บท
ตั้งค่า

2/2 อินเนอร์จัดเต็ม

เวลาเก้าโมงเช้าของวันที่ไม่ต้องออกไปทำงานข้างนอก เป็นเวลาที่คุณซุปตาร์หนุ่มจะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์แล้วดูหุ้นที่เขาลงทุนไปกับหาข่าวอ่านเพื่อให้ตัวเองได้ตามสถานการณ์บ้านเมืองทันเวลา ทั้งข่าวเศรษฐกิจ ข่าวบ้านเมือง ข่าวบันเทิง เขาคนนี้ไม่มีเพื่อนสนิท ไม่มีเพื่อนรักสุดใจขาดดิ้นที่ไปไหนไปกัน คนเดียวที่เขามีคือกุลจิรา ไม่เคยมานั่งสรตะว่าเธออยู่ในตำแหน่งไหนของชีวิตกันแน่ จะลูกน้อง เพื่อนรัก เพื่อนสนิทหรืออะไรก็ช่าง เขารู้เพียงแต่ว่าตัวเองมีความสุขดีที่มีเธอ

สายเรียกเข้าดังขึ้นมาจากโทรศัพท์มือถือเรียกร้องความสนใจจากเขาได้ ชายหนุ่มยอมละสายตาจากคอมพิวเตอร์ยี่ห้อผลไม้ดัง พอเห็นชื่อเซเว่นที่หน้าจอก็หยิบมันขึ้นมารับสาย

“อืม”

[ที่นายใช้ให้ฉันไปสืบมาน่ะ…ได้เรื่องแล้วนะ] เซเว่นหนุ่มสายแฟชั่นสุดคูลผู้เป็นสไตลิสต์ประจำตัวของไทเกอร์ ทุกงานที่เขาไปออก ทุกอีเวนท์หรือแม้แต่งานหนังงานละคร เซเว่นรับหน้าที่ดูแลเรื่องเสื้อแล้วและภาพลักษณ์ จะคอยประสานงานกับแบรนด์และทีมเสื้อผ้าเพื่อให้ซุปตาร์หนุ่มออกมาดูดีที่สุด และนอกจากงานสไตลิสต์แล้ว เซเว่นยังรับหน้าที่คอยตามสืบทุกเรื่องที่เขาอยากรู้

“ว่าไง?”

[เป็นอย่างที่นายคิด เลิกกันแล้ว…น่าจะนานแล้วด้วย อย่างต่ำก็สามเดือน]

“ชัวร์ไหม? ครั้งที่แล้วก็พูดแบบนี้แต่สุดท้ายก็กลับไปคบกันเหมือนเดิม”

[ชัวร์ ครั้งนี้คงเอาจริงแล้วล่ะ ตอนนี้ไอ้เวรนั่นมันคั่วอยู่กับสกาย เดี๋ยวก็คงมีข่าวออกมา] สกาย นักแสดงสาวมากฝีมือที่เคยร่วมงานกับไทเกอร์อยู่หลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยถูกจับเป็นคู่จิ้น ไม่เคยมีข่าวชู้สาวด้วยกันแม้สักครั้ง ไทเกอร์มีกฎเหล็กของตัวเองคือเขาจะไม่คบกับคนในวงการ และจะไม่คบกับใครก็ตามที่ไม่ยอมเซ็นสัญญารับรู้ว่าเขาจะไม่พาออกสื่อ ไม่เปิดเผยชื่อ ไม่มีรูปคู่ การคบกับเขาไม่ใช่ว่าต้องปิดเป็นความลับ เพียงแต่เขาไม่อยากให้มีข่าวเรื่องอื่นเกิดขึ้นนอกจากเรื่องงาน ตลอดจนอายุเกือบจะครบสามสิบปีอยู่อีกไม่กี่เดือน คุณซุปตาร์มีแฟนมาแล้วหกคนด้วยกัน ซึ่งสองคนล่าสุดที่คบด้วยในตอนที่เขากำลังโด่งดังมากๆ นั้นต่างก็ยอมเซ็นสัญญาด้วยกันทั้งคู่ และทั้งหมดหกคนนั้น…เมื่อเลิกกันไปแล้ว ไม่มีแม้สักคนที่ไทเกอร์จะยอมให้เป็นเพื่อน เขาน่ะถือคติว่าเลิกกันแล้ว ก็แยกกันไปให้พ้นๆ ไม่เคยคิดเอาแฟนเก่ามาเป็นเพื่อน และไม่คิดย้อนกลับไปคบซ้ำสองแน่นอน

“ดี ถ้าครั้งนี้ของจริงก็ดีมาก มันจะคบใครผมไม่สนอยู่แล้ว ขอบคุณมาก…แต่เลิกกันมาสามเดือนแล้วจริงเหรอ? ทำไมผมไม่รู้สึกถึงอะไรเลย?”

[รายนั้นเก็บอาการเก่งจะตายนายก็น่าจะรู้ดี แค่นี้ก่อนนะฉันต้องเข้าไปพบคุณปราบ อ้อ! ฉันได้ยินมาว่าคุณปราบเขาอยากให้นายรับหนังอีกสักเรื่องก่อนปลายปีนี้นะ]

“ถ้ามีบทดีๆ ก็ส่งมา วางนะ”

[เดี๋ยวๆ มะรืนนี้นายมีคิวถ่ายเอ็มวีของพี่เบอร์ดี้ กันต์ชัยใช่ไหม? ฉันดีลเรื่องเสื้อผ้าหน้าผมไว้แล้ว แล้วก็ขอร้อง…ถ้าไม่อยากใช้ลิปสติกต่อจากใคร นายช่วยเตรียมไปเองได้ไหม?] ไม่มีคำตอบจากไทเกอร์ หน้าที่เตรียมเครื่องสำอางไม่ใช่ของเขา ถ้าทำงานของตัวเองให้ดีไม่ได้…ก็แค่ไม่ต้องทำ เขารู้อยู่แล้วว่าเรื่องลิปสติกจะต้องไปถึงหูเซเว่น เพราะทุกเรื่องเกี่ยวกับเขาหรือแม้แต่คนอื่นๆ ในวงการ ไม่ว่าจะเรื่องดีหรือเรื่องร้าย เซเว่นรับรู้หมด

วันมะรืนนี้เขามีคิวถ่ายมิวสิค วิดีโอเพลงใหม่ของนักร้องซุปตาร์ค้างฟ้าตลอดกาล และชื่อเพลงก็คือ ‘คนขี้น้อยใจ’ ที่ทำอยู่ตอนนี้ก็คือการพยายามสวมบทเป็นคนนี้น้อยใจอยู่ อย่างที่เคยได้บอกไป…ทุกครั้งก่อนจะถึงเวลางาน ไทเกอร์จะทำตัวเองให้เข้าถึงบทบาทที่ได้รับ ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่แค่ไหน พอวางสายจากเซเว่น คนตัวสูงก็หยัดกายเต็มความสูงลุกจากโซฟาหนังสีดำ เดินมาสูดอากาศที่ด้านนอก…ข้างบ้านของเขานั้นเป็นสวนที่จัดไว้อย่างสวยงาม ถัดออกไปนั้นคือแม่น้ำสายหลัก รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นที่มุมปาก…

“เลิกกันจริงเหรอ?” เอ่ยกับตัวเองราวกับว่ากำลังดีใจ เขาน่ะอยากจะรู้เรื่องใครบางคนอยู่ตลอด และไม่ว่าจะสงสัยอะไรก็มักถามออกไปตรงๆ แต่มีเพียงเรื่องเดียวที่ไม่เคยถามนั่นก็คือเรื่องแฟนของเธอ กุลจิราคบกับฟ้าครามมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัย นับได้ก็เทียบเท่ากับเวลาที่ไทเกอร์เข้าสู่วงการบันเทิง ในสายตาของไทเกอร์นั้นฟ้าครามคือไอ้เวรคนหนึ่งที่ทำตัวเฮงซวยจนอยากจะมอบถ้วยรางวัลไอ้ชาติหมาสิบปีซ้อนให้ ถึงจะเป็นผู้กำกับและคนเขียนบทที่มีความสามารถโดดเด่น แต่ในฐานะผู้ชายคนหนึ่ง ฟ้าครามจัดว่าเป็นบุคคลที่สมควรฆ่าให้ตาย เหตุผลมีเพียงข้อเดียว…ไอ้เวรนั่นคือแฟนคนแรกและคนเดียวของกุลจิรา และเขารู้ว่ามันทำให้เธอเสียใจอยู่หลายครั้ง รักๆ เลิกๆ กันมาตลอด ไม่รู้ทำไมกุลจิราถึงไม่เคยเข็ดหลาบกับความรักแย่ๆ นี้สักที

“เกอร์” เสียงหวานดังนำมาก่อนที่คนตัวเล็กจะเดินเข้ามาในบ้านหลังใหญ่ ในมือเธอถือกล่องใส่หมูแดดเดียวมาด้วย เธอคิดว่าเวลานี้เขากำลังต้องกำลังทำหน้าโกรธ คงกำลังรอเล่นงานเธออยู่ ทว่ามันผิดคาด…ภาพที่เห็นคือคุณซุปตาร์กำลังยืนยิ้ม

“วันนี้อากาศดี ไปปิกนิกกัน”

“ฮะ?”

“เตรียมของไปปิกนิก หาหนังสือไปด้วย…ฉันอยากฟังเธออ่านหนังสือ”

“นายหายโกรธฉันแล้วเหรอ?” เธอเตรียมตัวมาง้อเขา อุตส่าห์คิดหาวิธีและคำพูดมาตลอดทาง แต่ทำไมพอมาถึงเขากลับทำเหมือนว่าไม่งอนอะไร แถมยังอารมณ์ดีอยากออกไปปิกนิกอีก ทั้งๆ ที่เขาส่งข้อความมาโวยวายยกใหญ่ แต่ทำไมกลับทำเหมือนไม่ได้โกรธเธอเลยแม้แต่น้อย นี่มันอะไรกัน

วรั้ยยย

ไหนตอนแรกมีคนทำท่าเหมือนจะงอน?

พอรู้ว่าเขาโสด...หายงอนเฉย?

หึหึ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel