บทที่ 3 เบลคนเดิมไม่มีอีกแล้ว(2)
“อยู่นี่เลยค่ะคุณหนูๆ” เสียงเจื้อยแจ้วดังนำเจ้าของมา ทำให้เบลเลือกที่จะวางไอแพดในมืออีกรอบ เพราะอยากเห็นพี่น้องต่างบิดาทั้งสอง
“ไหนนังเบล เดี๋ยวนี้แกกล้าเล่นลิ้น ขัดคำสั่งพวกฉันเหรอ” เสียงเล็กดังออกมาจาก ดาริน ลูกสาวคนเดียวของแม่รองที่หน้าตาผนวกกับเรือนผมยาวสีบรอนทองทำให้น่ารักไม่แพ้ใคร แต่นิสัยช่างเอาแต่ใจไม่เหมือนหน้าตาเสียเลย
“อย่านึกว่าคุณปู่ออกหน้าแทนแล้วจะรอดนะ” น้ำเสียงหยิ่งไม่มีใครเป็นรองดังจากปากบางสวยเป็นกระจับ ดวงตาสีเทาเหมือนผู้เป็นแม่ ใบหน้ารูปไข่ที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ส่งเสริมให้ จีนา ลูกสาวคนโตของแม่ใหญ่ สวยหรูไม่แพ้ใครเช่นกัน
อลิซมองพี่น้องต่างบิดาทั้งสองอย่างไม่เข้าใจ
เบลมีอะไรดีไปกว่าสองคนนี้เหรอ ทำไมถึงได้อิจฉาจนต้องมากลั่นแกล้งกันทุกวัน
“เหนื่อยไหมคะ” อลิซจ้องหน้าจีนากับดารินไม่ทีท่าว่าเกรงกลัวเหมือนแต่ก่อน “มาแกล้งเบลบ่อยๆ ไม่เหนื่อยเหรอคะ”
“แกพูดอะไรเพ้อเจ้อ อย่ามาเปลี่ยนเรื่อง ฉันนี่แหละเป็นคนสั่งให้แกซักเสื้อผ้าให้ฉัน ซักเดี๋ยวนี้ฉันต้องได้ก่อนเที่ยง” ดารินยิ้มเยาะ เธอมองเบลอย่างสมเพสความจริงเธอเองก็เป็นลูกเมียน้อยเหมือนกัน แต่เพียงแค่เธอรู้จักปรับตัวไง ประจบประแจงพี่ใหญ่คือพรสวรรค์ของเธอ
“คนใช้ก็มีทำไมต้องให้เบลซักด้วยคะ เบลก็เป็นได้แค่คนใช้สมัครเล่น สะอาดสู้พี่คนใช้ที่แท้จริงไม่ได้หรอก” เมื่ออลิซบรรลุเป้าหมายในการอยากเห็นหน้าทั้งสองสาวแล้วเธอจึงพูดตัดบทแบบประนีประนอม แต่ประโยคหลังก็ไม่วายหันไปแขวะอีก2สาวใช้ ทำเอาคนถูกด่าทางอ้อมสะดุ้งไปตามๆกัน
“ฉันบอกให้แกซักให้ฉันเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นแกโดนตบแน่” จีนาก้าวเข้ามาหาอลิซพร้อมกับอีก3มือของสามสาวที่เหลือ
อลิซหันไปมองลูกกระจ๊อกทั้งสามของพี่สาวอย่างขำขัน จนเผลอหลุดขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
“นึกว่าฉันไม่กล้าเหรอ เผี๊ยะ” ดารินตบเข้าที่หน้าของอลิซจนหน้าหัน มีเหรอคนอย่างอลิซจะยอมให้กระทำอยู่ฝ่ายเดียว เธอสวนด้วยกำปั้นของเธอเข้าที่เป้าตาของดารินจนเจ้าตัวร้องโวยวาย
“ตบมาต่อยกลับ ไม่โกง” อลิซไม่ใช่คนที่ชอบใช้กำลัง ถึงแม้เธอจะเคยเรียนศิลปะป้องกันตัวมาก่อน แต่เธอก็ไม่ได้ต่อสู้เก่งอะไร สี่ต่อหนึ่งเธอยังมีเปอร์เซนต์แพ้อยู่ เธออาจชนะแต่ที่แน่ๆเธออาจต้องเจ็บตัว ซึ่งเธอไม่อยากเจ็บตัวเพราะเรื่องไร้สาระอย่างนี้ เธอไม่ได้มองว่าพี่น้องทั้งสองเป็นศัตรู ยังไงก็คือคนในครอบครัวเดียวกัน
“มัวยืนทำอะไรอยู่ล่ะ ยัยปิ่น ป่าน รุมมันสิ” ดารินจับเบ้าตาที่โดนต่อยของตัวเองพลางกระทืบเท้าขัดใจ
“พี่ปอ พี่กัน เข้ามานี่หน่อย” อลิซตะโกนเรียกบอดีการ์ดหนุ่มทั้งสองคนที่คุณปู่ส่งมาให้เธอ
ร่างหนาในชุดสูทรีบวิ่งเข้ามาหาอลิซเตรียมรับคำสั่ง ซึ่งนั่นก็ทำให้สาวใช้ที่กำลังพุ่งมาจัดการอลิซชะงักฝีเท้า
“พี่ช่วยเอาหิ้วคนใช้สองคนนั้นออกไปนอกบ้าน และก็ฝากเชิญคุณหนูของเรือนใหญ่ทั้งสองออกไปด้วยนะคะ พอดีเบลอยากพักผ่อน”
“รับทราบครับคุณหนู” การ์ดคนนึงลากสาวใช้ทั้งสองออกไปอย่างง่ายดาย ส่วนอีกคนก็หันมาทางคุณหนูอีกสองคนที่ก็เหมือนเป็นเจ้านายของเขาเหมือนกัน แต่เขาได้คำสั่งมาว่าให้ปกป้องความปลอดภัยของคุณหนูเบล ไม่ใช่คุณหนูสองคนนี้ เพราะฉะนั้นตอนนี้คำสั่งสูงสุดคือของคุณหนูเบล “เชิญกลับเรือนใหญ่ครับคุณหนู ผมไม่อยากใช้กำลัง”
“คุณปู่ปกป้องแกไม่ได้ตลอดหรอก” จีน่ายิ้มเหยียดก่อนจะสะบัดผมเดินออกไปอย่างไม่พอใจ
“ฝากไว้ก่อนนะ ฉันจะไปฟ้องแม่ว่าแกต่อยฉัน ฮื่อ” ดารินรีบวิ่งตามพี่สาวออกไป
อลิซถอนหายใจโล่งอก แค่ไม่มีลูกกระจ๊อกสองคนนี้ก็ไม่กล้าทำอะไรเธอแล้ว แต่ดูท่าว่าเธอยังต้องเตรียมรับมือกับแม่รองอีกรอบ เพราะเธอดันลืมยั้งมือต่อยเข้าที่เบ้าตาของดาริน
“ต่อจากนี้อย่าให้คนจากบ้านนู้นเข้ามาที่บ้านเบลนะคะ ถ้าเบลยังไม่ได้อนุญาต” อลิซหันไปสั่งบอดีการ์ดที่เหลืออยู่ข้างตัว ก่อนจะเดินเข้าห้องนอนไปพักผ่อนอย่างที่บอกจริงๆ
กริ๊งงงงง
เสียงโทรศัพท์อลิซดังขึ้นก่อนที่อลิซจะหลับลึก อลิซถอนหายใจก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบมือถือดูที่หน้าจอว่าใครกันที่โทรมาขัดจังหวะงีบของเธอ
ผู้ช่วยคุณปู่ อลิซหยุดคิดสงสัยว่าเขาเธอมีธุระอะไรถึงได้โทรหาเธอ
“สวัสดีค่ะ เบลพูดค่ะ”
“สวัสดีครับคุณเบล คุณอดิศวรเรียนให้คุณเบลมาที่เรือนใหญ่เดี๋ยวนี้เลยครับ ท่านมีเรื่องจะแจ้งให้ทุกคนในตระกูลรฉัตรทราบ”
