บทที่ 5 ความหวังดี(1)
หลังจากแยกจากคุณปู่ อลิซเข้าบ้านเล็กของตัวเองไปเปลี่ยนชุดเป็นเสื้อแขนกุดสีเทาคอกดว้าง และสวมกางเกงยีนส์เพื่อความคล่องตัว เธอส่องกระจกดูภาพรวมตัวเองก่อนจะหยิบโช๊กเกอร์สีดำมาใส่ที่คอ เพราะรู้สึกว่ามันโล่งเกินไป เธอเดินไปหยิบถุงเครื่องสำอางที่เพิ่งไปซื้อมาใหม่ออกมาแกะกล่องก่อนจะแต่งแต้มที่ใบหน้าให้พอดูมีสี แต่ก็ไม่ให้หนาเกินไป
เธอไม่ยอมเป็นยัยหน้าจืดเหมือนเบลคนเดิมหรอก
เมื่อแต่งหน้าจนพอใจ ขั้นตอนสุดท้ายที่จะออกจากห้องเธอจัดการใส่คอนแทคเลนส์ แทนแว่นตาอย่างที่เบลเคยใส่ เธอคิดว่ามันสะดวกกว่า
อลิซออกมาใส่รองเท้าเตรียมออกจากบ้าน แต่ก็ไม่ลืมเก็บของที่จำเป็นใส่กระเป๋าสะพายหนังสีดำสนิทหยิบติดมือมาด้วย
“ป้านวลฝากดูแลบ้านด้วยนะคะ เดี๋ยวดึกๆเบลกลับมาค่ะ”
ไม่รอให้ป้าแม่บ้านตอบกลับ อลิซพยักหน้าให้พี่ปอ พี่กันเตรียมตัวขึ้นรถที่ให้คนขับรถเตรียมไว้ เพื่อมุ่งหน้าไปโรงพยาบาลที่คุณพ่อหญิงสาวรักษาตัวอยู่ นี่กลายเป็นกิจวัตรประจำวันของเธอที่ทุกๆเย็นเธอจะไปเฝ้าคุณพ่อที่โรงพยาบาลถึงดึกแล้วค่อยกลับมานอนที่บ้าน
รถตู้คันเก่าของตระกูลแล่นไปบนท้องถนนที่กำลังเงียบเชียบลงเรื่อยๆ และไม่ถึงครึ่งชั่วโมง อลิซก็มาถึงโรงพยาบาล เธอกับพี่ปอ พี่เอกลงก่อนที่หน้าโรงพยาบาล เพราะอลิซอยากเดินซื้อของกินไปฝากพยาบาลพิเศษที่เฝ้าคุณพ่อ เพื่อตอบแทนน้ำใจที่ดูแลคุณพ่อแทนเธอ อลิซเดินนำบอดีการ์ดทั้งสองเลี้ยวเข้าซอยเล็กข้างโรงพยาบาลเพื่อไปยังตลาดข้างๆอย่างชำนาญ
อั๊ก อั๊ก
อลิซได้ยินเสียงแปลกที่เบื้องหลังจึงรีบหันไปดู พบว่าบอร์ดีการ์ดทั้งสองของเธอโดนจัดการโดยชายร่างใหญ่ที่โผล่มาจากไหนไม่รู้ 2 คน ก่อนจะตั้งสติได้เตรียมหันหลังวิ่งหนีแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว เบื้องหลังเธอมีชายอีกคนโปะผ้าใส่ยาสลบมาที่จมูกเธอ อลิซดิ้นอยู่ได้ไม่นาน ภาพตรงหน้าก็ดับวูบลง
กลิ่นเหมือนยาดม
อลิซทำจมูกฟุดฟิดเมื่อมีกลิ่นบางอย่างปลุกเธอ ขนตาเป็นแพหน้าขยับตามเปลือกตาที่กำลังเปิดขึ้น ภาพแรกที่เห็นคือเพดานสีขาว ถัดไปเป็นใบหน้าเกือบเหี่ยวของหญิงแปลกหน้าที่กำลังถือยาดมจ่อมาที่จมูกเธอ อลิซกระพริบตาไล่ความมึนงงก่อนจะจำเหตุการณ์สุดท้ายที่ตัวเองยังมีสติได้ ร่างบางเด้งตัวลุกขึ้นจากโซฟาทันที แต่แล้วเพราะฤทธิ์ยาสลบที่ยังเหลืออยู่จึงทำให้อลิซหน้ามืดเสียการทรงตัว ร่างบางทำท่าซวนเซ ชายหนุ่มที่ยืนมองมาตั้งแต่ต้นจึงอ้าแขนขวาอันแข็งแกร่งรับไว้ไม่ให้ล้มลงไปที่พื้น
สองสายตาประสานกันโดยไม่ได้นัดหมาย อลิซมองไปยังดวงตาดำสนิทตรงหน้าที่เธอมักเห็นมันนิ่งสนิทเหมือนไร้ชีวิต แต่บัดนี้เธอกกลับเห็นมันกำลังไหวติง ก่อนจะกลับไปนิ่งสนิทเหมือนเช่นเคย
“นี่เธอจะนอนอยู่ในท่านี้อีกนานไหม” อลิซเหลือบตามองรอบข้างก่อนจะรู้ตัวว่าเธอกำลังนอนอยู่ในอ้อมแขนของออกัส เธอจึงรีบเด้งตัวขึ้นทันที
“คะ...คุณ ขอบคุณนะ” อลิซจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะชะงักมือเมื่อนึกอะไรออก “อย่าบอกนะว่าคุณส่งคนไปทำร้ายคนของฉัน แล้วจับฉันมา”
“ใช่” ออกัสพูดอย่างไม่แคร์ต่อท่าทีโกรธเป็นฟืนเป็นไฟของอลิซ ชายหนุ่มล้วงกระเป๋ากางเกงเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานของเชา
“คุณนี่มันเรื่องใหญ่มากเลยนะ ทำไมคุณทำอย่างนี้”
“ใจเย็นๆก่อนครับคุณอลิซ เจ้านายผมมีเหตุผล ใช่ไหมครับเจ้านาย” คริสผู้ชายคนสนิทเดินเข้ามาพูดกับอลิซเมื่อเห็นว่าเรื่องเล็กกำลังกลายเป็นเรื่องใหญ่ พลางหันมาส่งสายตาพยักเพยิบให้เจ้านายตนเองอธิบายต่อ
“ฉันแค่อยากทดสอบฝีมือบอร์ดีการ์ดเธอก็เท่านั้นเอง ไม่ได้เอาถึงตายสักหน่อย” เมื่อฟังประโยคถัดมาของเจ้านาย คริสอยากจะหยิบแจกันบนโต๊ะมาตีหัวตัวเอง
“ห๊า...นะ...” อลิซยิ่งฟังยิ่งเหมือนถูกจุดไฟโกรธในกายเธอ
