บทที่ 1 เจ้าจะต้องรับกรรม (4)
“ข้าต้องไปตามตัวจินจินกลับมาเค้นให้รู้ความ พี่ใหญ่ก็ต้องคิดเหมือนข้า”
“ท่านพี่เรียกเด็ก ในเรือนเจ้าไปสอบถามทุกคนแล้ว แต่ไม่มีใครมีพิรุธทั้งนั้น เจ้าก็รู้ดีว่าเขาทำให้คนผิดร้อนตัวขึ้นมาได้ แต่ทุกคนในเรือนไม่รู้เรื่องด้วย เหลือก็แต่จินจินที่ออกจากบ้านไปตั้งแต่วันที่เจ้าหลับในเรือนบรรพบุรุษแล้ว”
“ข้าบอกว่าจะหย่ากับนางแต่นางไม่ยอม นางบอกให้นางตายเสียก่อนข้าถึงมีอิสระจากนาง นางเจ้าเล่ห์ จะไม่ให้ข้าคิดได้อย่างไรว่านางไม่มีส่วนทำให้อี้ซิ่วตาย”
“ถ้าเจ้าตามจินจินเจอแล้ว พานางกลับมาที่นี่ เจ้าอย่าเพิ่งวู่วามเล่า”
“ได้ ข้ารับปากท่าน” หลงเฟิงอี้พยักหน้ารับคำ
“อือ ข้าจะกลับแล้ว” มู่อิงหวาหันกายกลับไปพร้อมกับเสี่ยวซินเงียบๆ
หลงเฟิงอี้มองส่งมู่อิงหวาจนลับตาก่อนจะเรียกเด็กในเรือนมาถามเรื่องเกาจินจิน ได้ความว่านางเก็บข้าวของจากไปอย่างเร่งรีบ บอกจะกลับบ้านเก่าไปเยี่ยมบิดา มารดา แต่ที่แปลกคือนางขนเอาของมีค่ากลับไปจนไม่มีเหลือสักชิ้นเดียว รวมทั้งสินสมรสเดิมของนางด้วย
“คิดจะหนีข้า หนีความผิดเช่นนั้นหรือ” หลงเฟิงอี้กำหมัดเข้าหากัน “ไปเตรียมม้าฝีเท้าดีให้ข้า” พูดจบเขาหันหลังเข้าเรือนเพื่อผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้า
บรรดาบ่าวรับใช้ต่างดีใจที่เจ้านายกลับมาเป็นคนเดิมแล้ว แต่นัยน์ตาเจ้านายดูน่ากลัวขึ้นหลายส่วน นั้นเพราะเสียภรรยาที่รักพร้อมลูกน้อย ไหนจะอนุภรรยาที่หนีกลับบ้านเดิมอย่างมีเงื่อนงำ แค่เจ้านายไม่อาละวาดฟาดแส้เหมือนก่อนหน้านี้ ก็ดีเท่าไรแล้ว
หลงเฮ่าเทียนรู้ข่าวจากภรรยา เขาเร่งย่ำหิมะตามหลังน้องชายมาทันกันที่ประตูใหญ่ของคฤหาสน์ “เจ้าจะไปที่ใดกัน”
หลงเฟิงอี้หันกลับไป เห็นพี่ชายกำลังตามเขามา “ข้าจะไปตามจินจินกลับมารับโทษให้ได้”
สองมือไพล่หลัง ขบคิดตาม ก่อนจะถามออกไป “เจ้ามีหลักฐานอย่างนั้นหรือ?”
“เรื่องนี้ข้าขอรบกวนพี่ใหญ่แล้ว” หลงเฟิงอี้ประสานมือ ค้อมให้พี่ชาย ลำพังเขาคนเดียวคงจัดการเรื่องทั้งหมดในเวลาเดียวกันไม่ได้ ขอร้องพี่ชายแน่นอนว่าหลงเฮ่าเทียนไม่มีทางปฏิเสธ พี่ชายเขาเป็นคนฉลาด รอบคอบ เชื่อว่าต้องหาร่องรอยอะไรได้บ้าง
“ได้!”
