บท
ตั้งค่า

2/1 อินเนอร์จัดเต็ม

การถ่ายทำโฆษณาเครื่องดื่มยี่ห้อดังที่มียอดขายถล่มทลาย สินค้าขาดตลาดเป็นว่าเล่นสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี อย่างที่ก็รู้ดีกันอยู่ทั่วทั้งวงการละคร ภาพยนตร์หรือวงการโฆษณาว่าคุณซุปตาร์ไทเกอร์คนนี้เป็นคนเข้มงวดกับเรื่องการแสดง ทุกงานที่ได้รับเขาทำการบ้านมาอย่างดี ไม่มีคำว่าจำบทไม่ได้ ไม่มีการท่องจำบทหน้าเซต ก่อนถึงเวลาที่ต้องถ่ายงานสักชิ้นเขาจะซ้อมการแสดงก่อนเสมอ และเมื่อรับบทไหนมา…เขาจะใช้ช่วงเวลายาวนานกับมัน

เขาเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดง

หลายปีก่อนตอนที่ไทเกอร์รับบทนำเป็นคนตาบอด เขาใช้ชีวิตกับความมืดมิดอยู่เป็นเดือน เอาผ้าดำมาปิดตาแล้วใช้ชีวิตเหมือนว่าตัวเองเป็นคนตาบอดจริงๆ คนเดือดร้อนไม่ใช่ใครที่ไหน…ก็กุลจิรายังไงล่ะ เธอต้องคอยดูแลคนตาบอดคนนี้แบบระยะประชิด ต้องคอยซัพพอร์ตเขาอย่างสุดความสามารถ ไม่ว่าจะกิน นอน นั่งหรือแม้แต่เข้าห้องน้ำ เขาก็สั่งให้เธอคอยตามประกบ มันเหนื่อย การเป็นเลขาของซุปตาร์ไทเกอร์นั้นเหนื่อยว่าเป็นเลขาให้ดาราคนอื่นหลายเท่า แต่ผลลัพธ์ก็ออกมาดีอย่างที่คาดไว้ ไทเกอร์คว้ารางวัลนำชายไปครองได้อย่างสมศักดิ์ศรี

อย่างปีที่แล้วตอนที่คุณนักแสดงคนเก่งเขารับบทเป็นผู้ชายชั่ว จิตไม่ปกติที่ลงมือฆ่าเมียตัวเองก่อนจะตามไล่ฆ่าคนอื่นไปทั่ว เขาก็อินกับบทนั้นมาก ดูข่าวฆาตกรรมแทบทุกข่าว อ่านข้อมูลของผู้ป่วยทางจิต เขากลายเป็นคนไม่หลับไม่นอน ทำตัวขวางโลกแสดงนิสัยแย่ๆ กับทุกคนที่อยู่รอบข้าง สิ่งเดียวที่เขาไม่ทำคือฆ่าคนจริงๆ เขาเป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบ ขยันเก็บรายละเอียดทุกเม็ดอย่างไม่มีตกหล่น และก็เช่นเคย…รางวัลนำชายพ่วงด้วย ไรซิ่ง สตาร์ ในเวทีระดับเอเชียกลายเป็นของเขา

งานของไทเกอร์นั้นมีความสำคัญต่อเขามาก เขาสนุกกับสิ่งที่ทำและไม่เคยทรยศมัน ไม่เคยทำงานชุ่ยๆ ไม่เคยแสดงบทไหนที่ไม่รู้สึกอินกับมัน เขาทุ่มเท ทำการบ้าน เขาเรียนรู้และซึมซับกับตัวละครทุกตัวที่อยู่ในความรับผิดชอบ ไม่เพียงแต่บทใหญ่ๆ แม้แต่กับบทเล็กๆ อย่างการเป็นพระเอกมิวสิค วิดีโอ หากรับงานมาแล้ว อย่างน้อยเขาก็ต้องมีเวลาสองสามวันในการเป็นตัวละครนั้นๆ ก่อนจะถึงวันถ่ายจริง

เบื้องหลังความสำเร็จนี้…คนเดียวที่คุณซุปตาร์เอ่ยออกมาเป็นชื่อคือเธอคนนี้ หญิงสาวตัวเล็กๆ ที่เขาแทบไม่เคยปล่อยให้อยู่ห่างกาย เธอที่คอยตามรับฟัง ต่อบท ดูเขาซ้อมการแสดงและสนับสนุน เธอที่ใช้แรงงานเพื่อแลกกับการมีเขาคุ้มครอง ไทเกอร์จะมีประโยคหนึ่งที่เอาไว้พูดบนเวทีในวันที่เขาต้องขึ้นไปรับรางวัล ‘ผมขอบคุณทุกคนที่เกี่ยวข้องกับความสำเร็จนี้ครับ ขอบคุณทุกคนที่ติดตามและสนับสนุนผมมาตลอด ผมพูดทุกครั้งว่ารางวัลนี้เป็นของทุกคนที่เกี่ยวข้อง ผมเป็นแค่ตัวแทนขึ้นมารับรางวัลเท่านั้น สุดท้าย…ถ้าไม่มีกุลจิราก็คงไม่มีไทเกอร์’

ทุกครั้งหลังเลิกกองถ่ายหน้าที่ของกุลจิราคือตามไปส่งไทเกอร์ที่บ้านริมแม่น้ำสายหลักกลางเมืองของเขา สิ่งแรกที่ทำเมื่อถึงบ้านคือการเตรียมน้ำให้คุณซุปตาร์แช่ ไม่ว่าจะเหนื่อยหรือดึกดื่นแค่ไหน กุลจิราก็ทำสิ่งเหล่านี้เสมอ ต่อให้เขาจะบอกว่าไม่ต้องทำ…เธอก็ยืนยันว่าจะทำ เพราะมันคือหน้าของเธอ พอเตรียมน้ำเสร็จ เธอก็เตรียมตัวมานวดผ่อนคลายให้เขา ไทเกอร์น่ะชอบให้กุลจิรานวดให้ก่อนที่เขาจะหลับ จะทำแบบนี้ก็เฉพาะตอนที่เหนื่อยมากๆ เท่านั้น

“แค่เตรียมน้ำก็พอ วันนี้ไม่ต้องนวดหรอก” ชายหนุ่มเอ่ยบอกขณะที่เขาเดินแยกเข้ามาในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนกุลจิราก็แยกไปเตรียมน้ำให้เขาแช่

“ทำไมล่ะ? เหนื่อยมากๆ ถ้าไม่ได้นวด นายจะนอนไม่หลับเอานะ”

“ดึกแล้วหวาน ฉันรู้ว่าเธอก็เหนื่อย กลับไปพักเถอะ”

“แต่”

“ทำไมต้องดื้อ? พูดอะไรก็หัดทำตามง่ายๆ บ้างได้ไหม? ฉันบอกให้พี่เวชรอขับรถไปส่งเธอแล้ว วันนี้ทิ้งรถไว้นี่แหละ” ทุกวันกุลจิราจะต้องขับรถโฟล์กเต่าของตัวเองมาจอดทิ้งไว้ที่บ้านไทเกอร์แล้วขึ้นรถตู้ไปทำงานกับเขา แต่หากวันไหนที่ต้องไปยังสถานที่ซึ่งไม่มีห้องส่วนตัว ไทเกอร์ก็จะใช้รถบ้านแทน

“ก็ได้ๆ งั้นฉันจะเตรียมเม็ดฟู่ไว้ให้ อาบน้ำเสร็จนายอย่าลืมกินนะ ไปก่อนล่ะ”

“พรุ่งนี้ไม่ต้องรีบมานะ ค่อยมาตอนสายๆ”

“ทำไมล่ะ?” ปกติแปดโมงตรงกุลจิราก็ต้องมาสแตนด์บายรอคำสั่งของเขาแล้ว

“ไม่ต้องถาม ไปได้แล้วไป ถึงบ้านแล้วก็ส่งข้อความมาด้วย ถ้าไม่ได้รับข้อความ…รู้ใช่ไหมว่าฉันจะนอนไม่หลับ” เป็นเช่นนี้เสมอ เวลาที่ต้องแยกกันไทเกอร์จะเอาแต่รออ่านข้อความของกุลจิรา เขาต้องการที่จะรู้ว่าเธอถึงบ้านที่อยู่อีกฟากฝั่งแม่น้ำโดยปลอดภัยดีหรือไม่

“อื้ม” คนตัวเล็กท่าทางเหนื่อยล้าไม่ต่างจากคนตัวสูงตอบรับพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่จะเดินออกมาจากห้องแต่งตัวที่มีห้องน้ำในตัว คิดในใจว่าทำไมเขาใจดีแปลกๆ หรือเป็นเพราะพรุ่งนี้ไม่มีงานถึงปล่อยให้เธอได้มีเวลานอน แต่ก็ไม่น่าใช่…ปกติต่อให้วันถัดไปไม่มีงาน ซุปตาร์คนนี้ก็ตื่นเช้าแล้วโทรจิกเธอให้มารับใช้อย่างไร้ความปรานีอยู่ดี แล้วมันเป็นเพราะอะไรกัน?

ทาวน์เฮาส์สามชั้นขนาดกลาง ชั้นล่างเปิดกิจการ ชั้นบนอีกสองชั้นเป็นที่พักอาศัย ตั้งอยู่ในชุมชนที่มีผู้คนพลุกพล่าน ถนนทั้งสายนั้นมีการค้าขายมากมาย ทั้งอาหาร ผ้าเมตร ของใช้จุกจิก ที่บ้านของกุลจิรานั้นมีเชื้อสายจีนปลายๆ แต่เชื้อจีนนั้นไม่ได้ส่งผลกับหน้าตาเธอเลยแม้แต่น้อย หญิงสาวอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มายี่สิบปี คนในบ้านมีกันอยู่สี่คน ประกอบด้วยเธอ ต่อมาคือป่าป๊านนท์ บิดาผู้แสนอบอุ่นและใจดีที่หลังจากมารดาเสียไปเขาก็พบรักใหม่ในเพศเดียวกัน ซึ่งก็คือหม่าม้าณัฐ นนท์กับณัฐเจอกันที่โคราชก่อนจะตัดสินใจย้ายมาอยู่กรุงเทพแล้วเปิดร้านปิ้งย่างสไตล์เกาหลีด้วยกัน และเมื่อไม่กี่ปีก่อนสมาชิกคนที่สี่ของบ้านก็เข้ามา เพลิง…ลูกชายของณัฐ ซึ่งเกิดกับแฟนสาวครั้งสมัยที่เขายังไม่ค้นพบตัวเองแล้วมีลูกขึ้นมาโดยเพิ่งจะมารู้ทีหลัง

เพลิงเป็นหนุ่มตี๋วัยยี่สิบสองปีที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย เขาเป็นคนพูดน้อย น้อยคนที่จะมองออกว่าในใจเขาคิดอะไร นอกเหนือจากเวลาที่ต้องไปเรียนที่คณะสถาปัตยกรรม เพลิงก็จะมาช่วยป๊ากับม้าดูแลธุรกิจปิ้งย่าง ซึ่งก่อนนี้เคยสร้างรายได้ไม่น้อย แต่เมื่อต้องประสบปัญหากับพิษเศรษฐกิจและโรคระบาด ร้านปิ้งย่างที่เคยเป็นรายได้หลักก็กลายเป็นตัวปัญหาที่ทำให้บ้านหลังนี้มีหนี้สิน สุดท้ายเงินเดือนของกุลจิราก็ต้องกลายเป็นรายได้หลักของบ้านหลังนี้ ถึงแม้ว่าตอนนี้เศรษฐกิจจะดีขึ้นมาสักนิดเพราะโรคระบาดหมดไป ลูกค้าเริ่มกลับมามั่นใจที่จะกินข้าวนอกบ้าน ทางร้านก็เริ่มมีรายได้เข้ามาแต่หนี้ก้อนโตก็ยังคงอยู่เหมือนเดิม

เรื่องแบบนี้มันต้องใช้เวลากุลจิรารู้ดี

หญิงสาวได้เงินเดือนจากไทเกอร์เกือบแสนก็จริง…แต่เธอต้องแบ่งเงินเกินครึ่งมาโปะหนี้พร้อมดอกเบี้ยให้ที่บ้าน ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีเรื่องหนึ่งที่ไม่มีใครรู้ เป็นเรื่องที่น้ำท่วมปาก กุลจิราไม่กล้าจะเอ่ยถึงมันกับใครแม้แต่ใบหม่อน เพื่อนสนิทที่เธอได้รู้จักตอนเรียนมหาวิทยาลัย

กุลจิราติดนิสัยตื่นแต่เช้าต่อให้วันนี้ไทเกอร์จะไม่โทรจิก แต่พอนึกขึ้นได้ว่าเมื่อคืนพอกลับถึงบ้านแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนทันที ไม่ได้ส่งข้อความไปบอกเขา หญิงสาวก็รีบคว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดอ่านข้อความ

“เวร…” คำสบถหลุดออกมาจากเรียวปากอวบอิ่มที่กำลังเคี้ยวหมูแดดเดียว เธอกำลังร่วมโต๊ะกินมื้อเช้าอยู่กับป่าป๊า หม่าม้าและน้องชายที่ไม่มีสายเลือดเดียวกันแม้แต่น้อย ป๊ากับม้าเงยหน้าขึ้นมองเธอก่อนจะหันไปสบตากัน มีเพียงเพลิงที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับคำสบถนั้นก้มหน้าก้มตากินมื้อเช้าของตัวเองต่อไป

