3/3 ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเธอ
♥ ♥ ♥
“เย้! ในที่สุดฉันก็สอบติด!”
ความดีใจทำให้กุลจิรากระโดดโลดเต้นพร้อมรอยยิ้ม ในที่สุดความอดทนและพยายามก็ส่งผลให้เธอเอนทรานซ์ติดคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยดังได้สำเร็จ พอเห็นชื่อตัวเอง เด็กสาวก็ไล่ปลายนิ้วหาชื่อใครอีกคน เธอไล่หาชื่อเขาจากท้ายขึ้นไปหาอันดับต้นๆ ก่อนจะได้พบว่าเขาคนนั้น…คนที่ดูเหมือนจะไม่เคยพยายามทำอะไรเลยสอบติดคณะเดียว มหาวิทยาลัยเดียวกับเธอด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง!
“โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลย ฉันแทบไม่เห็นหมอนั่นอ่านหนังสือด้วยซ้ำ!” แม้จะพูดออกมาแบบนั้น แต่รอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่มุมปากเล็กๆ ตั้งแต่วันนั้น วันที่เธอได้เจอเขาตอนสิบขวบ นับจากนั้นทั้งสองก็แทบไม่เคยห่างกัน เธอย้ายไปเรียนที่โรงเรียนไหนเขาก็ตามมาด้วย พอเธอบอกว่าอยากเอนทรานซ์เข้ามหาวิทยาลัยนี้เขาก็ตามมาแถมยังเลือกคณะนิเทศศาสตร์เป็นคณะแรกเหมือนกับเธอ
ว่าแต่เขาหายไปไหนทั้งวัน…ตั้งแต่วันที่เธอบอกให้เขาไปมีแฟน ไทเกอร์ก็หายตัวไปบ่อยๆ แต่ก็นะ…ไม่รู้เขาไปทำอีท่าไหน หลังจากวันนั้นกุลจิราก็ได้อ่านหนังสือเตรียมสอบอย่างสงบสุขไม่มีใครมากวนใจเธอเลยสักคน จนตอนนี้เธอสอบติดแล้ว…ได้เวลาใช้ชีวิตช่วงสุดท้ายของมัธยมปลายไปกับความสนุกสักที
“ฉันเพิ่งรู้ว่าไทเกอร์ไปคบกับยัยแว่นบัวบูชา”
“ฉันก็เพิ่งรู้มาเหมือนกัน…ยัยบัวเนี่ยนะ? ยัยนั่นสวยตรงไหน? ใส่แว่นหนาเตอะขนาดนั้น เรียนเก่งน่ะก็ใช่…แต่นอกจากนั้นคือไม่มีอะไรสู้มิลินกับขวัญใจได้เลย งงมากค่ะบอกเลย”
เสียงซุบซิบของนักเรียนสองคนเรียกร้องให้กุลจิราหยุดเดิน เธอหันกลับไปมอง…วินาทีนั้นความรู้สึกบางอย่างก็วิ่งขึ้นมาจุกที่อก ไทเกอร์อย่างนั้นเหรอ? ทั้งโรงเรียนนี้มีแค่ไทเกอร์เดียว คนที่เพื่อนนักเรียนสองคนนั้นเอ่ยถึงจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากไทเกอร์คนที่มีชื่อติดอันดับหนึ่งในคะแนนเอนทรานซ์ เขามีแฟนอย่างนั้นหรือ? ทำไมเธอไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน แล้วแฟนของเขาก็ไม่ใช่ขวัญใจหรือมิลิน แต่เป็น…บัวบูชา เด็กสาวที่ไม่สนใจอะไรเลยนอกจากการเรียนน่ะหรือ?
“ไง ติดไหม? ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้แบบนี้…อย่าบอกนะว่าไม่ติด?” พอคิดถึงเขา เขาก็โผล่มา เดินล้วงกระเป๋ากางเกงนักเรียนมาหยุดตรงหน้าเธอ คนตัวเล็กกว่าช้อนสายตามองคนที่ตัวสูง เรียวปากอวบอิ่มนั้นเบะบึ้ง
“นาย…”
“ฉันอุตส่าห์เปิดโอกาสให้เธอได้อ่านหนังสือ! ทำไมสอบไม่ติดวะ? นี่เธอโง่หรือเปล่าหวาน?! รู้ไหมว่าฉันต้องทำอะไรบ้างเพื่อไม่ให้ยัยบ้าพวกนั้นมากวนใจเธอ!” เขาตะคอกเสียงดัง เหตุผลเพราะกำลังหัวเสีย…สิ่งที่เขาทุ่มเทไป ทำไมมันไม่ช่วยอะไรเลย
“ตะคอกทำไม?!” น้ำตาหยดลงมาจากดวงตากลมโต วินาทีนั้นกุลจิราไม่รู้เหตุผลด้วยซ้ำว่าเธอร้องไห้ทำไม เพราะเขาตะคอกหรือ? หรือเพราะเขามีแฟนกันแน่? เป็นเธอเองไม่ใช่หรือไงที่บอกให้เขาเลือกสักคนระหว่างมิลินกับขวัญใจ
“นี่ร้องไห้เหรอ? เธอโทษใครไม่ได้นอกจากตัวเอง…มันได้คำตอบแล้วว่าเธอโง่ ต่อให้อ่านหนังสือก็ยังสอบไม่ติดอยู่ดี แต่ก็ช่างแม่งเหอะว่ะ มหาลัยเอกชนดีๆ ก็มีตั้งเยอะ…มานี่ เคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าร้องไห้ ฉันไม่ชอบเห็นน้ำตาเธอ” เขาต่อว่าเธอ แต่ก็ปลอบเธอด้วยในเวลาเดียวกัน ดึงคนตัวเล็กเข้ามาใกล้ ใช้สองมือเช็ดน้ำตาให้เธออย่างแผ่วเบา
“ฮึก!”
“เธอน่ะ…ไม่เหมาะกับการเรียนแล้วล่ะมั้ง”
“ทำไมจะไม่เหมาะ! ฉันสอบติด! ฮึก! ได้ยินไหมว่าฉันเอนทรานซ์ติด!”
“แล้วร้องไห้ทำไม? นี่ร้องไห้เพราะดีใจงั้นเหรอ?! หวาน! แม่งยิ่งดูโง่เข้าไปใหญ่เลยว่ะ!”
“ใช่สิ! ฉันมันโง่! ฉันมันโง่เป็นบ้าเลย! เพราะงั้นนายไปไกลๆ อย่ามาเข้าใกล้ฉันเดี๋ยวจะติดเชื้อโง่ไปด้วย!” จบคำนั้นเด็กสาวก็ผลักคนตัวสูงให้ออกห่าง จากนั้นก็เดินออกไปทันที ทิ้งให้เขามองตามอย่างไม่เข้าใจ…เป็นอะไรของเธอ? สอบติดแล้วทำไมต้องร้องไห้เหมือนเสียใจแบบนั้นด้วย?
“ไทเกอร์…” พอกุลจิราเดินออกไป บัวบูชาเด็กสาวสวมแว่นตาหนาเตอะก็เดินเข้ามา ที่จริงแล้ว…บัวบูชาคนนี้จัดว่าเป็นเด็กสาวที่หน้าตาดีไม่น้อย เพียงแต่เพราะเธอไม่ได้สนใจเรื่องความสวยงามมากไปกว่าการเรียน เลยไม่ได้ปรุงแต่งให้ดูดีเฉกเช่นเด็กสาวคนอื่นๆ
“น้ำหวานเอนติดแล้ว”
“ดีจังเลยนะ ไทเกอร์เองก็ติดเหมือนกัน…ชื่ออยู่ที่อันดับหนึ่งเลยด้วยนะ”
“เราเลิกกัน” เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เอ่ยเหมือนว่ามันเป็นเพียงคำธรรมดาทั่วไป
“ทะ…ทำไมล่ะ?” และมันทำให้บัวบูชาแปลกใจมากไม่น้อย “อยู่ๆ ทำไมมาบอกเลิกกันแบบนี้?”
“อย่าทำเหมือนแปลกใจดิ ฉันบอกเธอไปตั้งแต่แรกแล้วว่าเราคบกันทำไม” บัวบูชาคือแฟนคนแรกของไทเกอร์ เป็นผู้หญิงที่เขาเลือกแล้วว่าเหมาะจะมาเป็นแฟนของเขาที่สุด ด้วยเพราะเธอสวมกระโปรงยาวพอดีเข่า ไม่แต่งหน้า ไม่วอแวให้เขาต้องรำคาญใจ ที่สำคัญคือเธอชอบอ่านหนังสือ แต่ถึงอย่างนั้น…เขาก็ไม่ได้เสน่หาอะไรเธอแม้สักนิด
“นายบอกว่าจะคบกับฉันจนกว่าผลเอนทรานซ์จะออก”
“ก็นี่ไง…ผลเอนออกมาแล้ว เพราะงั้นเราเลิกกัน”
“แค่นี้เองเหรอ? แค่นี้จริงๆ เหรอไทเกอร์?” บัวบูชาชอบเขาเข้าแล้ว แม้จะรู้ดีว่าจุดจบคือวันที่ผลเอนทรานซ์ออก แต่ก็ยังไม่ยอมหักห้ามใจตัวเอง คิดและหวังว่าเมื่อถึงเวลาจริงๆ ไทเกอร์อาจชอบเธอบ้าง…แล้วเขาก็จะไม่เลิกกับเธอ ทว่าสิ่งที่คิดกับสิ่งที่เป็นมันสวนทางกัน
“ก็แค่นี้แหละ ไปนะ” การบอกลาแฟนคนแรกของว่าที่ซุปตาร์หนุ่มนั้นเป็นเพียงการยกมือคล้ายการทำรูปพระพุทธรูปปางห้ามญาติให้เธอเท่านั้นเอง สำหรับเขา…หากไม่ใช่เรื่องของกุลจิรา มันก็ง่ายแบบนี้เสมอ
“ฮึก! ไอ้คนใจร้ายนิสัยไม่ดี!”
เด็กสาวทั้งร้องไห้และต่อว่าคนที่ทำให้เสียน้ำตาอยู่ในห้องน้ำหญิง จนถึงตอนนี้สิ่งเดียวที่คิดคือเขามันใจร้าย เขาชอบทำให้เธอร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง ชอบแกล้งเธอ ชอบว่าเธอ แต่พอเธอร้องออกมากลับสั่งให้หยุดร้องแล้วบอกว่าไม่ชอบเห็นน้ำตาของเธอ เด็กสาวไม่เข้าใจว่าความรู้สึกที่เป็นอยู่ตอนนี้มันคืออะไรกันแน่ แต่เธอไม่ชอบเลย
ไม่ชอบที่รู้ว่าเขามีแฟน ต่อไปบัวบูชาก็คงสำคัญมากกว่าเธอแล้ว ไทเกอร์จะเอาเวลาทั้งหมดไปทุ่มให้แฟนคนแรกของเขา สุดท้ายเธอก็จะเป็นได้เพียงหมาหัวเน่าเท่านั้น ไม่ชอบเลย…ที่ตัวเองเป็นแบบนี้ ทำไมต้องรู้สึกกลัวที่จะสูญเสียเขาไปด้วย? ในเมื่อเธอไม่ได้เป็นเจ้าของเขาเสียหน่อย เธอนั้นก็เป็นเพียงเพื่อน…เพื่อนจะไม่มีวันสูญเสีย แต่เช่นกัน…เพื่อนจะไม่ได้ครอบครอง คำว่าเพื่อนหากเป็นแล้วจะไม่มีอะไรมาลบล้างได้ แต่ถ้าแฟน…อาจมีสักวันที่ต้องเลิกกัน
ปัง!!!
“ออกมา! ฉันรู้ว่าเธออยู่ข้างใน!”
ไม่ทันที่กุลจิราจะตกผลึกอะไรได้มากมาย…เสียงทุบประตูห้องน้ำก็ดังขึ้นตามมาด้วยเสียงของไทเกอร์ เธอรีบยกสองมือขึ้นปิดปาก…ไม่อยากให้เขาได้ยินเสียงสะอื้นแล้วรู้ว่าเธออยู่ในนี้ ทั้งๆ ที่เขารู้อยู่แล้วก็ตาม
“หวาน! ออกมา!”
“…”
“น้ำหวาน! ออกมาเดี๋ยวนี้! ไปกินไอติมกัน…ฉันเลิกกับบัวบูชาแล้ว”
“ฮึก!” หมายความว่ายังไง ไอ้ที่บอกว่าเลิกกับบัวบูชาแล้ว
“ออกมาเถอะน่ะ ฉันขอโทษที่ตะคอกเธอ…ขอโทษที่ด่าว่าโง่ เธอไม่โง่หรอก…คนโง่ที่ไหนจะเอนติด อีกอย่าง…ถ้าเธอโง่ฉันก็โง่ด้วย”
“นะ…นายเลิกกับบัวแล้วจริงเหรอ?” ประตูห้องน้ำถูกเปิดออก เผยให้เห็นคนตัวเล็กที่ดวงตาแดงก่ำ
“อืม” ขณะที่ตอบไทเกอร์ก็ใช้สองมือเช็ดน้ำตาให้กุลจิราอีกครั้ง “เลิกร้องไห้ได้ไหม? เวลาเธอร้องไห้มันขี้เหร่เป็นบ้าเลย”
“งื้อ!” ไม่รู้จริงๆ ไม่รู้เลยว่ารอยยิ้มที่กุลจิรามีในตอนนี้มันมาจากอะไร คำขอโทษจากเขา หรือไอศกรีมที่เขาใช้หลอกล่อ หรือว่ามันเป็นเพราะเธอได้ยินว่าเขาเลิกกับแฟนคนแรกไปแล้วกันแน่…
เพื่อนแหละ ก็เพื่อนแหละเนอะ หึหึ
ใดใดคือต้องสงสารบัวบูชาไหม?
อีกใดใดคืออีเสือนางมีแฟนเพราะอยากให้น้ำหวานได้มีเวลาอ่านหนังสือเหรอ?
โอ้ย! ความอีเสือ!
