บท
ตั้งค่า

แค่ทำแผล

เหมยจูเปิดสมุดจดบันทึก ตรวจทานข้อมูลที่เธอบันทึกไว้เมื่อวานอย่างละเอียดอีกครั้ง สายตาของเธอไล่ไปตามตัวเลข ชื่อ และแต้มงาน อย่างตั้งใจ

"ต้องรอบคอบ อย่าให้ผิดพลาด"

เธอพึมพำกับตัวเองในระหว่างที่ตรวจสอบข้อมูล เปรียบเทียบกับเอกสารรายงานผลงานที่ได้รับมา และคำนวณแต้มงานของแต่ละคน อย่างแม่นยำ

แม้จะเป็นงานที่ค่อนข้างซ้ำซาก แต่เหมยจูก็ไม่รู้สึกเบื่อ เธอสนุกกับการคำนวณและรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงานนี้

งานนี้ต้องใช้ทั้งความละเอียดรอบคอบและความซื่อสัตย์ เหมยจูได้แต่คิดในใจว่าจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด หลังจากตรวจทานข้อมูลจนแน่ใจว่าไม่มีข้อผิดพลาดแล้ว เหมยจูก็ลุกขึ้นเดินไปที่แผนกลงชื่อเข้าออกงาน

"สวัสดีค่ะลุงฮุย"

เหมยจูทักทายลุงฮุยหมิง เจ้าหน้าที่แผนกลงชื่อเข้าออกงาน ที่เธอได้พบหน้าบ่อยครั้งแล้ว

"อ้าว เหมยจู มีอะไรเหรอ"

"หนูมารับเอกสารการลงชื่อเข้าออกงานของเมื่อวานค่ะ"

"อ้อ ได้สิ รอแป๊บนึงนะ ทำงานเก่งนะเรา เพิ่งมาได้ 2 วันก็ได้มาตามงานที่ลุงแล้ว"

ลุงฮุยหยิบเอกสารให้เหมยจู พร้อมกับพูดคุยกันตามประสาเพื่อนร่วมงาน

"งานง่าย ๆ ค่ะลุง ขอบคุณมากนะคะ"

"ครับผม มีอะไรก็มาถามลุงได้นะ"

"ค่ะ"

เหมยจูนำเอกสารกลับมาที่โต๊ะทำงาน แล้วเริ่มบันทึกข้อมูลการลงชื่อเข้าออกงานของคนงานในหมู่บ้าน ใครมาสาย ใครขาดงาน จะต้องบันทึกให้ครบถ้วน เธอตรวจสอบรายชื่อ เวลา และเหตุผลอย่างละเอียด

ผ่านไป 2 ชั่วโมง เหมยจูก็ทำงานเสร็จทุกอย่าง จากนั้นเธอจึงเดินไปหาป้าหลีเผื่อว่าอาจจะมีอะไรที่เธอพอจะช่วยได้

เหมยจูจัดการงานเอกสารของตัวเองเสร็จสิ้นในเวลาอันรวดเร็ว ด้วยความขยันขันแข็ง เธอจึงไม่ปล่อยเวลาให้เสียเปล่า เหมยจูลุกขึ้นจากโต๊ะทำงาน เดินตรงไปยังโต๊ะของป้าหลี เจ้าหน้าที่อาวุโสแผนกบัญชี

"ป้าหลีคะ งานของหนูเสร็จหมดแล้ว ป้าหลีมีอะไรให้หนูช่วยไหมคะ"

เหมยจูเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสดใส ป้าหลีเงยหน้าขึ้นจากกองเอกสาร มองเหมยจูด้วยรอยยิ้ม

"โอ้ งานเสร็จหมดแล้วเหรอเหมยจู ทำงานเร็วจริง ๆ เลยนะ"

"ค่ะ หนูเห็นป้าหลียุ่ง ๆ เลยอยากมาช่วยแบ่งเบางานในมือ"

"ขอบใจหนูมากนะเหมยจู ป้ากำลังตรวจทานบัญชีเสบียง เงิน และคูปองของหมู่บ้านอยู่พอดี หนูช่วยป้าตรวจสอบอีกทีได้ไหม ป้าแก่แล้ว สายตาไม่ค่อยดี กลัวจะลงตัวเลขผิด"

น้ำเสียงของนางแฝงได้ด้วยความเหนื่อยล้า แต่แววตาที่มองเหมยจูกลับเต็มไปด้วยความเอ็นดูที่มีต่อเด็กสาว

