บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 กลีบดอกเหมย (3)

“ข้าเมา”

“ตั้งแต่วันนี้เจ้าห้ามแตะสุราอีก ถ้าให้ข้ารู้ เจ้าเดือดร้อนแน่” คำขาดของพี่ชายทำให้หลงเฟิงอี้ไม่กล้าแม้จะชำเลืองตามอง ได้แต่ยืนก้มหน้ารับคำ

“น้องรอง เจ้าจะออกไปข้างนอกหรือ”

“ข้า... ข้าทำผิดกับเกาเจินเจินเสียแล้ว พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ ข้าควรทำเช่นไรดี”

“ถ้าเจ้าสำนึกผิด ไปทำให้ถูกต้อง อย่าให้ใครมาตราหน้าคนสกุลหลงได้” หลงเฮ่าเทียนกอดอกหันข้างให้น้องชาย หลงเฟิงอี้ขยับตัว หันหลังจากไปทันที

“ท่านพี่จะใจร้ายกับน้องรองไปหรือไม่”

“น้องรองของเจ้า ช่างบ้าบอเหลือทน” หลงเฮ่าเทียนค้อนภรรยา ต่างฝ่ายต่างเงียบ แต่ลึกๆ แล้วได้แต่วิตกกังวลกับหลงเฟิงอี้ เรื่องเก่ายังไม่ทันจบ เรื่องใหม่เข้ามาแทรกเสียแล้ว

หลงเฟิงอี้ก้าวยาวๆ ไปโรงเก็บม้า บ่าวดูแลม้าตกใจและยืนนิ่งไป เขาเลยใส่อานม้าเสียเองและกระโดดขึ้นหลังม้าสีน้ำตาลเข้ม กระตุกเท้าข้างท้องม้า พุ่งออกไปราวธนูออกจากสาย แม้อากาศหนาวเหน็บเพียงใดแต่ใจเขากลับร้อนรุ่ม มือหนึ่งแตะตรงปิ่นไม้ในสาบเสื้อ

เกาเจินเจินนางไม่ใช่คนผิดอย่างที่เขาคิด เรื่องพลาดพลั้ง ดันซ้ำรอยกับเกาจินจิน เขาควรทำเยี่ยงไรกับพี่น้องสกุลเกา รับพวกนางเข้าสกุลหลง ลืมเรื่องราวที่แล้วมาอย่างนั้นหรือ ไม่... เขาทำไม่ได้ อี้ซิ่วต้องจากโลกนี้ไปอย่างทรมาน ไม่มีทางที่จะรับพี่น้องสกุลเกาเข้ามาอยู่อย่างอสรพิษที่คอยโอกาสแว้งกัดคนในสกุลหลงอีกแน่

หลงเฟิงอี้ควบม้ากลางหิมะขาว มุ่งหน้ายังสกุลเกาแห่งเมืองหลวง เพื่อควานหาตัวเกาจินจิน เพื่อได้เจรจากับเกาเจินเจิน นางตกเป็นของเขาเพราะเหตุใด เพื่อจะใช้เรือนกายอันบริสุทธิ์ล้างบาปให้เกาจินจินแฝดน้องเช่นนั้นหรือ ไม่ว่าเช่นไร เขาต้องเจอพวกนางให้ได้

ผมยาวไร้การรวบมัดสะบัดไหวไปตามแรงลมปะทะ อาภรณ์ดำทั้งชุดเป็นจุดเด่นกลางเหมันตฤดู อาชาที่เร่งรีบ เป็นจุดสนใจของชาวเมืองไม่น้อยทีเดียว หลงเฟิงอี้หาได้สนใจผู้ใดไม่ เขาเดินทางเพียงลำพัง ไม่ได้พาฉิงซูกับฉิงคุนไปด้วย ไม่ได้บอกผู้ใดว่าจะออกไปไหน แต่เขาเชื่อว่าพี่ชายต้องรู้

หลงเฟิงอี้ไม่ยอมให้เสียเวลา เมื่อย่างเข้าเมืองหลวง เขาตรงไปยังสกุลเกา พ่อบ้านสกุลเกาต้อนรับเขา พาไปยังห้องโถงรับแขก แค่กวาดตามองปราดเดียว เขาก็บอกได้ว่าสกุลเกาอับจนลงมาก แล้วเหตุใดเกาจินจินถึงได้เสพสิ่งของชั้นสูงขนาดนั้นได้

“เฟิงอี้ เจ้ามีเหตุอันใดถึงได้เดินทางมาที่นี่” เกาจี้กงไอแครกๆ แล้วเดินเข้ามาหาเขาหน้าตาตื่น มีฮูหยินคอยประคองให้ลงนั่งและช่วยลูบหลัง รินชาอุ่นๆ ส่งให้

“ท่านไม่สบายหรือ?” หลงเฟิงอี้เห็นอาการของเกาจี้กงไม่ค่อยดีนักเลยถามขึ้น

“ท่านพี่กระเซาะกระแซะมาพักใหญ่แล้ว จางหยางเองก็โรคเก่ากำเริบ” เกาหลินตอบขึ้นเสียงแหบ หน้าตาหมองคล้ำ เฝ้าดูแลสามีกับบุตรชายคนโตมาพักใหญ่ ทำให้นางซูบผอมลงไปมาก

“น้องห้าเข้าวัง ข้าจะให้เขาแวะมาดูอาการท่าน”

“ขอบคุณเฟิงอี้ จินเอ๋อร์ไม่ได้มาด้วยหรือ” เกาจี้กงมองเขาอย่างมีความหวังว่าบุตรสาวจะกลับมาให้เห็นหน้าบ้าง

“ที่ข้ามา ข้ามีความถึงท่าน ระงับใจของพวกท่านไว้เสียหน่อยท่าจะดี”

“มีเหตุร้ายอะไรเกิดขึ้นกับจินเอ๋อร์หรือไม่” สองสามีภรรยาร้องขึ้นเกือบจะพร้อมกัน แม้บุตรสาวจะดื้อและเอาแต่ใจมากเพียงใด แต่ผู้เป็นบิดา มารดาก็มิอาจละเลยได้

“ข้าจะหย่าขาดกับนาง”

สามีภรรยามองหน้ากัน ใบหน้านั้นถอดสีเห็นได้ชัด

“จินเอ๋อร์ทำเรื่องให้เจ้าไม่พอใจกระมัง ให้ข้าพูดกับนางได้หรือไม่เฟิงอี้”

“เห็นจะไม่ได้ นางหนีออกจากสกุลหลงไปเสียแล้ว ไปตั้งแต่ครั้งที่ข้ามาถามความจากท่านเมื่อกว่าเดือนก่อน นางขนข้าวของไป แม้แต่สินเดิมนางก็พาไปหมด”

“พวกเจ้ามีเรื่องใดกันหรือ?”

หลงเฟิงอี้ขบกราม เส้นเลือดตรงขมับปูดนูน “นางฆ่าอี้ซิ่วกับลูกในท้อง”

“ฆ่า! ฮูหยินใหญ่ของเจ้า” เกาจี้กงตาเบิกโต เกาหลินล้มพับไปทันใดนั้นเอง สาวใช้สองคนเข้ามาประคอง ช่วยกันทุลักทุเล

“นางเอายาขับให้อี้ซิ่วกิน สตรีท้องแก่เจ็ดเดือน ฮึ เมียข้าตายอย่างทรมานพร้อมลูกของข้า” มือที่วางอยู่บนโต๊ะกำแน่น เกาจี้กงก็เห็น

“จินเอ๋อร์ จินเอ๋อร์กล้าทำอย่างนั้นหรือ ข้าไม่มีทางเชื่อ”

“พี่ใหญ่ข้าส่งคนไปสืบความมาแล้ว นางลักลอบให้สาวใช้ไปซื้อยามา แล้วเอาไปเปลี่ยนกับยาบำรุงของอี้ซิ่ว ร้านยาเป็นพยานเรื่องนี้ได้ ข้ามาเพื่อจะบอกท่าน ข้าเจอนางเมื่อใด ข้าจะหย่าและส่งนางให้ทางการ” เขาประกาศเสียงกร้าวกระด้าง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel