25. ประทับใจเข้าไปอีก
ฝนทิพย์ รู้สึกตื่นเต้นเมื่อมาถึงบ้านของต้นกล้า บริเวณบ้านของเขาเป็นบ้านไม้สักทั้งหลังที่ปลูกเป็นแบบเรือนไทยสมัยโบราณ มีใต้ถุนสูง แต่ก็ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สมัยใหม่ รอบบริเวณมีต้นไม้เขียวครึ้มอยู่เต็มไปหมด ทำให้บ้านดูร่มรื่นน่าอยู่อาศัย สมาชิกที่อยู่ในบ้านเป็นหญิงชราท่าทางใจดี
“พ่อคุณของยาย คิดถึงเหลือเกิน”
ยายทับทิมกอดหลานชายน้ำหูน้ำตาไหล หอมซ้ายหอมขวาจนหนำใจก่อนจะหันมารับไหว้หญิงสาวที่มาด้วย ฝนทิพย์สัมผัสได้ถึงแววตาเมตตาของคุณยายทับทิม
“แฟนเอ็งรึ ชื่ออะไรจ๊ะยายหนู”
ยายทับทิมหันมาถามฝนทิพย์ด้วยความเอ็นดู
“หนูชื่อฝนค่ะคุณยาย”
ฝนทิพย์ ตอบด้วยความขวยเขินที่ยายทับทิมคิดว่าเธอเป็นคู่รักของต้นกล้า ปากอยากจะปฏิเสธว่าไม่ใช่ แต่ใจสั่งไม่ให้พูด ยิ่งเห็นต้นกล้าไม่ได้ปฏิเสธความเข้าใจผิดของยายทับทิมด้วยแล้ว เธอก็เลยปล่อยเลยตามเลย
“ยายครับ แล้วน้าดาล่ะครับ”
“ยังไม่เลิกจากที่ทำงาน..แล้วนี่ไม่ได้บอกให้น้าเขารู้ล่ะสิว่าจะมา”
“ไม่ได้บอกครับ กะว่าจะมาเซอร์ไพรส์ไงครับ”
“น้าดากลับมาถึงบ้านเห็นหลานคงดีใจใหญ่”
ยายทับทิม บอกพร้อมกับพาทั้งสองเดินเข้าไปในบ้านหาของว่างมาให้กินเล่น
ชนิดา น้าสาวของต้นกล้า ทำงานเป็นเภสัชกรอยู่ที่โรงพยาบาล เธอเป็นน้องสาวคนเดียวของคุณชดช้อย และชนิดายังคงครองความโสดอย่างเหนียวแน่นมาได้สี่สิบห้าปี
ต้นกล้า อาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้มาตั้งแต่เกิด นอกจากมารดาแล้ว เขาก็ได้คุณยายทับทิมและน้าสาวที่ช่วยกันเลี้ยงดูมา ส่วนบิดาของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เขาอยู่ในท้องของคุณชดช้อย เขาจึงไม่มีโอกาสได้เห็นหน้าบิดา จะมีก็เพียงรูปถ่ายเท่านั้น
ต้นกล้า ได้รับรู้จากมารดาว่าบิดาทำงานเป็นแพทย์อยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกับมารดา สาเหตุที่บิดาเสียชีวิตก็เพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่บิดาของเขาเดินทางไปเป็นแพทย์อาสาถิ่นทุรกันดาร เขาจึงรู้สึกภาคภูมิใจทุกครั้งที่มารดาของเขาเล่าประวัติชีวิตของบิดาให้ฟัง
ชนิดา ขับรถเก๋งเข้ามาในบ้านก็รู้สึกแปลกใจที่เห็นมีรถจอดอยู่ในบริเวณบ้าน เธอลงจากรถจึงสอดส่ายสายตาหาเจ้าของรถว่าเป็นใครกันแน่
“แม่..นี่รถใครจ๊ะ”
