บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 เบลคนเดิมไม่มีอีกแล้ว(1)

อลิซเดินตามคุณปู่จนมาถึงหน้าห้องผู้ป่วยที่พ่อเธอพักอยู่ คุณปู่เธอหยุดยืนอยู่หน้าห้องแปบนึงเหมือนสูดลมหายใจเข้าเพื่อทำใจ ไม่ใช่ว่าปู่เธอกลัวลูกสะใภ้ อลิซเพิ่งเข้าใจอีกเหตุผลที่แม่ใหญ่กับแม่รองไม่ให้เธอเยี่ยมพ่อเธอนอกจากเกลียดเธอแล้ว อีกต้นเหตุที่ทำให้พ่อต้องประสบอุบัติเหตุรถชนเพราะหลังจากที่พ่อไล่แม่กับเธอออกจากบ้าน เขาไปผับดื่มเหล้า ทำตัวเหลวแหลก งานการไม่เอาทุกวัน จนถึงวันที่เกิดอุบัติเหตุ

ใช่ พ่อเธอเมาแล้วขับรถเอง

และข่าวที่ร้ายที่สุดที่คุณปู่เล่าให้เธอฟังคือ อาการพ่อแย่มาก สมองบางส่วนได้รับการกระทบกระเทือน ซึ่งทำให้พ่อกลายเป็นเจ้าชายนิทรา ไม่รู้ว่าจะฟื้นเมื่อไหร่

“คุณพ่อ เอามันออกไปนะคะ คุณพ่อก็รู้ว่าที่คุณพี่เป็นอย่างนี้ก็เพราะมันกับแม่ของมัน” เจนจิรา เมียหลวงของผู้ชายที่กำลังนอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่บนเตียงคนไข้ พูดด้วยความโมโหทันทีที่เห็นหน้าเบล

“ก็ไม่เชิงนะเจน มันเป็นอุบัติเหตุ”

“ยังไงพวกเราก็ไม่ยอมค่ะคุณพ่อ คุณพี่ไล่มันออกจากบ้านแล้ว คุณพี่เกลียดมัน” เสียงค้านอีกเสียงดังมาจาก ดาวประดับ แม่รองหรือเมียคนที่2ของพ่อ

เจนจิราและดาวประดับรบเร้าชายชราจนอาการโรคหัวใจของเขากำเริบ วรากร ผู้ช่วยคนสนิทของชายชรารีบเอายามาให้และรีบพาเจ้านายไปนั่งพักที่โซฟาในห้องผู้ป่วย ก่อนจะพยายามเข้าไปช่วยไกล่เกลี่ยแทนเจ้านายที่มักมีอาการกำเริบเมื่อมีเรื่องเครียด

อลิซเข้าไปดูอาการคุณปู่ เธอไม่อยากให้คนที่เธอรักเครียด แต่แม่เธอโดนใส่ร้ายว่ามีชู้ เพราะพ่อรักแม่มาก มากจนคนอื่นอิจฉา เธอเสียใจสุดซึ้งที่รู้ว่าพ่อก็เสียใจที่ทำอย่างงั้นกับเธอและแม่ และที่สำคัญเธอไม่อยากให้ครอบครัวเธอต้องมาทะเลาะกันเพราะเรื่องที่มีต้นเหตุมาจากใครที่ไม่หวังดีใส่ร้ายแม่เธอ

“เบลขอเวลาพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของแม่ 3 เดือน ถ้าหาหลักฐานมาไม่ได้ เบลจะออกไปจากตระกูลรฉัตรตลอดไป แม่ใหญ่กับแม่รองพอใจไหมคะ”

อลิซละจากร่างชายชราหันมาประจันหน้ากับสองสาวที่มองกลับมาด้วยแววตาดูถูก

“อย่างเธอเนี่ยนะ จะพิสูจน์อะไรได้ เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ หึ” แม่ใหญ่จิ้มและผลักนิ้วมาที่หน้าผากอลิซ “แต่ก็เอาเถอะฉันให้เวลาเธอ 3 เดือน เธอจะต้องออกไปจากตระกูลรฉัตร นามสกุลก็ไปเอาออก” แม่ใหญ่พูดอย่างสะใจพลางเดินหายออกนอกห้องไปเมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ เธอมั่นใจว่า เด็กที่อ่อนแอ ไร้ความสามารถที่เธอเห็นมาตั้งแต่เด็กไม่สามารถทำได้อย่างที่พูด ขุดหลุมฝังตัวเองชัดๆ

อลิซไม่สนว่าแม่ใหญ่จะดูถูกเธอยังไงอีก ร่างบางรีบผละไปหาร่างผู้เป็นพ่อ พร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้ เธอกุมมือร่างไร้สติขึ้นมาแนบที่ใบหน้าหญิงสาว

“พ่อไม่ต้องห่วงนะคะ เบลจะพิสูจน์ความจริงให้ได้”

ณ ตระกูลรฉัตร

อลิซมองภาพแม่ในมือด้วยหัวใจที่แหลกสลาย ใช่ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แม่เธอ และผู้ชายที่นอนเป็นผักอยู่ที่โรงพยาบาลไม่ใช่พ่อแท้ของอลิซ ทั้งหมดมันคือของเบล ร่างที่ออนแอที่เธอเหมือนได้โอกาสจากสวรรค์ให้มาเกิดใหม่ อลิซไม่รู้ว่าเพราะอะไรเธอถึงได้มาเกิดในร่างเบล เธอไม่โทษสวรรค์ ไม่ได้มองว่าถูกสวรรค์กลั่นแกล้ง เพราะคนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เราเลือกที่จะเป็นได้ นี่คือคติประจำใจเธอตั้งแต่ยังเป็นอลิซ หญิงสาวที่แข็งแกร่ง อายุเพียง25 ปี แต่เรียนจบปริญญาโท2ใบพร้อมกัน และพรสวรรค์ที่ติดมือมาแต่เกิดคือความสามารถในการยิงปืน ไม่ว่าจะลงสนามไหนก็กวาดรางวัลที่ 1 มาได้อย่างง่ายดาย แต่โชคร้ายที่พรสวรรค์ข้อนี้เหมือนเป็นมีดแหลมย้อนมาแทงตัวเอง เมื่อถิ่นที่เธอเกิดเต็มไปด้วยแก๊งมาเฟีย3แก๊งที่กำลังแก่งแย่งชิงพื้นที่เพื่อครอบครองเป็นของตัวเองกันอยู่ ถึงแม้เธอจะเป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ แต่ฝีมือยิงปืนของเธอก็ไม่อาจถูกมองข้ามได้

ถ้าไม่ได้มาทำงานด้วย ก็ไม่ควรอยู่บนโลกนี้ให้ต้องมาระแวง

อลิซนึกย้อนความจำตัวเองก่อนตายทั้งน้ำตา แล้วครอบครัวเธอเกี่ยวอะไรด้วย ทำไมพวกเขาต้องมาตายไปพร้อมกับเธอ

ก็ไม่แปลกที่เธอรู้สึกเกลียดพวกมาเฟียเข้าไส้

ตอนนี้อลิซกำลังนอนอยู่บนเตียงขนาดกลาง ผ้าปูสีขาวถูกป้านวล ป้าแม่บ้านหนึ่งในไม่กี่คนที่ดูญาติดี ไม่มีพิษมีภัยตั้งแต่เธอย้ายกลับเข้ามาอยู่ที่บ้านตระกูลรฉัตร แต่เธอไม่ได้อยู่ห้องนอนเดิมที่เบลอยู่ตอนก่อนเกิดเรื่องเพราะ แม่ใหญ่ได้ยื่นคำขาดกับคุณปู่ว่าเธอไม่ยอมให้ผู้หญิงที่เป็นต้นเหตุให้คุณพ่อป่วยหนักมาอยู่ร่วมบ้านของเธอแน่นอน อลิซก็ไม่อยากเหมือนกัน ท่อนหลังอลิซได้แต่คิดในใจ เธอจึงบอกคุณปู่ว่าเธอย้ายมาอยู่เรือนหลังเล็กที่อยู่ข้างๆก็ได้สบายมาก คุณปู่ไม่ขัดพร้อมให้คนรับใช้มาดูแลเธอ2คน คือป้านวลกับ นาหลานของป้านวล และก็ให้ลูกน้องของเขามาเป็นบอดีการ์ดเธออีก 2 คน

อลิซเดินออกมาจากห้องมาหยิบไอแพดเปิดหนังสือพิมพ์ประจำวันนี้อ่าน เพื่ออัพเดทข่าวสารรอบตัว ทั้งของต่างประเทศและของในไทย เธอเลื่อนอ่านหาข่าวที่น่าสนใจจน มือบางหยุดเลื่อนที่ข่าวเกี่ยวธุรกิจ

ตระกูลรฉัตรมีเซ เมื่อประธานคนปัจจุบันนอนเป็นผักที่โรงพยาบาล

อลิซกดเข้าไปอ่านต่อ มีหลายสำนักพิมพ์เล่นข่าวเรื่องเกี่ยวกับตระกูลของเธอว่ากำลังดิ่งลงเหวบ้าง กำลังจะถึงจุดจบบ้าง ลูกค้าหลายคนไร้ความเชื่อมั่นเปลี่ยนไปหาคู่แข่งบ้าง หุ้นบริษัทจึงค่อยตกลงเรื่อยๆ เพราะตอนนี้ประธานบริษัทอย่าง ดิเรก ป่วยหนักไม่มีทีท่าจะหาย ตอนนี้คนที่ดูแลเลยกลายเป็น อริศวรที่ต้องกลับมาบริหารงานด้วยวัยย่างเข้า 80 พ่วงด้วยโรคหัวใจ

ในความทรงจำของเบลที่อลิซจำได้ เธอรู้เพียงแค่ว่าครอบครัวเธอทำธุรกิจส่งออกสัตว์ทะเลทุกชนิดไปทั่วไทยและขยายไปในหลายๆประเทศ ส่วนรายละเอียดที่ลึกกว่านี้เธอไม่รู้เลย เมื่อก่อนเบลไม่เคยเข้าไปเกี่ยวของกับงานของคุณพ่อเลย วันๆเบลมีหน้าที่แค่เรียนหนังสือ กับทำงานบ้าน และก็อีกอย่างคือทำตามคำสั่งของพี่ๆน้องๆคนอื่นๆที่มักมากลั่นแกล้งเธอ

ช่วงนี้มหาวิทยาลัยเบลปิดเทอมเลยได้อยู่บ้าน ที่ผ่านมาเธอก็วุ่นๆกับการจัดงานศพของแม่ที่คุณปู่คอยเป็นธุระให้ อีก2วันมหาลัยเธอก็เปิดเรียนเทอมใหม่แล้ว เมื่อคิดถึงวันเปิดเรียน อลิซก็บิดขี้เกียจอย่างเกียจคร้าน

นี่เธอต้องกลับไปเรียนให้เบลอีกรอบเหรอเนี่ย

แค่คิดเธอก็เอียนแล้ว แต่เหมือนอลิซจะไม่ต้องเบื่ออีกต่อไป เมื่อเสียงเปิดประตูบ้านเสียงดัง โครม เหมือนคนเปิดไม่ได้ใช้มือเปิด น่าจะใช้เท้าถีบ ทำให้อลิซขมวดคิ้ว

ใคร?

ปึ้ก

และจบลงด้วยเสียงโยนตะกร้าเสื้อผ้าอีก 2 ตะกร้า

“นี่คือคำสั่งของคุณหนู จีนา กับคุณหนูดาริน ถ้าอยากอยู่บ้านหลังนี้ต่อก็เอาเสื้อผ้าไปซักให้หมด”

อลิซวางไอแพดในมือลงก่อนจะเดินไปหาสาวใช้ทั้งสองที่เธอเรียกการกระทำนี้ว่า ‘กร่าง’ ได้ข่าวว่าเธอเป็นคุณหนูของบ้านนี้อีกคน

“นี่ไม่ใช่หน้าที่ของพวกเธอเหรอ ระวังโดนหักเงินเดือนนะ”

อลิซเดินกลับมานั่งที่เก้าอี้ตัวเดิมอย่างไม่สนใจ พลางหยิบไอแพดขึ้นมาเปิดเล่น แต่หางตาเธอยังคงแอบมองว่าสาวใช้ทั้งสองจะทำยังไงต่อไป

“นี่เป็นคำสั่งจากคุณหนูจีนา เธอกล้าขัดคำสั่งเหรอ”

อลิซเงยหน้ามามองคนพูดอีกรอบด้วยสายตาที่ดูแข็งขึ้น เธอขัดหูกับสรรพนามที่สาวใช้เรียกอลิซ ‘เธอ’ แทนที่จะเป็นคุณหนู

ขนาดคนรับใช้ยังขนาดนี้คนเป็นเจ้านายของนางจะขนาดไหน

บางทีอลิซก็ชักอยากเห็นหน้าพวกคนที่เคยรังแกเบลตัวจริงซะแล้วสิ ตั้งแต่มาอยู่ในร่างเบล เธอยังไม่ได้เจอกันเลย คงอยู่เรือนหลังใหญ่ล่ะสินะ แต่ตอนนี้เธอรู้สึกขี้เกียจเดินไปไหนแล้ว

“เหรอ เป็นคำสั่งของพี่จีนาเลยเหรอ แต่ฉันไม่มั่นใจว่าเป็นอย่างที่เธอพูดนี่นา ถ้าเป็นคำสั่งของพี่เค้าจริงๆ ให้พี่เค้ามาสั่งฉันเองสิ”

ก็บอกแล้วเธอขี้เกียจเดินไปดูหน้าพี่สาวต่างพ่อทั้งสองที่ไม่รู้ยัยเบลไปทำอะไรให้ถึงได้คอยกลั่นแกล้งไม่เว้นแต่ละวัน ก็เลยให้คนที่เธออยากเจอหน้ามาหาเธอเองดีกว่า

“ได้เลย อย่าหนีไปไหนนะ เดี๋ยวฉันจะให้คุณหนูมาจัดการเธอ”

หนึ่งในสาวใช้พูดขึ้นพลางวิ่งออกไปตามเจ้านาย เหลือสาวใช้อีกคนไว้กับอลิซ ทีแรกแววแต่เธอก็หยิ่ง จองหองเหมือนนางร้ายในละคร แต่พอเห็นแววตาที่ไม่สะทกสะท้านของอลิซก็เริ่มสงบเสงี่ยมขึ้น สองเท้าค่อยๆก้าวถอยหลังเองอัตโนมัติ เมื่อค้นพบว่าหญิงสาวตรงหน้าที่เธอมักถูกสั่งให้มาแกล้งคุณหนูคนนี้ ตอนนี้กลับไม่มีท่าทียอมคนเหมือนเมื่อก่อน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel