พ่อครู : 5
"ตาฝาดเหรอ"
เธอมั่นใจว่าเห็นผู้หญิงเดินเข้ามาในร้านจริง ๆ แต่พอทบทวนดูดี ๆ เมื่อครู่ไม่มีเสียงกระดิ่งดัง เธอคงทำงานเหนื่อยเลยตาฝาด ส่ายหัวไปมาแล้วเดินมาเก็บแก้วกาแฟที่ลูกค้าโต๊ะสุดท้ายทานเอาไว้
เพล้ง!
ถ้วยกาแฟในถาดหลุดมือแตกกระจาย เมื่อครู่วันใหม่รู้สึกเหมือนมีใครปัดถาดนั้นให้หลุดมือ
ฉึก!
"ซี๊ด..."
เดินไปหยิบไม้กวาดเพื่อมาเก็บเศษแก้ว แต่เท้าดันไปเหยียบแก้วชิ้นหนึ่งจนโผล่พื้นรองเท้าเรียกเลือดซึมออกมา
"ซวยอะไรเนี่ย"
วันใหม่ยกขาข้างที่บาดเจ็บขึ้น กระโดดขาเดียวไปนั่งเก้าอี้ตัวที่ใกล้เพื่อดูบาดแผล โชคดีที่พื้นรองเท้าเธอหนาปลายคมของเศษแก้วจึงทิ่มฝ่าเท้าเล็กน้อยไม่ได้ปักคา มือแน่งน้อยหยิบทิชชู่มาซับเลือดออกลวก ๆ เธอไม่ระวังเลือดจึงไปโดนกำไลที่ข้อมือ
"เฮ้ย!"
วันใหม่ตกใจเมื่อกำไลที่ใส่มาเป็นยี่สิบปีหลุดออกจากข้อแขน เธอรีบก้มลงไปหยิบกำไลนั้นขึ้นมาแต่จู่ ๆ เกิดหายใจไม่ออกเหมือนมีอะไรบีบที่คอ
"ช่...วย ด้..วย"
วันใหม่มองผ่านกระจกร้านเผื่อมีใครเดินผ่านมาจะได้ขอความช่วยเหลือ แต่สิ่งที่เธอเห็นผ่านกระจกใสนั้นกลับมีผู้หญิงคนหนึ่งเห็นหน้าไม่ชัดกำลังบีบคอเธอ
หมับ!
วันใหม่ฝืนเอื้อมหยิบกำไลประคำที่พื้น สวมใส่กลับเข้าข้อมือเธออย่างทุลักทุเล
เฮือก~
ทันทีที่กำไลนั้นกลับสู่ที่เดิม ร่างกายที่หนักอึ้ง ลมหายใจที่เกือบขาดห่วงก็กลับมาเป็นปกติอีกครั้ง รวมถึงผู้หญิงที่เธอเห็นในกระจกเมื่อครู่ก็หายไปราวไม่เคยมีมาก่อน
"ตาฝาด วันใหม่แกแค่ตาฝาดไป"
ปลอบใจตัวเองเสร็จก็กัดฟันเดินเข้าไปห้องด้านหลังร้านเพื่อทำแผลที่เท้า ค่อยออกมาเตรียมไปส่งออเดอร์น้ำที่ใยฝ้ายโทรมาสั่ง
มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง
วันใหม่ขับรถยนต์จากอีกฝั่งเพื่อมาส่งกาแฟให้ใยฝ้ายที่มหาวิทยาลัยฝั่งตรงข้าม รอไม่นานลูกค้าประจำก็เดินออกมารับออเดอร์ของเธอ
"มาคนเดียวเหรอ"
วันใหม่มองกาแฟแยกน้ำแข็งสิบกว่าแก้ว เค้กอีกยี่สิบชิ้นที่อยู่เบาะหลังสลับมองหาคนที่จะมาช่วยใยฝ้ายหิ้วของ
"เพื่อน ๆ เร่งงานกันอยู่ นี่ก็สามทุ่มแล้วฝ้ายเลยแวบมาคนเดียว"
วันใหม่พยักหน้าเข้าใจ แต่ก่อนตอนที่เรียนมหาลัยเธอก็มีช่วงเวลาแสนวุ่นวายนี้เหมือนกัน
"งั้นพี่ช่วยถือไปส่ง"
วันใหม่หยิบหมวกแก๊ปสวมบนศีรษะ เธอจำคำเตือนของมารดาที่ว่า หากต้องอยู่กลางแจ้งในเวลากลางคืนห้ามยืนอยู่ใต้แสงจันทร์โดยไม่มีอะไรปกคลุมร่างกายโดยเฉพาะศีรษะเด็ดขาด
"ขอบคุณค่ะ พี่วันใหม่น่ารักที่สุดเลย"
ใยฝ้ายยิ้มหวานจนตาหยีให้พี่สาวที่นับถือ ก่อนที่ทั้งสองจะช่วยกันหิ้วของพะรุงพะรังขึ้นไปบนตึกนิเทศศาสตร์
ฟิ้ว~
หลังจากส่งออเดอร์ให้ลูกค้าเรียบร้อยแล้ว วันใหม่ก็เดินลงจากตึกคนเดียว จู่ ๆ ลมก็พัดมาอย่างแรงจนหมวกที่สวมอยู่ปลิวไปตกอยู่หน้ารถที่จอดไว้ไม่ไกล
"ไม่เป็นไรมั้ง"
เธอมองท้องฟ้าที่มีก้อนเมฆบดบังดวงจันทร์ไว้แล้วรีบเดินกลับไปยังรถที่จอดอยู่เพื่อก้มเก็บหมวก นาทีนั้น จู่ ๆ เมฆที่บดบังพระจันทร์เอาไว้ก็เคลื่อนคล้อยหายไปอย่างรวดเร็ว ท้องฟ้าปรากฎดวงจันทร์กลมโตในคืนวันขึ้น15 ค่ำ ลอยเด่นด้านบน แสงจันทร์นวลสาดส่องลงมาให้ความสว่างไสวทั่วพื้นดิน
วันใหม่ยืนตัวแข็งทื่ออยู่ท่ามกลางพระจันทร์กลมโต ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเบิกกว้างเมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งอยู่ในรถที่เธอล็อกเอาไว้
วันใหม่คิดว่าตัวเองตาฟาด ทว่ายามที่เธอกะพริบตา เงาร่างนั้นกลับหายไปจากในรถแล้วโผล่มายืนหน้ารถแทนเธอแทน
กะพริบอีกครั้ง...
ผู้หญิงคนนั้นขยับเข้ามาใกล้ขึ้นวันใหม่มากขึ้น
กะพริบอีกหน...
ร่างที่ไร้เงาอยู่ห่างเข้ามาแค่เอื้อม
วันใหม่เริ่มมองเห็นใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นเลือนลาง จากนั้นไม่นานใบหน้าที่มองไม่ชัด ค่อย ๆ ชัดขึ้น...ชั้นขึ้น ปรากฎดวงตาขาวโพลนปราศจากตาดำ
ความเย็นเยียบแทรกซึมเข้ากระดูกสันหลัง วันใหม่รู้สึกเหมือนอากาศรอบตัวถูกดูดหายไปจนหายใจไม่ออก และทันทีที่กะพริบตาครั้งสุดท้าย ใบหน้าที่ไร้ดวงตาปรากฏตรงหน้าเธอระยะหายใจรดกัน
“กรี๊ด!”
เสียงกรีดร้องของวันใหม่ดังก้องไปทั่วความมืด ก่อนที่สติเธอจะดับวูบลงทันใด