หลงเฟิงอี้กระโดดขึ้นหลังม้าตัวโตกำยำ “ขอบคุณพี่ใหญ่ ข้าจะกลับมาภายในหนึ่งเดือน”
“อือ” หลงเฮ่าเทียนตอบรับเบาๆ
หลงเฟิงอี้เตะข้างท้องม้าพาห้อตะบึงย่ำหิมะขาวโพลนจากไปด้วยความรวดเร็ว หลงเฮ่าเทียนมองภาพนั้นจนเหลือเพียงจุดดำๆ และมุมปากยกยิ้มน้อยๆ “ข้าพูดถูกใช่หรือไม่เมียรัก น้องรองเสียใจเพราะตัวเอง และจะกลับมาเข้มแข็งก็เพราะตัวเขาเอง ตอนนี้ก็หมดห่วงเขาเสีย แล้วกลับมาเอาใจสามีเจ้าได้หรือไม่” หลงเฮ่าเทียนชายตาไปยังหลังบานประตูคฤหาสน์
“เฮอะ” มู่อิงหวาสะบัดหน้าเข้าเรือนไป นางยังน้อยใจสามีไม่สร่างซา
“เมียข้าชักเอาใหญ่แล้ว เจ้าว่าหรือไม่เสี่ยวซิน”
“ฮูหยินน้อยกำลังตั้งครรภ์ นายน้อยต้องเอาใจให้มากๆ เจ้าค่ะ” พูดจบก็รีบวิ่งตามเจ้านายสาวไป
“ทั้งนายทั้งบ่าว เริ่มเหมือนกันเข้าไปทุกวัน หรือข้าจะใจดีเกินไปก็ไม่รู้” หลงเฮ่าเทียนยิ้มอีกครั้งในรอบสองเดือน ใครว่าเขาไม่ห่วงหลงเฟิงอี้เล่า เขาในฐานะพี่ใหญ่ จำเป็นต้องเข้มแข็งให้น้องเห็นสิถึงจะถูก
หลงเฟิงอี้เดินทางทั้งวัน และหยุดพักเพราะหิมะตกหนักจากพายุ เป้าหมายเขาคือเมืองหลวง บ้านเดิมของเกาจินจิน เดิมทีสกุลเกาเองอยู่เมืองเถียเฉินฝั่งตะวันตก แต่นายท่านเกา บิดาของเกาจินจินย้ายกลับไปบ้านเดิมของภรรยาที่เมืองหลวงเพื่อดูแลกิจการที่พ่อตาทิ้งเอาไว้ให้บุตรสาวเพียงคนเดียว เกาจินจินเลยมีทั้งคนรู้จักที่เมืองเถียเฉินและเมืองหลวง
หลงเฟิงอี้ถึงเมืองหลวงในวันที่สี่ของการเดินทาง เขาตรงไปยังหอเมฆาเพื่อเอาม้าไปพักและตัวเองจะได้ผ่อนคลายจากการเดินทางไกล เรือนรับรองถูกปัดกวาดรอเจ้านายตลอดเวลาอยู่แล้ว เขาจำเป็นต้องพักเรื่องเกาจินจินไว้ทั้งที่มาถึงเมืองหลวงแล้ว เพราะเขามาถึงดึกมาก การไปตามหาคนกลางดึงท่าจะไม่ให้เกียรติเจ้าบ้านนัก เพราะบิดากับมารดาของนางไม่ได้รู้เห็นเรื่องที่นางทำไว้ เกาจินจินดูจะดื้อด้าน ต่อต้านบิดา มารดาอยู่หลายส่วนด้วย
รุ่งเช้าหลงเฟิงอี้ตรงไปสกุลเกา แต่ได้ทราบข่าวจากบิดาของนางว่านางยังไม่ได้กลับมา ไม่ได้ส่งข่าวอะไรมาที่บ้านตั้งแต่ที่แต่งเข้าสกุลหลงไปแล้ว
หลงเฟิงอี้แปลกใจอยู่บ้าง เขายอมกลับมาหอเมฆาแต่โดยดี เขาส่งคนไปเฝ้าบ้านสกุลเกาเอาไว้เผื่อทุกคนที่นั่นช่วยเกาจินจินให้หลบหน้าเขา แต่ห้าวันเต็มๆ ที่ส่งคนไปเฝ้า กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเกาจินจิน ท่าทางคนสกุลเกาจะไม่ได้โกหกเสียแล้ว แล้วเกาจินจินจะไปที่ใดกัน นางคิดจะหนีเขาไม่ให้ตามพบอย่างนั้นหรือ แล้วจะได้เห็นกันว่าเขาจะตามนางพบหรือไม่
“ข้าต้องตามตัวเจ้ามารับกรรมให้จงได้จินจิน”