"ได้ค่ะป้าหลี เดี๋ยวหนูจัดการให้เอง ป้าสบายใจได้เลยค่ะ"

เหมยจูนำแฟ้มเอกสารบัญชีเสบียง เงิน และคูปอง มานั่งตรวจทานที่โต๊ะทำงานของตัวเอง เธอเริ่มตรวจสอบตัวเลขในบัญชีอย่างละเอียด สายตาของเธอไล่ไปตามรายการต่าง ๆ ด้วยความรวดเร็วและแม่นยำ

ป้าหลีแอบมองเหมยจูทำงานด้วยความชื่นชม เธอประทับใจในความขยันขันแข็ง ความมีน้ำใจ และความรับผิดชอบของเด็กสาวมาก

"เหมยจู หนูเรียนจบด้านบัญชีมาเหรอ"

ป้าหลีอดไม่ได้ที่จะถาม เพราะงานด้านนี้ถ้าไม่ได้เรียนมาหรือมีใจรัก คงต้องปวดหัวและเข้าไม่ถึงแก่นแท้อย่างแน่นอน

"หนูเรียนมัธยมปลายทั่วไปค่ะป้าหลี แต่ตอนที่อยู่ปักกิ่งได้ช่วยงานครอบครัวที่รับเลี้ยงอยู่บ่อย ๆ หนูก็เลยทำเป็น บวกกับชื่นชอบคำนวณตัวเลข พอเห็นตัวเลขเยอะ ๆ ก็รู้สึกสนุกดีค่ะ"

"หนูมีความสามารถด้านนี้มากเลยนะ เหมยจู ถ้าหนูได้เรียนด้านบัญชี คงเก่งมากแน่ ๆ"

เหมยจูยิ้มรับคำชม เธอใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับการตรวจสอบบัญชี เวลาผ่านไปจนใกล้เที่ยง เหมยจูก็ตรวจสอบบัญชีเสร็จไปหนึ่งเดือน เธอจึงนำแฟ้มนั้นไปให้ป้าหลีตรวจ

"ป้าหลีคะ หนูตรวจสอบเสร็จ 1 เดือนแล้วค่ะ"

"เร็วมากเลยนะ เหมยจู หนูเจอจุดผิดพลาดบ้างไหม"

ป้าหลีกล่าวด้วยความประหลาดใจ

"มีค่ะป้าหลี หนูเจออยู่ 2-3 จุด"

เหมยจูชี้ให้ป้าหลีดูในจุดที่เธอใช้ดินสอวงกลมเอาไว้

"จริงด้วย! ป้าพลาดตรงนี้ไปได้ยังไงนะ ขอบใจหนูมากนะเหมยจู ถ้าไม่มีหนูช่วยป้าคงแย่แน่ ๆ สิ้นฤดูกาลเก็บเกี่ยวคงวุ่นน่าดู"

"ไม่เป็นไรค่ะป้าหลี หนูยินดีช่วยค่ะ"

ป้าหลี่มองเหมยจูด้วยความเอ็นดู เธอรู้สึกประทับใจในความเฉลียวฉลาด ความขยันขันแข็ง และความมีน้ำใจของเด็กสาวจึงเอ่ยชมไปยกใหญ่

"เหมยจู หนูทำงานเก่งมาก ละเอียดรอบคอบ ป้าไม่เคยเห็นใครทำงานได้รวดเร็วและไร้ที่ติแบบนี้มาก่อนเลย"

"ป้าหลีชมเกินไปแล้วค่ะ" เหมยจูตอบอย่างเขินอาย

"ป้าพูดจริง หนูเป็นคนเก่ง มีความสามารถ ป้าดีใจมากที่มีหนูมาช่วยงานที่นี่"

"ขอบคุณค่ะ ป้าหลี"

"เหมยจู เที่ยงนี้ไปกินข้าวกับป้าไหม"

ป้าหลีเอ่ยชวน แต่เหมยจูจำต้องปฏิเสธ

"ขอบคุณค่ะป้าหลี แต่หนูนัดกับพ่อแม่ไว้แล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ"

"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ป้าเข้าใจ เป็นเด็กดีกตัญญูรู้คุณพ่อแม่ แบบนี้ดีแล้ว"

"หนูไปนะคะ"

"จ้า ๆ กินข้าวให้อร่อยนะ"

ป้าหลีมองตามหลังเหมยจูไปด้วยความรู้สึกเอ็นดู นางเคยได้ยินหัวหน้าคอมมูนกับหัวหน้าหมู่บ้านพูดคุยเรื่องของเธอมาบ้าง ไม่แปลกเลยที่เธอจะมีรูปร่างหน้าตาที่สะสวย คุณหนูเล็กบ้านสกุลเฉินเชียวนะ คนในปักกิ่งใครจะไม่รู้ว่าครอบครัวนี้ร่ำรวยขนาดไหน

นางเองก็เป็นคนที่นั่น เคยได้ยินชื่อตระกูลนี้อยู่บ่อย ๆ เมื่อครู่จึงได้ลองถามดูเรื่องการศึกษา เพราะอยากจะรู้ว่าเด็กสาวจะตอบยังไง สุดท้ายจึงได้รู้ว่าสาวน้อยคนนี้ไม่ใช่คนโอ้อวด แถมยังไม่รังเกียจพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดที่เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ต่างจากตระกูลใหญ่ที่เลี้ยงดูเธอมา

"จะมีสักกี่คนที่รับได้กับเหตุการณ์กลับตาลปัตรแบบนี้"

อันที่จริงเรื่องของบ้านซ่งโด่งดังในหมู่บ้านมาได้กว่าสัปดาห์แล้ว เพราะการมาของคนในปักกิ่งทำให้ชาวบ้านทุกคนได้รู้เรื่องไปด้วย ไหนจะเยว่ชิงที่บ้านซ่งเลี้ยงดูก็ป่าวประกาศไปทั่วว่าตนเองแท้จริงแล้วเป็นคุณหนูบ้านรวย

แต่ต้องมาทนทุกยากอยู่กับบ้านซ่งมานานปี ทั้งยังพูดจาดูถูกถากถางว่าซ่งอู๋ซางกับซ่งเยียนไม่มีปัญญาเลี้ยงดูเธอให้กินอิ่มนอนอุ่นได้ ทั้งที่สองสามีภรรยาสกุลซ่งแทบไม่ให้เธอออกมาทำงานนอกบ้านเลยด้วยซ้ำ แต่คำพูดที่ทำร้ายจิตใจเหล่านั้นเยว่ชิงก็พูดออกมาได้ โดยไม่ได้นึกถึงความรู้สึกของคนที่เลี้ยงดู

"เหมยจู มานี่เร็ว อาหารพร้อมแล้วลูก"

แม่ซ่งเอ่ยเรียกลูกสาวด้วยน้ำเสียงสดใส คนที่เพิ่งเดินมาถึงรีบไปนั่งข้าง ๆ ผู้เป็นแม่ กับข้าวที่วางอยู่ตรงหน้ามีทั้งผักป่าลวก เนื้อทุบ เห็ดผัดน้ำมัน แล้วก็พริกเต้าซี่ ยังมีน้ำแกงไก่และไก่ผัดพริกที่บ้านเถียนนำมาสมทบ

"หืม... วันนี้มีไก่ด้วยเหรอคะ" เหมยจูถามด้วยความประหลาดใจ

"ใช่จ้ะ เฟยเทียนไปล่ามาเมื่อคืนนี้เอง ลองชิมดูสิ ฝีมือป้าอร่อยนะ"

ป้าเถียนรีบตอบ ลึก ๆ แล้วนางแอบหวังว่าลูกชายคนโตจะสามารถมัดใจสาวน้อยมากความสามารถคนนี้ได้ แต่พ่อตัวดีก็ดูจะไม่ทันใจคนเป็นแม่เอาเสียเลย

"พี่เฟยเทียนเก่งจังเลยนะคะ ล่าไก่ได้ด้วย"

เหมยจูหันไปชมเถียนเฟยเทียน ดวงตากลมโตเป็นประกายของเธอทำให้คนถูกชมถึงกับวางตัวไม่ถูก เฟยเทียนรู้สึกหัวใจเต้นแรง ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย

"เปล่าหรอก บังเอิญเจอมันพอดีน่ะ ลองชิมดูนะ"

เขาตอบอย่างเขินอาย พลางตักไก่ผัดพริกใส่ถ้วยข้าวให้เหมยจู ขณะที่เหมยจูกำลังยื่นถ้วยข้าวไปรับอาหารที่เฟยเทียนตักให้ เธอก็เหลือบไปเห็นรอยเลือดซึมออกมาจากแขนเสื้อของเขา

"พี่เฟยเทียนมีแผลเหรอคะ แขนพี่ไปโดนอะไรมา?"

เหมยจูถามด้วยความตกใจ ถ้วยข้าวในมือของเธอถูกวางลงไปโดยปริยาย

"อ้อ คงเป็นแผลตอนไปล่าไก่มั้ง ไม่เป็นไรหรอก แค่ถลอกนิดหน่อย"

เขาพยายามทำเป็นเก็บอาการ แต่จริง ๆ แล้ว แผลนั้นค่อนข้างลึกและยังรู้สึกเจ็บอยู่ ครั้นจะลางานไปหาหมอก็กลัวจะเสียเวลาเปล่า ยังไงซะก็ยังพอทนไหว

"ไม่ได้นะคะ ต้องทำแผลก่อน เดี๋ยวแผลจะติดเชื้อ"

เหมยจูหยิบห่อยาในถุงผ้าออกมา เธอลืมตัวรีบเปิดแขนเสื้อของเฟยเทียน แล้วทำแผลให้เขาอย่างระมัดระวัง พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายเห็นดังนั้นก็ตกใจจนต้องรีบเรียกลูกสาวเอาไว้

"เหมยจู! ชายหญิง ต้องรักษาระยะห่าง อย่าใกล้ชิดกันเกินไป"

แม่ซ่งรีบร้องปรามจนเหมยจูสะดุ้ง เธอกำลังจะชักมือกลับแต่เถียนเฟยเทียนคว้ามือเธอไว้

"ไม่เป็นไรหรอกครับ พ่อแม่ น้าซ่งเยียน แค่ทำแผลเอง"

เหมยจูสบตากับเถียนเฟยเทียน เห็นแววตาจริงใจและรอยยิ้มอบอุ่นทำให้หัวใจของเธอก็เต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เธอจึงยิ้มตอบ แล้วทำแผลให้เขาต่อจนเสร็จ

"กินข้าวเสร็จแล้วต้องกินยาฆ่าเชื้อกับยาแก้ปวดด้วยนะคะ"

เหมยจูยื่นยาฆ่าเชื้อกับยาแก้ปวดให้เฟยเทียนอย่างละ 1 เม็ด ครั้งจะให้ยกแผงเธอก็กลัวว่าเขาจะอ่านเห็นวันเดือนปีที่ผลิต

"เข้าใจแล้วครับ ขอบใจนะเสี่ยวจู"

พ่อแม่ของทั้งสองฝ่ายเห็นสีหน้ายิ้มแย้มมีความสุขของเถียนเฟยเทียน ก็ได้แต่เงียบ ไม่พูดอะไรต่อ

แต่เสี่ยวหมี่หญิงสาวในหมู่บ้านที่แอบชอบเฟยเทียนที่แอบมองอยู่ไกล ๆ เห็นเหมยจูทำแผลให้เถียนเฟยเทียนก็โกรธมาก เธอแอบชอบเถียนเฟยเทียนมานานแล้ว แต่อีกฝ่ายก็ไม่สนใจเธอสักที

"นังเหมยจู นังคุณหนูตกอับ หล่อนกล้าดียังไงมาแย่งพี่เฟยเทียนของฉัน"

เสี่ยวหมี่กัดฟันจนเสียงดังกรอด แววตาของเธอมีไฟริษยาลุกโชนจนแทบจะเผาไหม้ต้นไม้ใบหญ้าที่อยู่ตรงหน้า เจียวซิ่นเห็นแบบนั้นก็รีบยุยงให้สหายโกรธแค้นเหมยจูเข้าไปอีก เพราะเธอเองก็เห็นหวงคุนเริ่มมองเหมยจูบ่อย ๆ เธอจึงคิดหาวิธีกำจัดเหมยจูเสียตั้งแต่ตอนนี้

"นั่นสิ นังนั่นมันร้ายกาจ หว่านเสน่ห์ไปทั่ว ทั้งที่รู้ว่าพี่เฟยเทียนกับเธอชอบกันอยู่"

"ฉันไม่ยอมแพ้หรอก ต้องสั่งสอนนังนั่นให้หลาบจำ"

ทางด้านเถียนเฟยเทียน หลังจากที่เหมยจูทำแผลให้เสร็จ เขาก็กินข้าวอย่างเอร็ดอร่อย แถมยังคอยตักอาหารใส่ถ้วยข้าวให้เหมยจูอยู่บ่อย ๆ สายตาของเขาจ้องมองเหมยจูอยู่ตลอดเวลา โดยไม่รู้ตัวเลยว่าตอนนี้ทุกคนกำลังเพ่งเล็งมาที่ตัวเขาเป็นตาเดียว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel