เฉินเยว่ชิง
หลังจากเหมยจูจากไป บ้านสกุลเฉินก็ไม่เหมือนเดิม เฉินเยว่ชิง ลูกสาวแท้ ๆ ที่กลับมา เธอได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคุณนายเฉินจินเหลียน ผู้เป็นแม่พาเยว่ชิงไปซื้อเสื้อผ้าเครื่องประดับ และข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ มากมาย ราวกับจะชดเชยความรักที่ขาดหายไป
"เยว่ชิง ลูกอยากได้อะไรบอกแม่ได้เลยนะ แม่จะซื้อให้ลูกทุกอย่าง"
คุณนายเฉินกล่าวด้วยความรักใคร่ เยว่ชิงส่งยิ้มหวานให้มารดา แต่รอยยิ้มนั้นกลับแฝงไปด้วยความหมายที่ยากจะหยั่งถึง
"ขอบคุณค่ะแม่"
คุณนายเฉินยังนำเครื่องประดับทองคำ หยก และเพชรพลอยที่เคยยึดคืนจากเหมยจู มามอบให้เยว่ชิงทั้งหมด
"นี่เป็นของของลูก เยว่ชิงเก็บรักษาไว้ให้ดีนะ"
"ขอบคุณค่ะแม่ หนูชอบทุกอย่างเลยค่ะ รักแม่ที่สุด"
เยว่ชิงรับเครื่องประดับมาด้วยความดีใจ แต่แล้วความสุขในบ้านก็อยู่ได้ไม่นาน เมื่อเครื่องประดับของคุณนายเฉินหายไปหลายชิ้น!
"เกิดอะไรขึ้น! สร้อยข้อมือหยกของฉันหายไปไหน!"
คุณนายเฉินร้องเสียงหลง ทุกคนในบ้านต่างตกใจ แล้วรีบช่วยกันค้นหาแต่ก็ไม่พบ
"หรือว่า... ยัยเหมยจูมันจะขโมยไป" คุณนายเฉินกล่าวด้วยความโกรธ
"ใช่ค่ะแม่ ต้องเป็นยัยนั่นแน่ ๆ หมู่บ้านซูเจิงยากจน ยัยนั่นคงอยากได้เงิน เลยขโมยของมีค่าไปขาย"
"แม่จะไปแจ้งเจ้าหน้าที่ จับตัวมันมาลงโทษ"
คุณนายเฉินลุกขึ้นพร้อมกับโทสะ เฉินซีห่าวเข้ามาได้ยินพอดีจึงรีบห้ามไว้
"ใจเย็น ๆ ก่อนครับแม่ ผมไม่เชื่อว่าเหมยจูจะเป็นคนแบบนั้น"
"ใช่ครับแม่ เหมยจูไม่ใช่คนขี้ขโมย" เฉินซีซวนลูกชายคนรองกล่าวเสริม
"ผมก็คิดแบบนั้น เหมยจูไปจากที่นี่แล้ว คุณก็อย่าตามไปรักแกเด็กเลย"
นายท่านเฉินรีบปรามภรรยาเอาไว้ แม้ในใจจะสงสัยเยว่ชิง แต่ทั้งสามพ่อลูกก็ไม่กล้าพูดออกมา เพราะกลัวจะกระทบกระเทือนจิตใจของเยว่ชิงและคุณนายเฉิน
เวลาผ่านไปไม่กี่วัน เหตุการณ์แปลก ๆ ก็ยังคงเกิดขึ้น ไม่เพียงแต่เครื่องประดับของคุณนายเฉินเท่านั้นที่หายไป แม้แต่เงินเก็บในห้องทำงานของนายท่านเฉิน และเงินเก็บของเฉินซีซวนกับเฉินซีห่าว ก็ยังหายไปทีละเล็กละน้อย
"นี่มันเรื่องอะไรกัน เงินของฉันหายไปตั้งเยอะ" นายท่านเฉินกล่าวอย่างเคร่งเครียด
"ของผมก็หายครับ พ่อ" เฉินซีซวนกล่าว
"ของผมด้วย" เฉินซีห่าวเสริม
"หรือว่า... จะมีขโมยขึ้นบ้าน"
นายท่านเฉินเริ่มตั้งข้อสงสัย
"แต่บ้านเราก็มีคนเฝ้า แล้วขโมยจะเข้ามาได้ยังไงครับคุณพ่อ"
"พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่เรื่องนี้ เราต้องรีบจัดการ"
"ผมว่าเราควรจะค้นห้องทุกคน เผื่อจะเจอของที่หายไป" เฉินซีซวนเสนอ
"พ่อเห็นด้วย"
นายท่านเฉินกล่าว ทุกคนในบ้านต่างถูกค้นห้อง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ เหลือเพียงห้องของเยว่ชิงเท่านั้น
"เยว่ชิง พี่ขอค้นห้องหน่อยนะ" เฉินซีซวนกล่าว
"ไม่นะคะพี่รอง ทำไมทุกคนต้องสงสัยเยว่ชิงด้วย เยว่ชิงไม่ได้ทำอะไรผิด ฮือ ๆ ๆ"
เฉินเยว่ชิงเริ่มร้องไห้เสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อเรียกร้องความสนใจจากคนเป็นแม่
"เยว่ชิงลูกอย่าร้องไห้ แม่ไม่ให้ใครมารังแกลูกหรอก โอ๋ ๆ เงียบนะลูกแม่"
"แม่คะ ทุกคนไม่รักเยว่ชิง มองเยว่ชิงเป็นคนอื่น ฮือ ๆ ๆ"
คุณนายเฉินเข้ามาปลอบ เฉินเยว่ชิงเห็นแบบนั้นยิ่งเอาใหญ่ เธอใช้มารดาเป็นเครื่องมือเพื่อให้ตัวเองผ่านเรื่องนี้ไปได้ แต่มีหรือที่คนผ่านร้อนผ่านหนาวมาก่อนจะดูไม่ออก นายท่านเฉินเริ่มเอือมระอากับพฤติกรรมของลูกสาวคนเล็กมากขึ้นทุกวัน
"ไม่นะลูก แม่รักลูก หนูเป็นลูกสาวของแม่" คุณนายเฉินกอดเยว่ชิงเอาไว้พร้อมกับมองลูกชายทั้งสองและสามีด้วยสายตาเชิงตำหนิ
"งั้น...แม่ก็อย่าให้ใครค้นห้องเยว่ชิงนะคะ"
"ได้จ้ะ แม่ไม่ให้ใครเข้าไปในห้องลูกหรอก"
นายท่านเฉิน เฉินซีซวน และเฉินซีห่าว ได้แต่มองหน้ากัน พวกเขารู้สึกเหนื่อยใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายการค้นหาของที่หายไปก็ต้องยุติลง โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า ใครเป็นคนขโมย และของที่หายไปอยู่ที่ไหนกันแน่
แต่ความสงสัยก็ยังคงวนเวียนอยู่ในใจของทุกคน โดยเฉพาะคนงานในบ้านที่เริ่มสังเกตเห็นพฤติกรรมแปลก ๆ ของเยว่ชิง ค่ำวันนั้นคนงานในบ้านจึงจับกลุ่มคุยกันอยู่ท้ายตึกใหญ่
"นี่เธอ เห็นเมื่อเช้าไหม คุณหนูเยว่ชิงแอบเข้าไปในห้องคุณชายใหญ่ แล้วออกมาพร้อมกับกล่องอะไรสักอย่าง" สาวใช้คนหนึ่งพูดขึ้น
"ฉันก็เห็น แถมเมื่อวานฉันยังเห็นนางเข้าไปในห้องทำงานของคุณท่าน แล้วออกมาพร้อมกับถุงผ้าใบเล็ก ๆ อีกด้วย" สาวใช้อีกคนพูดเสริม
"ฉันว่าของที่หายไป ต้องเป็นฝีมือคุณหนูเยว่ชิงแน่ ๆ"
คนสวนพูดขึ้นบ้าง แต่ถึงยังไงก็ไม่มีใครกล้านำเรื่องเหล่านี้ไปบอกผู้เป็นเจ้านายอยู่ดี ระหว่างลูกสาวกับคนงาน ทุกคนย่อมรู้คำตอบดีว่าคุณนายจะเชื่อใคร
"แต่ว่า... ถ้าเราไปบอกคุณท่าน ใครจะเชื่อเราล่ะ คุณนายน่ะ รักและตามใจคุณหนูเยว่ชิงจะตาย" แม่ครัวคนเก่าคนแก่พูดขึ้นบ้าง
"นั่นสิ ไหนจะนิสัยแย่ ๆ ของคุณหนูอีก ชอบจิกหัวใช้คนอื่น พูดจาหยาบคายเหมือนเราเป็นทาสไม่ใช่คน"
"ใช่ ๆ ฉันก็โดนนางด่า แค่ฉันทำน้ำหกนิดเดียว นางก็ด่าฉันเสีย ๆ หาย ๆ แถมยังขู่จะให้คุณนายไล่ฉันออกอีก"
คนงานสาวพูดอย่างน้อยใจต่ำใจ ต่อให้รวยแค่ไหนก็เป็นคนเดินดินเหมือนกัน
"แล้วพวกเธอเคยเห็นห้องนอนของคุณหนูรึยัง รกมาก ของกินก็วางเกลื่อนกลาด เสื้อผ้าก็กองสุมกัน ไหนจะ...ซากโกเต๊กก็วางทิ้งไว้ในห้องน้ำ ไม่ยอมทิ้งลงถังขยะ"
คนงานพูดออกมาอย่างเหนื่อยใจ ทั้งที่จะเข้าไปทำความสะอาดห้องทุกวัน แต่ถูกสั่งห้าม 3 วันถึงอนุญาตให้เข้าไปทำความสะอาดครั้งหนึ่ง แต่สภาพห้องก็เหลือระอา
"โอ๊ย... ฉันล่ะ คิดถึงคุณหนูเหมยจูจริง ๆ ถึงคุณหนูเหมยจูจะไม่ใช่ลูกแท้ ๆ แต่ก็นิสัยดี ไม่เคยจิกหัวใช้ใคร พูดจาไพเราะ ไม่เหมือนคุณหนูเยว่ชิงคนนี้ นิสัยแย่มาก"
"นั่นสิ ฉันก็รู้สึกผิด ที่เคยทำไม่ดีกับคุณหนูเหมยจู" สาวใช้คนหนึ่งพูด
"ฉันก็เหมือนกัน" คนอื่น ๆ พูดพร้อมกัน
ขณะที่คนงานกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น นายท่านเฉิน เฉินซีซวน และเฉินซีห่าว ก็เดินผ่านมาได้ยินเข้าพอดี ทั้งสามคนยืนแอบฟังอยู่เงียบ ๆ ก่อนจะเดินจากไป
"นี่มันเรื่องอะไรกัน" นายท่านเฉินขมวดคิ้ว
"ดูเหมือนว่า เยว่ชิง จะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายอย่างเลยนะครับพ่อ"
"พ่อก็พอจะรู้มาบ้าง แต่ไม่คิดว่าเยว่ชิงจะทำตัวแย่ขนาดนี้" นายท่านเฉินถอนหายใจออกมาเบา ๆ
"แล้วเราจะทำยังไงดีครับพ่อ" เฉินซีซวนถามผู้เป็นบิดา
"พ่อก็ไม่รู้เหมือนกัน ถ้าเราไปตำหนิเยว่ชิงก็กลัวว่าแม่ของลูกจะไม่พอใจ"
"แต่ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ คนงานในบ้านก็คงจะเอือมระอาเยว่ชิง มากขึ้นเรื่อย ๆ มันไม่เป็นผลดีกับน้องเลยนะครับพ่อ"
เฉินซีห่าวพูดตามที่ตัวเองคิด เรื่องนี้ถ้าไม่รีบหาวิธีจัดการ ในวันข้างหน้าต้องเป็นปัญหาใหญ่แน่นอน
"งั้นพ่อจะลองพูดกับแม่ของพวกแก"
สามพ่อลูกมองหน้ากันด้วยความหนักใจ บ้านที่เคยสงบสุข กลับต้องมาวุ่นวายเพราะคุณหนูคนใหม่ พวกเขาไม่รู้ว่าจะจัดการปัญหานี้อย่างไรดี
กลางดึกคืนนั้น หลังจากทุกคนในบ้านเข้านอนกันหมดแล้ว นายท่านเฉินจึงถือโอกาสพูดคุยกับคุณนายเฉินจินเหลียน ภรรยาของเขา ถึงเรื่องที่ได้ยินคนงานในบ้านนินทาเยว่ชิง
"จินเหลียน พี่มีเรื่องอยากจะคุยด้วย" นายท่านเฉินเอ่ยขึ้น
"เรื่องอะไรคะ?"