“รถของหนูฝน” ยายทับทิมบอกกับลูกสาว
“ฝน..ใครกัน หนูรู้จักหรือเปล่า”
“แฟนพ่อต้นเขาน่ะสิ ต้นกล้าพามารู้จัก”
“อ๊าย...หลานต้นกลับมาเยี่ยมบ้านเหรอแม่ ไม่เห็นบอกเลยว่าจะมา หนูตั้งใจว่าวันหยุดนี้จะไปเซอร์ไพรส์หลานที่กรุงเทพฯ ไม่คิดว่าเจ้าหลานรักจะมาเซอร์ไพรส์ซะเอง”
ชนิดา ตื่นเต้นรีบเรียกชื่อหาหลานชายคนโปรดในบ้าน
“ว้าว...หลานรักของน้า เซอร์ไพรส์สุด ๆ”
ชนิดาส่งเสียงดังลั่นบ้าน โผเข้าสวมกอดต้นกล้าด้วยความดีใจพร้อมกับหอมซ้ายหอมขวาเหมือนที่ยายทับทิมทำ จนต้นกล้าแก้มแทบจะช้ำ
“น้าดา ทำเหมือนผมเป็นเด็กอยู่เลยนะครับเนี่ย”
ต้นกล้า กล่าวสัพยอกน้าสาวพร้อมกับหันไปยิ้มเขิน ๆ ให้กับฝนทิพย์ด้วย
“โทษที น้าลืมตัว คิดว่าหลานยังเป็นเด็กน้อยของน้าอยู่ทุกทีจนลืมไปว่าหลานโตเป็นหนุ่มจนมีแฟนแล้ว”
ชนิดา ยอมปล่อยมือจากหลานชาย หันไปยิ้มให้กับฝนทิพย์ ที่กำลังมองน้าสาวของต้นกล้าแสดงความรักกับหลานด้วยความรู้สึกถึงความรักความอบอุ่นของคนในครอบครัวนี้
“สวัสดีค่ะคุณน้า”
ฝนทิพย์ รีบยกมือไหว้แม้จะยังไม่ได้รับการแนะนำ
“นี่หนูฝน แฟนหลานต้นใช่ไหมจ๊ะ ยินดีต้อนรับจ้า”
ชนิดา หันมารับไหว้ พร้อมกับเดินไปโอบกอดฝนทิพย์เป็นการทักทายอย่างเป็นกันเอง
“น้าดารู้จักชื่อคุณฝนได้ไงครับ ผมยังไม่ทันบอกเลย”
ต้นกล้าทำหน้างง ๆ แต่พอเห็นคุณยายทับทิม เดินยิ้มเข้ามา เขาก็พอที่จะเดาออกได้ทันที และคิดว่ายายของเขาก็คงจะคิดว่าฝนทิพย์ เป็นคนรักของเขานั่นเอง
“คุณยายบอกว่าหลานพาแฟนมาเยี่ยมจ๊ะ”
ชนิดา บอกด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ฝนทิพย์ยิ้มขวยเขิน แต่ก็ไม่ยอมที่จะแก้ไขความเข้าใจผิดด้วยการบอกกล่าวว่าตนไม่ใช่คนรักของต้นกล้า หากต้นกล้าไม่เป็นคนบอกเสียเอง เธอก็ไม่คิดจะพูด เพราะใจอยากจะให้เป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว
“ว่าแต่หนูฝนรู้จักกับนายต้นที่เมืองไทยหรือรู้จักกันตั้งแต่อยู่ที่อเมริกาจ๊ะ”
ชนิดา หันมาถามฝนทิพย์
“ที่เมืองไทยครับ คุณฝนพักอยู่คอนโดเดียวกับต้นเองครับ แต่ตอนนี้น้าดาอย่าเพิ่งซักคุณฝนเลยครับ ผมว่าเรามาคิดเมนูอาหารสำหรับเย็นนี้ดีกว่า”
ต้นกล้า รีบหันเหความสนใจของน้าสาวไปทางอื่นเพื่อไม่ให้ฝนทิพย์ต้องอึดอัดในการตอบคำถาม และเขาก็ไม่อยากจะเปิดเผยว่าเขาเพิ่งจะรู้จักกับฝนทิพย์เมื่อไม่นานนี้เอง
“ได้เลยหลานรัก...”
“อยากกินอะไรกันล่ะ ยายจะทำให้กิน”
ยายทับทิม เสนอตัวอย่างเต็มใจ
“แต่หนูว่า วันนี้แม่ไม่ต้องทำหรอก ปล่อยให้ต้นทำดีกว่าอุตส่าห์ได้แชมป์อาหารมาก็ต้องโชว์ฝีมือให้ยายกับน้าได้ชิมบ้างสิ”
ชนิดาพูดสัพยอกหลานชาย
“ได้เลยคร้าบคุณน้า..ว่าแต่คุณยายกับน้าดา อยากกินอะไร”
“หลานทำอะไรให้กินก็กินได้หมดแหละ” ยายทับทิมบอก
“ใช่ ตามนั้น” ชนิดาบอกบ้าง
ต้นกล้า ชวนฝนทิพย์ไปตลาดสด ซึ่งถือเป็นประสบการณ์ครั้งแรกในชีวิตของฝนทิพย์เลยก็ว่าได้ที่มีโอกาสไปจ่ายตลาดแบบนี้ เพราะโดยปกติแล้วที่บ้านอยุธยาของฝนทิพย์จะมีพิกุลทำหน้าที่นี้อยู่แล้ว รวมไปถึงงานบ้านงานครัวทุกอย่าง ฝนทิพย์ก็แทบไม่ต้องทำอะไรเลย
แต่เมื่อต้องมาอยู่ห้องชุดที่กรุงเทพฯ ก็จำเป็นต้องทำงานบ้านเอง ซึ่งก็ไม่ได้ลำบากอะไรนักแค่กวาดเช็ดถูเท่านั้น เสื้อผ้าก็ลงไปหยอดเหรียญที่ใต้ตึก ส่วนอาหารการกินก็ฝากท้องไว้กับร้านอาหารเป็นส่วนใหญ่ นาน ๆ ครั้งก็จะมีต้มมาม่า เองบ้าง
ชีวิตของฝนทิพย์ จึงห่างไกลจากคำว่าทำอาหารได้
ต้นกล้า บอกกับฝนทิพย์ว่าเขาจะต้องถ่ายวีดีโอจากมือถือในช่วงที่ไปจ่ายตลาดด้วย
“ถ้าคุณต้นเดินเลือกซื้อของด้วย ถ่ายไปด้วยจะไม่สะดวกนะคะ ให้ฝนช่วยถ่ายให้ไหมคะ”
ฝนทิพย์ รีบอาสาที่จะช่วย
“โอ..ด้วยความยินดีครับ ถ้าไม่เป็นการรบกวนคุณฝน”
“อุ๊ย! สบายมากค่ะ ว่าแต่คุณต้นจะเชื่อมือของฝนหรือเปล่าเท่านั้นเองค่ะ”
“ไม่มีปัญหาครับ แค่ให้มือนิ่ง ๆ ตอนถ่ายก็ใช้ได้ แต่มือถือเครื่องนี้คุณภาพในการถ่ายดีอยู่แล้วครับ กันการสั่นสะเทือนของภาพได้”
ต้นกล้า ยื่นมือถือของเขาส่งให้หญิงสาว พร้อมกับบอกวิธีใช้งานและวิธีถ่ายภาพต่าง ๆ ในขณะที่เขาจะซื้อของในตลาดด้วย
ฝนทิพย์ รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อชายหนุ่มที่ตนหลงชอบอยู่นี้ มายืนใกล้ชิดจนได้กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ฝนทิพย์เผลอสูดกลิ่นกายชายหนุ่มอย่างมีความสุข แทบจะลืมตั้งใจฟังที่เขาอธิบายมา
“เข้าใจวิธีใช้แล้วใช่ไหมครับ”
“เอ้อ...อธิบายอีกรอบก็ได้ค่ะ พอดีฝนยังรู้สึกงงนิดหน่อย”
ฝนทิพย์ แกล้งทำท่างงไปอย่างนั้นเอง เพราะอยากจะได้ยืนใกล้ชิดเขาให้นานขึ้นนั่นเอง ขออย่าให้เขาจับได้ก็แล้วกัน
ฝนทิพย์ เริ่มที่จะสนุกกับการถ่ายภาพของต้นกล้าที่กำลังเดินไปเลือกซื้ออาหารสดในตลาด เขาช่างเป็นชายหนุ่มที่มีเสน่ห์จนไม่อยากจะละสายตาในการมองเขาเลย
“คุณฝนครับ ไม่ต้องเน้นถ่ายผมก็ได้ครับ เดี๋ยวผมจะเลือกซื้อปลา รบกวนคุณฝนช่วยเน้นถ่ายที่ปลาด้วยนะครับ”
“ออ..ดะ ได้ ได้ค่ะ”
ฝนทิพย์ รู้สึกเหมือนถูกจับได้ว่าตนสนใจเขาเกินไปหรือเปล่านะ ต่อไปนี้เห็นทีจะต้องตั้งสติให้มากกว่านี้เสียแล้ว
“คุณฝนอยากจะทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่าครับ”
“อะไรก็ได้ค่ะ ฝนทานได้ทุกอย่าง อุ๊ย..หยุดถ่ายก่อนไหมคะ มีเสียงเราคุยกัน”
“ไม่เป็นไรครับ ผมจะต้องตัดต่อคลิปอยู่แล้ว คุณฝนคุยได้ปกติครับ”
“ออ..ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นอาหารมื้อเย็นก็ควรจะเป็นอาหารที่ย่อยง่าย ผมขอเลือกเป็นปลานึ่ง แล้วก็ต้มจืดกับผัดผักก็แล้วกัน”
ต้นกล้า เดินนำไปดูอาหารสดต่าง ๆ เขาเลือกปลาด้วยความชำนาญโดยการกดเบา ๆ
“ต้องกดด้วยหรือคะ”
ฝนทิพย์ อดถามไม่ได้
“ใช่ครับ เป็นการทดสอบความสดของปลา”
“ถ้าต้องการสด ๆ ก็เลือกปลาที่ยังไม่ตายก็ได้นี่คะ โน่นไงคะ” ฝนทิพย์ ชี้ประกอบให้ดูปลาที่ยังไม่ตาย
“ผมยังไม่กล้าพอที่จะสั่งปลาเป็น ๆ ให้เขาสับให้น่ะครับเพื่อความสบายใจในการกิน ขอปลาที่ตายแล้วดีกว่าครับ”
“ว้าว...พ่อพระ ช่างเป็นคำตอบที่น่าประทับใจซะจริง”
ฝนทิพย์ อุทานอยู่ในใจ ไม่กล้าพูดออกมา เวลานี้เธอกำลังรู้สึกว่าจะหลงรักผู้ชายคนนี้มากขึ้นอีกแล้ว ยังไงก็ต้องสงวนท่าทีตัวเองเอาไว้ให้ได้ กลัวจะแสดงออกนอกหน้าอยู่เหมือนกัน
“แล้วจะดูปลาที่สดใหม่ได้ยังไงคะ”
“การจะดูว่าปลาสดเนื้อแน่นหรือเปล่า เวลากดลงไป รอยบุ๋มจะกลับคืนและเรียบเหมือนเดิมครับ แล้วก็ดูที่ตาของปลาด้วย ปลาที่สดใหม่จะโปนออกมาแล้วก็ใสด้วย ถ้าเอานิ้วกดลูกตาของปลาก็จะต้องไม่บุ๋มลงไป จะกลับคืนเหมือนเดิม”
ต้นกล้า อธิบายในขณะที่เขากดลูกตาปลาเพื่อทดสอบความสดของปลาที่จะซื้อไปด้วย ฝนทิพย์ ซูมภาพเข้าไปให้เห็นภาพที่เขากำลังกดอยู่ที่ตัวปลา
“แต่ถ้าเป็นปลาที่มีเกร็ด เกร็ดต้องเป็นเงาขอดออกยาก และเหงือกปลาต้องแดงสดไม่แห้งจึงจะดีครับ”
ฝนทิพย์ ได้ความรู้เรื่องการเลือกปลาสดไปหนึ่งอย่าง จากนั้นต้นกล้าก็พาเดินไปเลือกซื้อผักต่าง ๆ เขาไม่ยอมให้ฝนทิพย์ ช่วยหิ้วของเลย แม้จะหยุดการถ่ายภาพแล้ว และฝนทิพย์จะขออาสาช่วยหิ้ว
“ไม่เป็นไรครับ ผมยังไหวอยู่”
ฝนทิพย์ ร้องว้าวในใจ “พ่อสุภาพบุรุษสุดน่ารักของฉ้าน”
