ตอนที่ 3 ความในใจ ที่ปิดไว้ไม่มิด 1/2
“ผมจะลองคุยกับคุณยายให้ผ่อนผันหนี้ออกไปก่อน อย่างน้อยก็จนกว่าดินจะเรียนจบ คุณอาอย่าให้น้องออกจากมหาวิทยาลัยกลางครันเลยนะครับ”
ผมนั่งฟังเหนือนทีทวงหนี้บ้านนวภูมินทร์อย่างสุภาพ นี่ถ้าไม่ทราบมาก่อนว่าใครเป็นเจ้าหนี้ใครเป็นลูกหนี้ ผมคงคิดว่าเหนือนทีเป็นลูกหนี้เสียมากกว่า เพราะนอกจากจะไม่เรียกเก็บเงินต้นกับดอกเบี้ยที่ไฮโซราชวัตรไม่ยอมจ่ายมาเป็นปี ยังจะรับปากว่าจะไปพูดกับคุณยายหอมจันทร์ให้อีกตางหาก
โถ… พ่อพระ พ่อคนดีที่หนึ่ง!
“อาขอบใจเหนือมากนะ แล้วก็ฝากดูแลน้องด้วย ดินน่ะน่าสงสารมาก ตั้งแต่แม่เขาจากไปก็กลายเป็นเด็กมีปัญหา”
ผมฟังแล้วก็ได้แต่ส่งเสียง หึ ในลำคอพร้อมกับเบือนหน้าหนี เด็กมีปัญหาเพราะพ่อมัวแต่เอาใจเมียใหม่น่ะสิ มีเท่าไรก็ประเคนให้หมด งานการไม่ทำเอาแต่เที่ยวกลางคืนกับเข้าบ่อน สมบัติที่เมียเก่าทิ้งไว้ให้ก่อนตายก็เลยวายวอด
ส่วนไอ้เด็กแดนดินนั่นก็เกือบจะน่าสงสารแล้วล่ะ ถ้ามันจะไม่…
“พี่เหนือเอาตัวดินไปขัดดอกก็ได้นะครับ”
ไอ้เด็กเวร! เดี๋ยวกูตบคว่ำ!
ผมขยับตัวอย่างอึดอัด ลุ้นจนฉี่จะราด กลัวใจเหนือเหลือเกิน กลัวว่าจะตอบตกลงง่าย ๆ
“ดินไม่ต้องคิดมากนะ เรื่องหนี้พักไว้ก่อน ตั้งใจเรียนให้จบ จะได้มาช่วยคุณพ่อบริหารงานที่บริษัท”
ผมลอบพ่นลมอย่างโล่งใจ ที่เหนือตอบไปแบบนั้น แต่ประโยคถัดมาก็เล่นเอาผมลมตีขึ้นอีกรอบอย่างไม่ชอบใจเอาเสียเลย
“มีอะไรให้พี่ช่วยก็บอก จะให้พี่ติวหนังสือให้ก็ได้นะ ยังไงก็เรียนคณะเดียวกัน”
“อย่างนั้นดินไปค้างกับพี่เหนือที่คอนโดได้ไหมครับ จะได้ให้พี่เหนือช่วยติว”
ไอ้เด็กเปรตนี่ก็ขยันยัดเยียดตัวเองเสียจริง โอ๊ย! จู่ ๆ ผมก็อยากเป็นแก๊งทวงหนี้ กูจะกระทืบให้จมตีนเลย
“คงไม่ได้หรอกครับ เพราะพวกพี่ไม่สะดวก” ผมรีบโพล่งขึ้นกลางวง “จบเรื่องแล้ว ผมกับเหนือขอตัวนะครับ”
ผมลากเหนือนทีออกมาจากบ้านนวภูมินทร์ทันทีโดยที่ไม่ยกมือไหว้คุณดนัยด้วยซ้ำ
“คุณฟ้าเสียมารยาทนะครับ”
ระหว่างเดินออกมาขึ้นรถเหนือก็เอ่ยปากต่อว่าผม
“ฟ้าไม่จำเป็นต้องรักษามารยาทกับคนบ้านนี้ มันจ้องจะจับเหนือกันทั้งบ้านไม่รู้ตัวหรือไง?”
ผมกระฟัดกระเฟียดด้วยอารมณ์เสียสุด ๆ ตั้งหน้าตั้งตาเดินฉับ ๆ ไปให้ถึงรถ
“พี่ก็ไม่เห็นว่ามีใครทำแบบนั้นนอกจากคุณฟ้า”
ผมหันขวับกลับไปมองคนที่เดินตามหลัง คิดว่าเหนือหาว่าผมจ้องจะจับเขา แต่พอได้สบตาถึงได้รู้ว่าเหนือหมายถึงอะไร
ผมมองตามสายตาของเหนือนทีที่กำลังจับจ้องที่ข้อมือของตัวเอง ก็พบว่ามือของผมกำลังกำข้อมือแกร่งไว้แน่น พอปล่อยออกมาก็เห็นคาตาเลยว่ามันขึ้นเป็นรอยแดง
แววตาขบขันของเหนือนทีส่งมาให้ผมอีกแล้ว ผมรู้สึกทั้งเขินทั้งโมโหปนกันไปหมด
“ขึ้นรถเร็ว ๆ ร้อนจะตายอยู่แล้ว” ผมจึงกลบเกลื่อนอาการเขินด้วยท่าทีโมโหร้าย โวยวายเสียงดังเอาไว้ก่อน
แต่พอก้าวขึ้นรถยังไม่ทันจะดึงประตูปิด ไอ้เด็กเวรแดนดินก็มายึดประตูรถเอาไว้ แล้วมันก็ตะโกนข้ามหัวผมอย่างไม่เกรงใจ
“เจอกันที่มหา’ลัยนะครับพี่เหนือ”
คนข้าง ๆ นี่ก็ดันส่งยิ้มหวานให้มันอีก ผมจึงปิดโอกาสที่แดนดินจะได้เห็นรอยยิ้มที่มันควรเป็นของผมคนเดียวด้วยการดึงประตูปิดลงอย่างแรง ถ้ามันไม่ชักมือกลับมีหวังนิ้วหัก แล้วผมก็จะไม่รับผิดชอบด้วย!
“คุณฟ้า”
สายตาตำหนิจากเหนือนทีจึงส่งมาที่ผมอีกครั้ง
“ออกรถ!”
แต่ผมก็ไม่สนหรอก ผมรีบออกคำสั่งอย่างฮึดฮัด ความน้อยใจตีตื้นขึ้นมาเป็นระลอก เรื่องเก่ายังไม่เคลียร์ เหนือนทีก็มีเรื่องให้ผมไม่พอใจอีกแล้ว ผมงอนซ้ำซ้อนจนเรียงลำดับไม่ทัน ให้กลับถึงคอนโดก่อนเถอะ เรื่องนี้มีฟ้าต้องจัดการ จะเอาให้หนักเลยคอยดู!
