บทที่ 1 เจ้าจะต้องรับกรรม (2)
“จินจินเกลียดเจ้า นางต้องใส่ความเจ้า ข้ารู้... รู้ว่าเจ้ารักข้าแค่ไหน ข้าเองก็รักเจ้าจดหมดหัวใจ เจ้าเป็นของข้าคนเดียวเท่านั้น” หลงเฟิงอี้ทรุดกายลงหน้าป้ายวิญญาณของอี้ซิ่ว สองแขนยันพื้นเพราะเขาแทบจะทรงตัวไม่ไหวเสียแล้ว “นางต้องทำให้เจ้าตาย ข้าจะไล่นางออกไปจากบ้าน ข้าจะไม่มีใครอีกนอกจากเจ้า อี้ซิ่ว...” เขาหยุดและสะอึก “เหตุใดเจ้าไม่โชคดีเหมือนพี่สะใภ้ เหตุใดข้าถึงไม่โชคดีเหมือนพี่ใหญ่ เหตุใดเจ้าตายแล้วถึงฟื้นขึ้นมาไม่ได้” เสียงเขาสั่นเครือยานคราง กำปั้นทุบพื้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อระบายความอัดอั้นตันใจ เขาทุบจนเห็นเลือดตัวเองก็ยังไม่ยอมหยุดมือ
เกาจินจินสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นางวิ่งฝ่าพายุหิมะตามมาที่เรือนบรรพบุรุษ และเข้าไปกอดหลงเฟิงอี้จากด้านหลัง ก่อนหน้านี้นางตกใจมากไป เลยพูดอะไรที่ไม่สมควรไปมากอยู่
“ต่อไป ข้าจะดีกับท่านให้มาก ท่านเองก็รักข้าให้มากล่ะ”
“ออกไป!” พร้อมกับตวาดเขาสะบัดเกาจินจินจนหลุด
“ข้าเป็นเมียท่าน! ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น” นางยืนยันหนักแน่น สองมือกำเข้าหากัน กายสั่นด้วยความไม่พอใจ
“เจ้าเอายาให้อี้ซิ่วกิน อย่าคิดว่าข้าจะไม่รู้ทันเล่ห์กลเจ้า” หลงเฟิงอี้หันกลับมาช้าๆ นัยน์ตาแดงก่ำ เขาเอื้อมมากระชากแขนเกาจินจิน ลงแรงบีบจนแขนนางแทบหัก นางร้องประท้วงพร้อมทั้งบิดแขนออกจากมือเขา
“ข้าจะทำเช่นนั้นด้วยเหตุใดเล่า” นางเริ่มกลัวอีกครั้ง กลอกตาไปมาอย่างคนร้อนตัว
“เจ้าอิจฉาอี้ซิ่ว!” เสียงหลงเฟิงอี้คล้ายตวาด ดังก้อง แต่เพราะมีพายุหิมะ จึงไม่มีใครกล้าออกจากเรือนมาทันได้ยินทั้งสองมีปากเสียงกัน
เกาจินจินกัดปากและเม้มไว้แน่นสนิท ก่อนจะแสยะยิ้ม “นางตายไปก็ดีแล้ว” เกาจินจินสะบัดตัวหลุดจากหลงเฟิงอี้ไปยืนเสียไกล “ข้าจะบอกอะไรท่านให้” เกาจินจินหยุดมองเขา “อี้ซิ่วยังคงนัดพบผัวโจรของนาง ท่านก็รู้ว่าเรื่องที่ท่านไปช่วยนางจากโจรภูเขา มีแค่ท่านกับนางเท่านั้นที่รู้”
หลงเฟิงอี้ชะงัก ใช่ เรื่องที่เขาช่วยนางจากโจรป่าบนภูเขาเมื่อสามปีก่อนมีแค่เขากับนางเท่านั้นที่รู้ เขาช่วยและไปส่งนางที่บ้าน เขารักชอบในนิสัยของนางและรับนางเข้ามาเป็นภรรยาตั้งแต่นั้น พี่ชายของเขาก็ไม่ขัดที่บ้านของนางยากจน นางเข้ามาสกุลหลง ด้วยคิดว่าตัวเองต่ำต้อย เลยอยู่อย่างเจียมเนื้อเจียมตัวมาตลอด หลงเฟิงอี้ตื่นจากภวังค์เมื่อเสียงของเกาจินจินดังขึ้นมาอีก
“นางกินยาฆ่าตัวตาย ข้อนี้ข้าเอาหัวเป็นประกันได้” เกาจินจินหยุดและยิ้มมุมปาก
“ผัวโจรของนางมาข่มขู่นาง นางเครียดเลยกินยาเข้าไปเพื่อขับเด็ก แต่ตัวนางเองก็กลับไม่รอด”
“ไม่จริง! นางรู้ว่าข้าอยากมีลูกมากแค่ไหน นางไม่ทำอย่างนั้นแน่” เขาไม่เชื่อ ไม่มีทางเชื่อคนอย่างเกาจินจิน สตรีจิ้งจอกเช่นนางก็ได้แต่เป่าลมปากไร้แก่นสารไปวันๆ
“นางทำจริงๆ ไม่เชื่อท่านไปถามสาวใช้เรือนของท่านสิ แต่สาวใช้ไม่รู้หรอกว่ายาที่อี้ซิ่วให้ต้มเป็นยาที่มีไว้เพื่อฆ่าทายาทสกุลหลง แต่เฉียนหรูก็ยืนยันว่านางกินยาขับ แค่ไม่รู้ว่านางเต็มใจกินเข้าไปเอง และข้าก็กำลังบอกท่านอยู่นี่แล้วอย่างไร” เกาจินจินยิ้ม ตาวาวระยับ
“เจ้า! ไปให้พ้นหน้าข้า เจ้ามันนางปีศาจ”
“ถึงยังไงข้าก็เป็นเมียท่าน ท่านเองมิใช่หรือที่บังคับขืนใจข้า”
“ข้าเมา คิดหรือว่าข้าจะโง่ เจ้ารู้ดี เจ้าวางแผนล่อลวงข้า ข้าไม่เคยรักเจ้า ข้าจะหย่าเจ้า!”
“ไม่ได้นะ! ข้าไม่หย่า” เกาจินจินร้องเสียงหลง นางอุตส่าห์ลงแรงมาถึงขั้นนี้ จะให้หลงเฟิงอี้หย่าขาดจากนางง่ายๆ ไม่ได้
“คิดว่าข้าหลงเฟิงอี้จะทำไม่ได้หรือ” เสียงต่ำ นัยน์ตาวาวแสง
เกาจินจินเม้มปาก สองมือกำเข้าหากัน จ้องตอบตาคมดุของหลงเฟิงอี้ ทำเช่นไรเขาก็ไม่เคยเหลียวแลนางสักครั้ง ข้อนี้นางกล้ำกลืนฝืนทนมานานแล้ว “ในเมื่อข้าไม่ได้ท่าน ท่านก็ไม่สมควรมีความสุข” นางยิ้มนัยน์มุมปาก “ข้าจะไม่ลงชื่อในใบหย่า รอให้ข้าตายก่อนก็แล้วกันท่านถึงจะเป็นอิสระจากข้า คนอย่างเกาจินจินไม่ได้อ่อนแอ ท่านรู้ดีนี่” พูดจบนางสะบัดหน้าเดินฝ่าพายุหิมะออกไปอย่างไม่เสียใจกับสิ่งที่นางพูด ‘จะหย่าอย่างนั้นหรือ หย่าเพื่อให้ท่านเป็นอิสระจากข้า ไม่มีทาง ข้าเกาจินจินไม่เคยแพ้ผู้ใด ข้าลงแรงไปมากกว่าจะได้เป็นภรรยาท่าน’
หลงเฟิงอี้ไม่สนใจนางอีก เขาเชื่อว่าเขาต้องจัดการกับเกาจินจินได้ เขาไม่เชื่อที่นางพูด เขารู้ว่านางต้องมีส่วนในการตายของอี้ซิ่ว และเขาจะหาหลักฐานมาจับตัวนางเข้าคุกของทางการให้ได้ ร่างสูงทิ้งตัวลงนอน สองแขนกอดตัวเองเพราะพายุพัดเอาหิมะเข้ามาในเรือนบรรพบุรุษ “ข้าจะล้างแค้นให้เจ้า” เสียงเขาเบาหวิวสั่นเครือก่อนจะหลับไป
หลงเฟิงอี้ขยับกาย มีอาการหนักศีรษะจนเขาลุกขึ้นไม่ได้ เปลือกตาค่อยๆ เปิดขึ้นอย่างเชื่องช้า เจ้าตัวพยายามกะพริบตาถี่ๆ จนปรับรับแสงได้แล้ว นัยน์ตาที่ยังแดงก่ำกวาดมองไปรอบห้อง นี่เตียงของเขา เตียงที่เคยอบอุ่น บัดนี้กลับหนาวเหน็บ เขากลับมานอนที่เรือนเหมยแดงได้อย่างไรกัน
“น้องรอง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง”
หลงเฟิงอี้มองไปตามเสียง เห็นมู่อิงหวาที่ท้องนูนน้อยๆ เดินเข้ามานั่งที่ข้างเตียงเขา “พี่สะใภ้ ข้าจำได้ว่าข้าหลับไปที่เรือนบรรพบุรุษ”
“พี่ชายเจ้า แบกเจ้ากลับมาเมื่อตอนค่ำ ดื่มน้ำแกงร้อนๆ เสียหน่อย น้องห้าใส่ยาสมุนไพรแก้สร่างเมาให้เจ้าด้วย” มู่อิงหวารับถ้วยน้ำแกงจากเสี่ยวซินสาวใช้คนสนิท และส่งต่อให้หลงเฟิงอี้ที่ขยับนั่งหลังตรงพร้อมสะบัดผ้าห่มนวมผืนหนาออกพ้นตัว
