บทที่ 2 ตัวแทน (2)
“อะไรกัน!” เกาเจินเจินถูกกระชากเข้าไปในสกุลหลง
“คุณชายรองตามหาท่านเป็นเดือนแล้ว เห็นท่าท่านจะรอดยากเสียแล้ว”
เกาเจินเจินถูกพาย่ำไปยังหิมะขาว เดินผ่านเรือนหลังใหญ่และผ่านสวนเหมยแดงที่ปลูกไว้เรียงรายกำลังส่งดอกแดงตัดสีขาวของหิมะดูน่าหลงใหล
ร่างหนึ่งเดินแกมวิ่งตรงเข้ามา เรือนร่างสูงโปร่ง อาภรณ์ดำสะบัดพลิ้วไหวดูน่ากลัว แน่แล้ว เขาเดินตรงเข้ามาหานาง เกาเจินเจินได้แต่หยุดลมหายใจนิ่ง รู้ว่าไม่ใช่การต้อนรับที่ดีนักจากคนสกุลหลงที่กำลังมุ่งมาหานางด้วยใบหน้าเครียดขึง มือหนึ่งกำแส้ดำยาวมาด้วย ท่าทางเหมือนโกรธแค้นใครมาสักร้อยชาติ
“ในที่สุดเจ้าก็เดินกลับมารับกรรมด้วยตัวเอง” เสียงลอดไรฟัน มุมปากเหยียดยิ้ม แต่นัยน์ตานั้นลุกวาว
เกาเจินเจินผละถอยหลังไปสองก้าว แต่หลงเฟิงอี้ตามเข้ามากระชากแขนนางติดมือ เขาพานางหมุนตัวกลับไปยังที่ที่เขาเพิ่งจากมา
“ปล่อยข้า!”
เขาหันกลับมา ดวงตาคมกริบหรี่ลง ริมฝีปากบางได้รูปเหยียดจนเป็นเส้นตรง “เจ้าจะกลัวอันใดกัน”
“ท่านเป็นใคร?” นางร้องขึ้น กลัวเขาเหลือเกิน และเหตุใดต้องทำรุนแรงกับนางเช่นนี้
“ฮ่าๆ จำสามีของเจ้าไม่ได้หรอกหรือจินจิน” สองคิ้วเข้มเลิกสูง ท่าทางแปลกใจ เขากำลังแสยะยิ้ม
เกาเจินเจินตะลึงมองหน้าเขา “ไม่! ข้าไม่ใช่จินจิน” พร้อมทั้งสะบัดแขนหลุดจากนิ้วเรียวยาว
“เจ้าจะเล่นละครกับข้ารึ” หลงเฟิงอี้กระชากคอเสื้อของนางจนเกาเจินเจินเท้าลอยจากพื้น นางพยายามดิ้นรนอย่างตกใจแต่สู้เรี่ยวแรงของเขาไม่ได้
หลงเฟิงอี้ สามีของเกาจินจิน เขากำลังเข้าใจผิดคิดว่านางเป็นภรรยาเขา “ข้าเจินเจิน ไม่ใช่จินจินภรรยาท่าน” นางร้องบอกเขาอีกครั้ง แปลกใจที่เขาจำภรรยาตัวเองไม่ได้
หลงเฟิงอี้พาเกาเจินเจินย่ำหิมะก้าวยาวๆ ตรงไปยังเรือนเหมยแดง เมื่อมาถึงห้องโถงเขาสะบัดแขน เกาเจินเจินเลยหลุดลงไปหมอบอยู่กับพื้นเย็นจัด เขาช่างรุนแรง นางเชื่อแล้วว่าเขาต้องทำร้ายจินจินหนักหนาแน่นอน และท่าทางจะมีปากเสียงกันมากเสียด้วย เขาก้าวเข้ามานั่งลงบนส้นเท้า มือหนึ่งบีบที่ไหล่บางของนางจนเจ็บร้าวไปทั้งตัว ใบหน้าหล่อคมก้มลงมาใกล้
“ข้าส่งเจ้าให้ทางการแน่ อี้ซิ่วจะได้นอนตายตาหลับ”
“ข้าไม่ใช่จินจิน! ท่านเข้าใจผิดแล้ว”
“ทั้งหน้าตา ทั้งเสียงของเจ้า เจ้าคือจินจิน ถึงยังไงข้าก็ไม่ปล่อยให้เจ้ามีความสุขโดยที่เป็นตัวการทำให้อี้ซิ่วตายหรอก เจ้าวางยานาง นางตายพร้อมกับลูกในท้อง ลูกของข้า!”
“ท่านแน่ใจได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือจินจิน”
“พี่ใหญ่ส่งคนไปสืบมาหมดแล้ว ฮึ เจ้าต้องทรมานเช่นเดียวกับที่อี้ซิ่วทรมานก่อนตาย นางปีศาจ! จิตใจเหี้ยมหาญอย่างเจ้า ตายไปสิบชาติยังชดใช้ชีวิตให้อี้ซิ่วและคนสกุลหลงไม่ได้”
“ข้าบอกว่าข้าไม่ใช่จินจิน ข้าคือแฝดพี่ของนางชื่อเกาเจินเจิน”
“ถึงกลัว... แต่ตอนนี้มันก็สายเสียแล้ว อุบายหน้าซื่อของเจ้าใช้ไม่ได้กับข้าอีกต่อไป”
“ข้าไม่รู้ว่าท่านกับจินจินมีเรื่องบาดหมางอะไรกัน แต่ท่านเอานางไปไว้เสียที่ไหน ท่านจะกักขังนางไม่ได้ ปล่อยนางออกมาเดี๋ยวนี้”
หลงเฟิงอี้ขยับตัวลุกขึ้น ดึงนางขึ้นมาด้วยและผลักให้ออกไปจากเรือนเหมยแดง เกาเจินเจินสะดุดธรณีประตูจนหัวคะมำอยู่กับกองหิมะหนา นางต้องสูดปากเพราะฝ่ามือครูดกับหิมะหนาวเหน็บ
“เจ้าไม่จำเป็นต้องแสร้งอ่อนแอเพื่อหลอกข้า มารยาของเจ้าไม่เคยชนะใจข้าสักครั้ง ข้ารู้แจ้งแล้วว่าเจ้าไม่ควรแม้แต่จะเข้ามาเหยียบสกุลหลงแห่งนี้ ความเลวร้ายเจ้าเล่ห์ของเจ้า ข้าไม่เคยลืม”
“ข้าจะบอกท่านอีกครั้ง” นางส่งเสียงดัง เน้นย้ำทีละคำ “ข้าคืนแฝดพี่ของจินจิน”
นัยน์ตาวาว ท่าทางคุกคามนั้นบอกว่าเขาไม่เชื่อ “เจ้าเข้ามาสกุลหลงสองปีแต่ไม่เคยเอ่ยถึงแฝดของเจ้า แล้วจะให้ข้าเชื่อได้อย่างไร”
“ข้ากับจินจินไม่ได้อยู่บ้านเดียวกัน ข้าอาศัยอยู่ที่ฉางซู ท่านอารับข้าเป็นบุตรบุญธรรมตั้งแต่ข้าสามขวบ ไม่เชื่อท่านก็ไปถามคนสกุลเกาได้”
“คนสกุลเกาจะรวมหัวกันหลอกลวงข้า” เขาหันไปทางลูกน้องคนสนิทที่ยืนห่างออกไป “ฉิงซู ไปเอาเอกสารมา” บุรุษนามฉิงซูค้อมศีรษะและหมุนกายจากไปทันที
เกาเจินเจินมองหน้าเขางงๆ และต้องหัวคะมำอีกครั้งเมื่อหลงเฟิงอี้ผลักนางให้เดินหน้าไป เมื่อนางหยุดเดิน เขาจะผลักอีก จนกระทั่งเข้ามาอยู่ในเรือนบรรพบุรุษ เขาเลยบังคับให้นางคุกเข่าลง มือแข็งกระด้างกดศีรษะนางให้ลงไปจรดพื้นเย็น อากาศหนาวจัดแต่เกาเจินเจินชักสะบัดร้อนอย่างไรก็สุดจะกล่าว หลงเฟิงอี้ไม่ยอมฟังที่นางพูด เขากำลังบังคับนางให้ทำอะไรก็สุดจะเดาได้