“มีอะไรหรือเปล่าลูก?” ป่าป๊าเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง ปกติแล้วก็เคยได้ยินลูกสาวเจ้าของใบหน้าหวานและท่าทางหงิมๆ สบถออกมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้เคยได้ยินมันชัดเจนแบบนี้ เขารู้จักลูกสาวดี…เธอคนนี้ถึงภายนอกจะดูไม่มีพิษมีภัย ดูเหมือนถูกรังแกได้ง่าย แต่จริงๆ แล้วเธอก็เป็นคนสู้คน ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถทำงานในวงการบันเทิงมาได้เป็นสิบปี

“เมื่อคืนหวานลืมส่งข้อความบอกไทเกอร์ว่าถึงบ้านแล้ว เขาโกรธใหญ่เลย” ดวงตาคู่สวยไล่อ่านข้อความยาวเหยียดที่คุณซุปตาร์ส่งมาเมื่อคืน มันเริ่มต้นด้วยเขาโมโหมากที่เธอไม่ยอมทำตามที่พูด กับแค่ส่งข้อความมาบอกเขาว่าถึงบ้านแล้วมันยากมากนึกหรือยังไง ทั้งๆ ที่เขาก็บอกแล้วว่าถ้าไม่ได้รับข้อความจากเธอก็จะทำให้เป็นห่วงจนนอนไม่หลับ เธอน่ะใส่ใจเขาแต่เรื่องงานเท่านั้น ความรู้สึกของเขาเธอไม่เคยแคร์ นี่ถ้าหากว่าเขาไม่โทรไปถามพี่เวชคนรถ ก็คงไม่รู้ว่าเธอถึงบ้านอย่างปลอดภัยดี แล้วก็คงไม่ได้นอนทั้งคืน

“ไทเกอร์คงเป็นห่วงลูก ม้าว่าลูกโทรไปง้อเขาหน่อยก็ดีนะ” หม่าม้าณัฐไม่เคยบอกลูกสาวว่าเขานั้นแอบเชียร์ให้เธอได้ตกลงปลงใจกับซุปตาร์หนุ่มมาหลายปีแล้ว เขาน่ะซื้อหวยไม่เคยถูก แต่ถ้าเล็งใครให้คู่กับใครล่ะก็…ไม่เคยพลาด

“ผู้ชายขี้งอนแม่งน่ารำคาญ” เป็นเพลิงที่เอ่ยออกมาแบบนั้น “ผมอิ่มแล้ว ไปเรียนก่อนนะป๊า หม้า เจ้หวานหวัดดีครับ” ลุกออกจากโต๊ะกลมไม้สักพร้อมกับยกมือไหว้คนโตกว่าในบ้านแล้วคว้าเอากระเป๋าขึ้นสายจากนั้นก็เดินออกไป

“แต่ม้าว่าผู้ชายขี้งอนน่ะน่ารักออก ผู้ชายน่ะ…ถ้าไม่แคร์เขาก็ไม่งอนหรอกนะ”

“ป๊าว่าลูกรีบกินให้เสร็จแล้วขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวดีกว่า เดี๋ยวป๊าขับรถไปส่งที่บ้านไทเกอร์”

“เดี๋ยวม้าจะเอาหมูแดดเดียวใส่กล่องไปฝากเขาด้วย เอาของกินอร่อยไปง้อ เขาจะได้หายงอนเร็วๆ”

กุลจิราได้แต่มองดูหม่าม้าลุกไปหยิบกล่องถนอมอาหารมาใส่หมูแดดเดียว ถอนหายใจพรืดใหญ่…ต่อให้เป็นเนื้อชั้นดีจากสวรรค์ก็ง้อไทเกอร์ไม่ได้ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอผิดคำพูด ไม่ใช่ครั้งที่สองที่เธอเผลอหลับจนลืมส่งข้อความบอกเขา แต่มันมากกว่าห้าครั้งแล้ว ไทเกอร์ไม่ใช่คนขี้ใจน้อย แต่หากลองได้งอนแล้ว…ก็ต้องง้อกันอยู่หลายวัน

ให้ไวเลยน้ำหวาน มีคนขี้งอนรออยู่

ว่าแต่จะได้งอนหรือเปล่าน้า?

คิกคิก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel