนุ่มกลับหายตัวไป!
‘เอ๊ะ! ข้าก็ตามมาติดๆ เหตุใดจึงไม่เห็นแล้วล่ะ?’ นางยืนชะเง้อคออยู่ข้างฝาด้านข้าง
“เจ้าแอบมาดูข้าอาบน้ำหรือ?” เสียงทุ้มห้าวดังขึ้นที่ข้างหลัง
เจิงอิ่งสะดุ้งแรง นี่เป็นครั้งที่สองแล้วที่เหล่าลู่เข้าใกล้ถึงเนื้อถึงตัวนางโดยที่นางไม่รู้ตัว เขาช่างร้ายกาจนัก!
“ข้าเปล่าสักหน่อย! ข้าก็แค่อยากมาดูท่านจับปลาก็แค่นั้นเอง เห็นเสี่ยวลิ่ง บอกว่าท่านจับปลาเก่งกว่าผู้ใดแถบนี้” นางหันขวับไปเถียง ทว่าแผงอกแข็งแรงเปล่าเปลือยของเขากลับอยู่แทบจ่อหน้า เจิงอิ่งผงะถอยหลังก้าวหนึ่งก็ติดผนังเสียแล้ว
“แล้วเห็นหรือยังว่าข้าตกเบ็ดเก่งเพียงใด?”
“เห็นแล้ว! เห็นแล้วเจ้าค่ะ!” นางเผลอก้มหน้าลง จึงมองเห็นช่วงหน้าท้องแน่นตึงของชายหนุ่ม ซ้ำส่วนล่างมีบางอย่างนูนเด่นขึ้นเป็นลำเพราะกางเกงของเขาเปียกน้ำ จนลู่ไปกับร่างกาย เจิงอิ่งรีบเงยหน้าขึ้นสูดลมหายใจแรง
“ท่านรีบไปใส่เสื้อผ้าเถอะ อากาศเย็นเช่นนี้ยังคิดจะอาบน้ำ ประเดี๋ยวก็เป็นหวัดกันพอดี”
ชายหนุ่มเห็นสายตาของนางที่ตวัดขึ้นจากส่วนล่างก็รีบเอาเสื้อผ้าที่ถือไว้ในมือมาบังไว้ “อืม...จริงของเจ้า!”
เจิงอิ่งแอบอมยิ้มเมื่อเห็นว่าเหล่าลู่แอบหน้าแดงอีกครั้งหนึ่งแล้ว เหล่าลู่ผลุบหายเข้าไปในกระท่อม เขามีเสื้อผ้าแห้งอีกชุดสำหรับเปลี่ยนอยู่ในนั้น ชายหนุ่มจึงสวมกางเกงตัวใหม่แห้งสะอาดและชุดนอกคลุมทับก่อนจะเดินอ้อมไปข้างกระท่อมเพื่อตากเสื้อผ้าที่เปียกทิ้งเอาไว้
“ท่านมาที่นี่บ่อยหรือ?” เจิงอิ่งมองไปรอบๆ กระท่อมไม้ไผ่ ด้านข้างมีครัวชั่วคราวที่วางก้อนเส้าทิ้งไว้ กาต้มน้ำกับหม้อขนาดเล็ก และถ้วยจานก็มีวางไว้ในตะกร้าสาน
“ข้ามาตกปลาบ่อยๆ บางคืนก็นอนค้างที่นี่ หากมีสหายชาวประมงมาด้วยก็อาจจะนัดพบดื่มสุรากัน” เขาผายมือไปทางชายคายาวที่ยกพื้นไม้สำหรับนั่งเล่นเอาไว้ ข้างบนมีโต๊ะวางหมากขาวดำที่ทำเองอยู่ชุดหนึ่ง
“นี่ท่านก็ทำเองหรือ?”
“ข้าอยู่ที่นี่มาหลายปี ว่างๆ ก็ทำโต๊ะ ทำชุดเล่นหมากล้อมพอได้เล่นกับคนอื่นที่มาเยี่ยม” แม้ว่าดูภายนอกกระท่อมไม้ไผ่นี้จะสร้างหยาบๆ ทว่าข้างในกลับมีข้าวของเครื่องใช้หลายอย่างที่แสดงให้เห็นว่ามีคนเข้ามาใช้งานอยู่เรื่อยๆ “เรือนนี้ใครๆ ก็เข้ามาใช้ได้ ข้าไม่ได้หวง เพียงแต่พวกเขาไม่ค่อยจะมานอนค้างคืน อาศัยแค่เข้าส้วมด้านหลังและนอนงีบในตอนกลางวัน หรือไม่ก็ทำกับข้าวกินบ้างยามมาออกหาปลา”
นางเดินไปสำรวจด้านหลังมีส้วมหลุมที่เขาทำไว้เรียบร้อยแข็งแรง มีฝาปิดมิดชิด ชายหนุ่มคว้ากระบุงไม้ไผ่มีฝาปิดมาเปิดดูปลาอีกครั้งหนึ่ง
“เย็นนี้ทำปลาเปรี้ยวหวานทั้งสองตัวก็แล้วกัน ปลาแม่น้ำที่นี่เนื้อแน่นรสชาติดี ฝีมือทำอาหารของนายหญิงจะทำให้เจ้าประทับใจปลาที่ข้าจับเป็นแน่! แต่ถ้าคิดจะกินอีกคราวหน้า เจ้าต้องมาช่วยข้าเฝ้าเบ็ดดีหรือไม่?”
***************************
