เสือตัวนี้ชอบลิ้มรสหวาน

108.0K · จบแล้ว
ผืนแพร
58
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

เมื่อคุณซุปตาร์ 'ไทเกอร์' เบื่อจะเป็นแค่เพื่อนของยัยเลขา 'น้ำหวาน' เขาเลยคิดจะข้ามเส้นความเป็น 'เพื่อน' ด้วยคำสัญญาที่เธอคิดว่าเขาลืมมันไปแล้ว... 'ฉันไม่ตลกด้วยหรอกนะ เพื่อนที่ไหนแต่งงานกันได้?' หวาน…ขอร้องได้ไหมวะ? ต้องให้ไหว้เธอด้วยไหม? เวลาที่ฉันไม่อยู่ใกล้ๆ ช่วยอย่าทำให้เป็นห่วงได้ไหม? ♥ ♥ ♥ ไม่มีใครดูแลและปกป้องเธอได้ดีกว่าฉันแล้ว ไม่มีใครที่ทนเธอได้นอกจากฉันคนนี้ ฉันมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่านอกจากป๊ากับม้าเธอ ฉันนี่แหละคือคนที่หวังดีกับเธอที่สุด ♥ ♥ ♥ ไม่มีฉันเธอจะอยู่ยังไง? ♥ ♥ ♥ มีอย่างอื่นให้คิดได้อีกเหรอ? นายกับฉันน่ะ…เป็นอะไรกันไม่ได้นอกจากเพื่อน เพราะถ้ามันจะเป็นมากกว่านั้นได้จริงๆ มันคงเป็นไปนานแล้วเกอร์ และฉันไม่อยากเป็นอะไรกับนายมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้ด้วย ♥ ♥ ♥ พอเถอะเกอร์…ฉันไม่อยากเป็นเพื่อนกันมันส์ดีของนาย ♥ ♥ ♥ ทุกคนนน นิยายรักเรื่องใหม่ล่าสุดของผืนแพร ย้ำนะคะว่านิยายรัก โรแมนติก ดราม่าแทบไม่มี ปมก็บางเบาไม่เครียดเลย เรื่องนี้คือเน้นฟินจริงๆ อ่านไปยิ้มไป บิดตัวม้วนติ้ว กัดหมอนฟิน แบบนั้นเลย ไม่โม้แน่นอน ฝากด้วยนะคะ #พี่เสือเขาจ้องจะกินหวาน เพราะหวานน่ะน่ากินสุดๆ # #เขาจ้องมานานมากแล้ว...มารอชมกันค่ะว่าเสือตัวนี้จะได้ลิ้มรสหวานไหม# อิอิ

นิยายรักนิยายปัจจุบันดาราฟินๆรักแรกพบรักวัยรุ่นรักหวานๆโรแมนติก18+สัญญาทางรัก

1/1 ความซุปตาร์

หากมองว่าอาชีพนักร้อง นายแบบ นักแสดงหรือที่เข้าใจกันง่ายๆ ว่าดารานั้นคือการทำงานเดี่ยว เป็นงานที่ทำได้ด้วยตัวเองคนเดียวอาจไม่ถูกใจกุลจิราหรือน้ำหวานนัก เพราะกว่าที่จะมีละครสักตอน ภาพยนตร์อันเลื่องชื่อสักเรื่องหรือแม้แต่ภาพนิ่งใบเดียว มีคนนับสิบนับร้อยที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จนั้น เธอเองก็เป็นหนึ่งคนที่อยู่เบื้องหลัง แม้จะไม่ใช่ทีมงานผู้สร้างแต่การเป็นเลขาของซุปเปอร์สตาร์คนดังนั้นคืองานของเธอและมันก็มีความสำคัญมากทีเดียว

หญิงสาวจากครอบครัวฐานะปานกลาง จบปริญญาตรีนิเทศศาสตร์จากมหาวิทยาลัยดัง หน้าตาหรือไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่ ออกไปทางน่ารักมากกว่าสวย ตัวค่อนไปทางเพรียวบาง ผมยาวถึงกลางหลังดัดเป็นลอนคลายๆ ชอบปล่อยไว้ยาวสลวยแทนที่จะรวบตึง เธอคนนี้ไม่ได้โดดเด่นเมื่อต้องอยู่ท่ามกลางคนดังที่ประโคมแต่งหน้าแต่งตัว แต่หากได้รู้จัก…หากได้พูดคุย ไม่มีแม้สักคนที่จะละสายตาไปจากเธอได้

กุลจิราวัยเกือบจะสามสิบทำงานเป็นเลขาให้กับซุปตาร์คนดัง คนเดิมและคนเดียวมาแล้วเกือบสิบปี…เริ่มตั้งแต่ตอนที่เขาคนนั้นเป็นเพียงชายหนุ่ม ลูกชายเจ้าของค่ายหนังที่ไร้ชื่อเสียง จนเวลานี้ได้เป็นถึงนักแสดงแถวหน้าของประเทศ พูดชื่อออกไปไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขา ผ่านมาแล้วทั้งงานหนัง งานละคร โฆษณามากมายนับได้เกือบร้อยตัว แม้แต่งานเพลงเขาก็ไม่เคยพลาด ออกเพียงซิงเกิ้ลเดียวยอดวิวและยอดดาวน์โหลดถล่มทลาย เขากวาดรางวัลจากทุกสถาบัน…ทั้งในประเทศและระดับเอเชีย ฝีมือการแสดงของเขาอยู่ในระดับดีเยี่ยม ตีบทแตกกระจายไม่ว่าจะเป็นบทไหน ซุปตาร์คนนี้ยืนหนึ่งอยู่ในบทบาทพระเอกมาเกือบสิบปี…จนตอนนี้อายุกำลังจะเข้าใกล้เลขสามอยู่อีกไม่กี่เดือน เขาก็ยังคงความนิยมเอาไว้ได้เป็นอย่างดีด้วยเพราะฝีมือและการวางตัว อีกทั้งยังหน้าตาที่หล่อปานลูกรักเทพพระเจ้า ดวงตาคมเข้มไม่ได้โตหรือเรียวเล็กเหมือนหนุ่มตี๋ ขนาดกำลังพอดีรับเข้ากับจมูกโด่งเป็นสันได้อย่างพอดิบพอดี เรียวปากหรือก็บางแดง สาวๆ พร้อมใจกันถวิลหาอยากจะได้สัมผัส ทว่าสิ่งที่ทำให้ใครหลายคนใจเต้นแรงคือสันกรามที่สวยอย่างเหลือเชื่อ พ่อแม่เขาให้มาดีตั้งแต่เกิด แต่พอโตและเริ่มเข้าวงการก็สนใจการฟิตหุ่น ไม่ได้เล่นกล้ามอย่างเอาเป็นเอาตาย เขาเพียงเล่นให้พอรู้ว่ามีของดีเท่านั้น คุณซุปตาร์มีเสน่ห์เหลือล้น เป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้ทุกคนกันลุ่มหลงเขาแบบถอนตัวไม่ขึ้น

ชื่อของเขาก็คือไทเกอร์

เบื้องหน้าเขายิ้มแย้ม สุภาพและอ่อนโยน เป็นที่รักของเหล่าแฟนคลับ จะสาวเล็ก สาวใหญ่ คุณป้าหรือคุณยาย ทุกคนพร้อมใจกันเรียกเขาว่าพี่เสือ เขาคนนี้ไม่เคยมีชื่อเสียงด่างพร้อย ไม่เคยทำอะไรให้แฟนคลับอันเป็นที่รักต้องขัดข้องเคืองใจ ต่อให้หลายครั้งจะมีข่าวหลุดออกมาว่าเขากำลังคบหาดูใจอยู่กับใครสักคน แต่ก็ไม่เคยมีใครรู้ว่าหญิงสาวที่เขาคบนั้นเป็นใคร เพราะเขาไม่ชอบเอาเรื่องส่วนตัวมาป่าวประกาศให้ใครรู้และการที่เขามีแฟนมันก็คือเรื่องส่วนตัวไม่มีผลกระทบอะไรกับงาน เขาไม่เคยทำให้คนที่ติดตามผิดหวัง รู้ดีว่ากว่าจะมาถึงจุดนี้ได้คนเหล่านั้นคือแรงหนุนที่สำคัญ

ทว่าเบื้องหลังไม่เป็นอย่างเบื้องหน้า มีเพียงคนที่ต้องร่วมงานด้วยรู้ดีกว่าใคร…ภายใต้รอยยิ้มอันทรงเสน่ห์ มันแฝงไว้ด้วยความเจ้าอารมณ์ เรื่องเยอะ จู้จี้จุกจิก เข้าถึงยาก พิถีพิถันเป็นที่หนึ่ง ตบท้ายด้วยเอาแต่ใจวางตัวเองเป็นศูนย์กลางของจักรวาล เหตุผลที่ออกจากปากเขาเป็นเหตุผลที่ใครก็ค้านไม่ได้ ‘ทุกคนคาดหวังในตัวผม ผมผิดเหรอที่อยากให้งานออกเพอร์เฟคที่สุด หรือพวกคุณไม่อยากให้งานออกมาดี?’

ด้วยเพราะคุณซุปตาร์คนนี้เป็นผู้รักความสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ เขาจะไม่เสียเวลาทำอะไรที่รู้ดีว่าผลลัพธ์จะออกมาไม่สวย งานทุกชิ้นที่เขารับ…ไม่มีงานไหนที่ไม่เพอร์เฟค เขาเป็นคนที่ร่วมงานด้วยไม่ยากหากไม่มีอะไรที่ทำให้รู้สึกขัดใจ แต่เมื่อไหร่ที่ขัดใจขึ้นมา…ไม่มีใครเอาอยู่ยกเว้นเพียงคนเดียวคือกุลจิรา เลขาส่วนตัวคนแรกและคนเดียวรวมถึงคนสุดท้ายของเขา และเพราะเช่นนั้นทุกครั้งที่ทีมงานสักคนกำลังเดือดร้อนเพราะความเรื่องเยอะของคุณซุปตาร์ คนเดียวที่จะช่วยให้งานเดินต่อได้จนเสร็จลุล่วงจะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก…

“น้ำหวาน! น้ำหวานช่วยพี่ด้วย!”

ทีมงานคนหนึ่งวิ่งออกมาจากห้องแต่งตัวนักแสดง ตรงเข้าหากุลจิราที่กำลังคุยงานบวกคุยเล่นอยู่กับครีเอทีฟ วันนี้เป็นวันถ่ายโฆษณาเครื่องดื่มยี่ห้อดังที่ไทเกอร์เป็นพรีเซ็นเตอร์มาแล้วหลายปี ซึ่งสถานที่ถ่ายทำนั้นตั้งอยู่ในสตูดิโอขนาดใหญ่ใจกลางเมือง

“มีอะไรคะพี่โอ้?” หญิงสาวหันมองชายหนุ่มที่มีท่าทางตุ้งติ้งเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเท้าเดินเข้าหาเมื่อเห็นว่าสีหน้าของคนที่กำลังวิ่งมานั้นดูไม่ดีเอาเสียเลย มันต้องมีเรื่องแน่นอน ต้องมีอะไรสักอย่างเกิดขึ้นในห้องแต่งตัว จากประสบการณ์สิบปีที่เธอทำงานเป็นเลขารวมถึงยี่สิบปีที่เป็นเพื่อนผู้หญิงคนเดียวของคุณซุปตาร์ มันบอกว่ามันบ่งบอกว่าเขากำลังแสดงอิทธิฤทธิ์

“พี่เสือนางไม่ยอมให้พี่ทาลิปสติกให้ นางบอกว่าลิปสติกของพี่ถูกใช้มาก่อนแล้ว” พี่โอ้คือช่างแต่งหน้าประจำกองถ่าย เวลานี้ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ชูลิปสติกสีใสให้กุลจิราดู หญิงสาวเองก็มองตาม…คำตอบคือใช่ ลิปสติกแท่งนี้เคยผ่านการใช้งานมาก่อนจริงๆ

“แล้วพี่โอ้มีแท่งใหม่ไหมคะ?” ก่อนจะตำหนิพี่โอ้ สิ่งแรกที่กุลจิราทำคือการหาทางออก รู้อยู่แล้วแท้ๆ ว่าคุณซุปตาร์ไม่ชอบใช้ของร่วมกับคนอื่น ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ตาม ต่อให้ลิปสติกแท่งนี้จะไม่ได้ทาลงบนปากใคร…ถึงจะใช้แปรงแต้มเอาก็ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด

“ไม่มี ทำยังไงดีน้ำหวาน? พี่ถามทุกคนในกองแล้ว…ไม่มีใครมีลิปสติกแท่งใหม่เลยสักคน”

“ออกไปซื้อใหม่ตอนนี้ก็คงไม่ทันแล้ว” กุลจิราคิดหาทางออก ทว่าพอมองเวลาที่สมาร์ทวอทช์ซึ่งสวมไว้ที่ข้อมือก็ได้คำตอบว่าไม่ทัน อีกไม่ถึงยี่สิบนาทีก็จะเริ่มถ่ายฉากแรก แล้วถึงจะออกไปซื้อ…สตูดิโอแห่งนี้ก็ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แค่ออกไปปากซอยก็ต้องเจอรถติดยาวเป็นหางว่าว ต่อให้จะใช้มอเตอร์ไซค์ซิกแซ็กฝ่ารถติดไป แต่เวลาเจ็ดโมงเช้าแบบนี้คงไม่มีร้านขายเครื่องสำอางที่ไหนเปิด

“พี่ตายแน่เลย…มีช็อตโคลส อัพ ภาพแคบที่เห็นแค่ปากกำลังดื่มน้ำด้วย แล้วพี่ซันเขาก็บรีฟมาแล้วว่าขอปากสวยๆ พี่เลยต้องหาลิปสติกมา…”

“โอเคค่ะ พี่โอ้ใจเย็นๆ ก่อนนะ เดี๋ยวหวานลองไปคุยกับไทเกอร์ก่อน…ระหว่างนี้พี่โอ้ลองหาทางอื่นไปก่อนนะ” กุลจิราไม่อยากเสียเวลาฟังข้ออ้างใดๆ ของพี่โอ้ เธอจับไหล่ของอีกฝ่ายให้หยุดลุกลี้ลุกลนหาคำแก้ตัว ก่อนที่จะเดินออกไปมาทางห้องแต่งตัวนักแสดง

ทางออกของปัญหานี้มีอยู่ไม่มาก หนึ่งคือเกลี้ยกล่อมให้คุณซุปตาร์คนดังยอมใช้ลิปสติกที่เคยถูกใช้มาก่อนแล้ว ซึ่งกุลจิรามองว่ามันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะยอม สองคือใช้เครื่องสำอางอื่นมาแทน อย่างเช่นเจลบำรุงริมฝีปากหรืออะไรสักอย่างที่มีคุณสมบัติทำให้ผิวมันวาวได้

ข้อที่สองนี้อาจมีความเป็นไปได้ แต่ประสบการณ์บอกว่าเธอควรมีทางออกที่สามหรือสี่เพื่อสำรองไว้

สาม…บอกปัญหานี้กับพี่เกรท ผู้เป็นโปรดิวเซอร์แล้วขอให้พักกองถ่ายเพื่อหาลิปสติกแท่งใหม่ ทว่าการทำแบบนั้นจะสร้างความเดือดร้อนให้ทีมงานคนอื่น การเลื่อนเวลาการถ่ายทำออกไป ถึงแม้จะในเวลาเพียงสิบนาทีอาจทำให้กระทบต่อหลายฝ่าย อย่างที่รู้ดีอยู่แล้วว่าการถ่ายทำโฆษณาหนึ่งชิ้นไม่ได้มีเพียงนักแสดง ตากล้อง ผู้กำกับ แต่ยังมีทีมกำกับแสง ทีมศิลปะประกอบฉากและอีกมากมายรวมถึงคนสำคัญที่ไม่พูดถึงไม่ได้ นั่นก็คือลูกค้าหรือเออีที่ตามมาเฝ้าดูการถ่ายทำ เหนือสิ่งอื่นใด…ทางออกข้อที่สามนี้จะทำให้ไทเกอร์ถูกมองไม่ดี กุลจิราจึงปัดตก

หญิงสาวเดินคิดหาทางออกข้อที่สี่จนเข้ามาถึงห้องแต่งตัวนักแสดง ภาพแรกที่เธอเห็นคือคุณซุปตาร์กำลังนั่งไขว่ห้างเล่นเกมในโทรศัพท์มือถืออย่างสบายอารมณ์ ทำราวกับว่าการปฏิเสธที่จะทาลิปสติกของเขามันเป็นเรื่องเล็กน้อยไม่ได้เดือดร้อนอะไรใครเลยสักคน

“ไปไหนมา?” ชายหนุ่มเจ้าของเบ้าหน้าฟ้าประทานเอ่ยถาม ขณะที่สายตากำลังเพ่งหน้าจอโทรศัพท์มือถือ “อีกนานไหมกว่าจะได้เริ่มถ่ายช็อตแรก? ฉันอยากรีบถ่ายให้จบๆ แล้ว อยากกลับไปนอน”

“งั้นก็ยอมทาลิปสติกสิ”

“แท่งไหน?” ถ้าเป็นแท่งเก่าแท่งเดิมที่เคยใช้กับคนอื่นล่ะก็เขาไม่มีทางยอม

“เกอร์…ลิปสติกนั่นน่ะไม่เคยโดนปากใครมาก่อน พี่โอ้เขาใช้แปรงแต้มเอา”

“ฉันไม่สน ถ้ามันเคยถูกใช้มาก่อนแล้วคำตอบคือไม่ อีกอย่างนะ…ถึงจะไม่ได้เอาลิปสติกไปทาบกับปาก แต่แปรงที่ใช้ก็ถูปากคนอื่นแล้วก็มาโดนลิปสติกอยู่ดี แค่คิดภาพตามก็อยากจะอ้วกแล้วหวาน” ที่เขาพูดมาน่ะมันไม่ผิดเลยสักนิด เรื่องนี้เอาเข้าจริงความผิดตกเป็นของพี่โอ้คนเดียว ใครบ้างที่เคยทำงานกับซุปตาร์ไทเกอร์แล้วจะไม่รู้ว่าเขาถือตัวและให้ความสำคัญกับความสะอาดไม่เป็นรองจากความส่วนตัว

“งั้นลองเอาเจลบำรุงทาแทนได้ไหม? ไหนดูสิว่าพี่โอ้มีเครื่องสำอางอะไรที่พอใช้แทนได้บ้าง…” กุลจิราเองก็อยากจะกลับไปนอนแล้วเหมือนกัน เมื่อวานไทเกอร์ไปถ่ายแบบที่สมุย กว่าจะกลับถึงกรุงเทพก็ดึกมากแล้ว แถมเมื่อเช้าก็ยังต้องตื่นตีสามมาเตรียมถ่ายโฆษณาชิ้นนี้ ไม่ใช่แค่เขาที่เหนื่อย…เธอเองก็เหนื่อยมากเหมือนกัน มันคือการทำงานเป็นทีม เขามีเธอเป็นเลขาคนเดียว ไม่ว่าเขาจะไปที่ไหน ทำอะไร เธอต้องตามไปประกบเขาทุกที่และมันไม่ใช่คำสั่งของคุณปราบเจ้าของ ไชน์ เอเจนซี่ที่เขาสังกัด หากแต่มันคือคำสั่งจากคุณซุปตาร์เขาโดยตรง เขาไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้ ไม่ยอมให้ใครมาทำงานแทนเธอ คนเดียวที่จะต้องคอยช่วยงานเขาต้องเป็นเธอเท่านั้น…แค่เธอคนเดียว

“เจลนั่นสกปรกกว่าลิปสติกอีก”

“เชี่ย…” กุลจิราสบถออกมาเบาๆ พร้อมกันกับที่ไทเกอร์บอก เพราะเวลานี้กระปุกสีใสฝาสีชมพูที่อยู่ในมือเธอ…ใช่ มันคือเจลบำรุงริมฝีปาก ทว่าหน้าตาของมันชวนให้ขนหัวลุกฮือ ไม่ใช่เพียงผ่านการใช้งานมาแล้ว แต่หน้าตามันเหมือนกับว่าผ่านสมรภูมิรบมาสามชาติกว่าเห็นจะได้ ทั้ง…มีฝุ่นเกาะ มีเส้นขนเล็กๆ ที่เดาว่าอาจเป็นขนตาใครสักคน แถมยังมีรอยจ้วงแสนน่าสะพรึงกลัว

เปิดเรื่องด้วยความเยอะของอีนังเสือ

อีคุณซุปตาร์ค่าตัวแพงที่จุกจิกสุดๆ

ทุกคน...ที่ผ่านมาไรท์เขียนแต่เรื่องเครียดๆ เรื่องนี้เรามาผ่อนคลาย

อ่านอะไรที่มันเบาสมอง เน้นจิ้น เน้นฟินจิกหมอนกันบ้างเนอะ

เรื่องนี้จะมีพาร์ทอดีตตัดสลับเข้ามาเรื่อยๆ นะคะ อยากให้ทุกคนได้เห็นว่าตลอดยี่สิบปีที่ผ่านมา

พี่เสือกับยัยหน้าหวานเขาผ่านอะไรกันมาบ้าง หวังว่าทุกคนจะชอบนะคะ

อ่านแล้วชอบ อยากอ่านต่ออย่าลืมกดหัวใจ กดไลค์และคอมเมนต์เป็นกำลังให้กันนะคะ