"วันนี้พี่ได้ยินคนงานในบ้านพูดถึงเยว่ชิง"
"พวกเขาพูดอะไรกันเหรอคะ" คุณนายเฉินขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
"พวกเขาบอกว่าเยว่ชิงชอบแอบเข้าไปในห้องคนอื่น แล้วก็ออกมาพร้อมกับสิ่งของในมือ แถมยังมีนิสัยชอบจิกหัวใช้คนงาน พูดจาหยาบคาย อีกทั้งยัง..."
นายท่านเฉินไม่กล้าเล่าเรื่องสกปรก ในห้องนอนของเยว่ชิงให้ภรรยาฟัง
"คุณคะ อย่าไปเชื่อพวกคนรับใช้เลย พวกนั้นมันชอบนินทาเจ้านาย"
"แต่พี่ได้ยินกับหูตัวเองนะจินเหลียน" นายท่านเฉินยังคงยืนยันคำเดิม
"คุณอย่าบอกนะว่าคุณสงสัยเยว่ชิง" คุณนายเฉินถามเสียงแข็ง
"พี่แค่เป็นห่วง กลัวว่าเยว่ชิงจะหลงผิด" นายท่านเฉินพูดอย่างใจเย็น
"นี่คุณไม่รักลูกแท้ ๆ ของตัวเองเลยเหรอ ยังจะไปเชื่อคนอื่นอีก"
คุณนายเฉินเริ่มโกรธเมื่อได้ยินสิ่งที่สามีพูด
"จินเหลียน พี่รักเยว่ชิง แต่พี่ก็อยากให้ลูกเป็นคนดี ถ้าเราตามใจลูกมากเกินไป ไม่ตักเตือนเมื่อลูกทำผิด สุดท้ายลูกก็จะกลายเป็นคนที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่เคารพใคร"
คุณนายเฉินนิ่งเงียบ ครุ่นคิดถึงคำพูดของสามี
"..."
"จินเหลียน พี่ขอร้อง เปิดใจมองสิ่งต่าง ๆ รอบตัวให้มากขึ้น อย่าหลับหูหลับตาเชื่อเยว่ชิงฝ่ายเดียว ไม่อย่างนั้นเราจะกลายเป็นคนที่ทำให้ลูกหลงผิดเสียเอง"
"ละ..แล้วคุณจะให้ฉันทำยังไง"
คุณนายเฉินเอ่ยถามสามีด้วยน้ำเสียงที่อ่อนลงจากเดิม
"พรุ่งนี้พี่จะให้ซีซวนกับซีห่าวพาเยว่ชิงออกไปซื้อของ แล้วเราจะเข้าไปดูในห้องเยว่ชิงพร้อมกัน"
"ก็ได้ค่ะ" คุณนายเฉินตอบตกลง แม้จะยังไม่ปักใจเชื่อ
เช้าวันต่อมา เฉินซีซวนกับเฉินซีห่าวพาเยว่ชิงออกไปซื้อของตามที่นายท่านเฉินวางแผนไว้ นายท่านเฉินจึงพาคุณนายเฉินมาที่ห้องนอนของเยว่ชิง
คุณนายเฉินยืนอยู่หน้าห้อง มือของนางสั่นเทา นางเริ่มกลัวที่จะต้องเผชิญหน้ากับความจริง
"จินเหลียน เปิดประตูเถอะ"
นายท่านเฉินพูดขึ้นหลังจากที่ยืนอยู่หน้าห้องของเยว่ชิงมาสักพักแล้ว คุณนายเฉินสูดหายใจลึก แล้วค่อย ๆ เปิดประตูห้องออก
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าทำให้นางแทบช็อก ห้องนอนของเยว่ชิงทั้งรกและสกปรกไม่ต่างจากที่คนงานพูดกัน
"นี่... นี่มันห้องนอนหรือห้องเก็บขยะ พ่อบ้านจาง ช่วยค้นห้องนี้หน่อย"
คุณนายเฉินพูดไม่ออก นายท่านเฉินจึงเรียกพ่อบ้านจางเข้าไปค้นภายในห้อง พ่อบ้านจางค้นตู้เสื้อผ้า ลิ้นชัก และทุกซอกทุกมุมในห้อง แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใด ๆ
"ก็ไม่มีอะไรนี่คะคุณ"
คุณนายเฉินพูด สีหน้าของนางเริ่มดีขึ้น แต่แล้ว พ่อบ้านจางก็หยิบกระเป๋าใบหนึ่งที่ซ่อนอยู่ใต้เตียงออกมา
"คุณท่าน เจอกระเป๋าใบนี้ครับ"
นายท่านเฉินรับกระเป๋ามาเปิดดู ข้างในเต็มไปด้วยเครื่องประดับและเงิน รวมถึงของที่คุณนายเฉินกล่าวหาว่าเหมยจูขโมยไปด้วย
"นี่มัน..."
คุณนายเฉินหน้าซีดเผือด นางทรุดลงกับพื้นทั้งน้ำตา ตอนนี้นางไม่มีคำพูดใดจะออกจากปาก เมื่อลูกสาวคนดีของนางสร้างเรื่องใหญ่
"เยว่ชิง...ทำไมถึงทำแบบนี้" นายท่านเฉินพูดอย่างเสียใจ
"ฮือ ๆ ๆ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่น่า...ไม่น่าสงสัยเหมยจูเลย"
คุณนายเฉินร้องไห้โฮด้วยความรู้สึกผิด
"จินเหลียน ทำไมถึงโกรธเกลียดเหมยจูนัก เธอทำผิดอะไร"
นายท่านเฉินได้โอกาสจึงเอ่ยถามภรรยา เดิมทีนางก็รักและถนอมเหมยจูยิ่งกว่าไข่ในหิน
"ฉัน... ฉัน..." คุณนายเฉินพูดไม่ออก
"เหมยจูก็เป็นเหยื่อในเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ทำไมเธอถึงระบายความแค้นทั้งหมดไปที่เหมยจู ตลอด 18 ปีที่เลี้ยงดูเหมยจูมา ไม่มีค่าอะไรเลยเหรอ ไม่รู้จักนิสัยใจคอของเหมยจูเลยเหรอ"
คุณนายเฉินได้แต่ร้องไห้ นางรู้สึกผิด เสียใจ และละอายใจ
"เธอเคยรู้ไหมว่าเหมยจูต้องเสียใจมากแค่ไหน ในวันที่ถูกตัดขาดอย่างไร้เยื่อใย ไม่แน่ว่าตอนนี้ที่เธอเจ็บอยู่ก็ไม่อาจเทียบเท่าที่เหมยจูเจ็บได้"
คุณนายเฉินร้องไห้หนักกว่าเดิม นางไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามองสามี นายท่านเฉินมองภรรยาด้วยความสงสาร เขานึกถึงวันที่เหมยจูร้องไห้แทบขาดใจ แต่ความหัวดื้อของภรรยา ทำให้เขาทำได้เพียงรอเวลาพิสูจน์ความจริงเท่านั้น
"พ่อบ้านจาง เอาของพวกนี้ไปคืนเจ้าใหญ่กับเจ้ารองด้วยนะ แล้วก็เรียกคนมาทำความสะอาดห้องนี้ด้วย"
"ครับ คุณท่าน"
"ลุกขึ้นเถอะ ผิดก็แค่แก้ไข ยังมีอีกหลายเรื่องที่เราต้องทำ"
นายท่านเฉินเดินเข้าไปประคองภรรยา คุณนายเฉินเงยหน้ามองสามีทั้งน้ำตาไหลอาบแก้ม ในสมองของนางได้แต่คิดว่าจะทำยังไงถึงจะไถ่โทษกับความผิดครั้งนี้ได้
