24. อยากไปด้วย
“นิดเป็นเพื่อนคนบ้านเดียวกันกับผมครับ เราสนิทกันมาตั้งแต่เรียนมัธยม ความจริงก็มีเพื่อนที่สนิทในกลุ่มอีกสองคนคือเก๋กับอาร์ต คนที่คุณฝนเคยเห็นที่ห้องผมไงครับ”
คำพูดของต้นกล้าทำให้ฝนทิพย์ นึกไปถึงการพบกันครั้งแรกที่ไม่น่าประทับใจเอาเสียเลย อุตส่าห์ลืมภาพความไม่น่ารักของตัวเองไปแล้วเชียว
“ฝนต้องขอโทษด้วยค่ะที่วันนั้นใจร้อนไปหน่อย ขึ้นไปโวยวายจนเพื่อนคุณต้นตกใจกันไปหมด”
“ผมเข้าใจครับ ดีเสียอีกผมจะได้รู้ตัวว่าไม่ควรทำเสียงดังรบกวนผู้อื่น นี่คุณฝนชอบทานข้าวต้มกุ้งเหรอครับ”
เขาเปลี่ยนเรื่องคุย
“ก็ทานได้ค่ะ ไม่ถึงกับชอบมาก”
“เอาไว้วันหลังผมจะทำข้าวต้มเห็ดหอมไปฝากนะครับ”
“จริงเหรอคะ..ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ”
เธอดีใจแววตาเต้นระริก แต่พอนึกถึงหน้าคนชื่อนิษฐาขึ้นมาก็ห่อเหี่ยวลงทันใด ถึงแม้ว่าเขาจะบอกว่าเป็นเพื่อนคนบ้านเดียวกัน แต่ก็มีโอกาสเป็นแฟนกันได้นี่นา
“คุณฝนอยู่ที่นี่นานแล้วเหรอครับ”
เขาถามต่อ เมื่อเห็นว่าท่าทางฝนทิพย์เหมือนจะเงียบไป เขายอมรับว่าถูกชะตากับฝนทิพย์ อยากจะทำความรู้จัก
“ก็ประมาณสี่ปีค่ะ”
“งั้นก็คงคุ้นเคยกับแถวนี้ ไม่ทราบว่าในละแวกนี้มีรถเก๋งให้เช่าหรือเปล่าครับ”
“เอ..ไม่น่ามีนะคะ..คุณต้นจะเช่ารถหรือคะ”
“ครับ..ผมจะไปเพชรบุรีน่ะครับ”
ฝนทิพย์ตาโต นึกถึงคำพูดของชมพู่ที่โทรชวนเธอไปเที่ยวเมืองเพชรอยู่พอดี
“ฝนก็กำลังจะไปหาเพื่อนที่นั่นพอดีเลยค่ะ”
พูดไปแล้วก็รู้สึกตกใจ ไม่น่าเผลอตัวเปิดโอกาสให้ผู้ชายขนาดนี้เลย
“เพื่อนคุณฝนเป็นคนเมืองเพชรหรือครับ”
“เปล่าค่ะ ชมพู่ไปเที่ยวเพชรบุรีกับครอบครัวน่ะค่ะ แต่เธอโทรมาชวนฝนไปเที่ยวด้วย”
“ถ้าคุณฝนไม่รังเกียจ ติดรถไปกับผมได้ครับ ถ้าผมได้รถเช่าแล้วจะขับไปเอง บ้านผมอยู่ที่นั่นครับ”
กรี๊ด! นี่เขาชวนฝนทิพย์ไปเที่ยวด้วยหรือเนี่ย ปฏิเสธก็บ้าแล้วจะปล่อยโอกาสทองนี้ให้หลุดลอยไปได้อย่างไร แต่จะรีบรับปากในทันใดก็เกรงว่าจะดูไม่งามตามที่แม่เคยสอนไว้ก็ต้องระงับความดี๊ด้าเอาไว้ไม่ให้เขาเห็น
“แล้วมีใครไปบ้างล่ะคะ เอ้อ..คุณนิดไปด้วยหรือเปล่า”
ถามไปแล้วก็ใจคอไม่ดี กลัวเขาจะตอบมาว่าไปด้วย แต่ก็ไม่เป็นไรหรอก ดีเสียอีก จะได้รู้ได้เห็นกับตาว่าเขากับนิษฐา เป็นเพื่อนหรือแฟนกันแน่เพื่อจะได้ตัดสินใจว่าจะไปต่อหรือพอแค่นี้
“ผมไปคนเดียวครับ”
ทำไมถึงได้โล่งอกกับคำตอบของเขาด้วยก็ไม่รู้ จนอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้
“น่าจะชวนคุณนิดไปด้วย ไหนว่าเป็นคนบ้านเดียวกันกับคุณต้นไม่ใช่หรือคะ”
“งั้น...ขอคิดดูก่อนครับ แต่ถ้าไม่มีนิดไปด้วย คุณฝนคงไม่รังเกียจที่จะร่วมเดินทางไปกับผมใช่ไหมครับ”
เขาชวนอีกเป็นครั้งที่สองแล้วนะเนี่ย ฝนทิพย์ไม่เล่นตัวอีกแล้ว ขืนลีลามากเขาอาจจะเปลี่ยนใจไม่ให้เธอไปด้วยก็ได้
“ว่าไงครับคุณฝน”
เห็นฝนทิพย์มัวแต่ยิ้มเขาก็เลยรีบถามย้ำ
“เอ้อ..ถ้าอย่างนั้นคุณต้นไม่ต้องเช่ารถหรอกค่ะเอารถของฝนไปก็ได้” เธอเป็นฝ่ายเสนอ
“จริงเหรอครับ..ขอบคุณมากครับ”
ต้นกล้า มีน้ำเสียงตื่นเต้น
“แต่คุณต้นเป็นคนขับนะคะ”
“ด้วยความยินดีครับ”
เขาสบตาฝนทิพย์ด้วยแววตาเป็นประกายจะสื่อความหมายว่าเขาชอบฝนทิพย์จะได้ไหมหนอ ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าหัวใจตัวเองกำลังพองโตจนคิดว่าเสื้อชักจะปริ ๆ ด้วยความ
ปลื้มอกปลื้มใจ ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับผู้ชายที่แอบปิ๊งได้รวดเร็วถึงเพียงนี้
...
“ต้นจะไปไหนคะ”
อรอนงค์ รีบถามเมื่อเห็นต้นกล้าแต่งตัวเหมือนจะไปเที่ยว แถมยังหิ้วกระเป๋าเดินทางออกมาจากห้องนอนของเขาด้วยท่าทางมีความสุข
“ผมจะไปต่างจังหวัดสักพัก”
เขาตอบก่อนจะเดินไปหยิบรองเท้าผ้าใบ
“ที่ไหนคะ..ให้อรไปด้วยนะคะ” เธอรีบมาเกาะแขนเขา
“เอ้อ..คงไม่ได้หรอกครับ..ผมไปธุระส่วนตัว”
“อรจะขอไปด้วยค่ะ นะคะ”
อรอนงค์ ทำท่าทีออดอ้อนเข้าไปเกาะแขนเขาไว้
“ไม่เอาน่าอร..ผมบอกแล้วว่าไปธุระ” เขาทำหน้าขรึม
“ก็บอกมาสิคะว่าธุระอะไรที่ไหน แล้วทำไมอรถึงไปด้วยไม่ได้ ต้นใจร้าย..ฮือ ๆ”
อรอนงค์ รีบบีบน้ำตาทันทีเพื่อให้เขาใจอ่อน
“ต้น..จะไปไหนเหรอ”
นิษฐา ออกมาจากห้องน้ำเพราะได้ยินเสียงของอรอนงค์
“ผมจะไปต่างจังหวัดน่ะ” เขาหันไปบอกนิษฐา
“ที่ไหนคะ”
“เอ้อ...เพชรบุรี” เขาไม่กล้าโกหกนิษฐา
“ไปกี่วันคะ” นิษฐา ถามต่อ
“ยังไม่แน่ อาจจะสองสามวัน หรือมากกว่านั้น”
“งั้นให้นิดไปเป็นเพื่อนนะ..นิดก็อยากจะกลับไปเยี่ยมบ้านเหมือนกัน”
นิษฐา บอกด้วยความกระตือรือร้น แต่ต้นกล้าทำหน้าเหมือนกำลังอึดอัดใจ
“ถ้ายัยนิดไปได้ ต้นก็ต้องให้อรไปด้วยค่ะ”
อรอนงค์ บอกด้วยน้ำเสียงเข้ม
“ฟังนะครับนิด อรด้วย ถ้าคุณสองคนไปด้วยก็จะต้องทะเลาะกัน เอาเป็นว่าคุณสองคนอยู่ที่นี่แหละ ปรับความเข้าใจกันแล้วก็เลิกทะเลาะกัน ถ้าผมกลับมาก็หวังว่าคุณสองคนคงจะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันแล้วนะครับ ออ..นิดผมฝากห้องและฝากดูแลอรด้วยนะครับ”
ต้นกล้า หันไปบอกกับนิษฐา จากนั้นก็รีบคว้ากระเป๋าออกจากห้องไปทันที โดยที่สองสาวเองก็ไม่มีโอกาสได้พูดต่อ
“เป็นเพราะเธอคนเดียว ต้นถึงรีบไปต่างจังหวัดแบบนี้”
อรอนงค์ หันมาเล่นงานนิษฐาทันทีหลังจากที่ต้นกล้าออกไปจากห้องแล้ว
“แต่ที่ต้นเขาหนีไปก็เพราะกลัวว่าคุณจะทำมิดีมิร้ายเขามากกว่า ไม่รู้ตัวรึไง”
นิษฐา ย้อนด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน อรอนงค์หน้าแดงด้วยความโกรธ
“ฉันไม่ได้ทำอย่างที่หล่อนว่า”
“ฉันเห็นกับตาว่าคุณเข้าปลุกปล้ำต้น ยังจะมาบอกว่าไม่ได้ทำอีกหรือ”
“รู้ได้ยังไงว่าฉันปล้ำต้น ถ้าฉันจะบอกว่าต้นเป็นฝ่ายปล้ำฉันล่ะ” อรอนงค์ เลิกคิ้วถาม
“คนอย่างต้นไม่มีวันทำอย่างนั้น ฉันรู้จักเขาดี มีแต่คุณน่ะแหล่ะจ้องที่จะเขมือบเขา”
“แล้วเธอล่ะไม่ได้คิดที่จะเขมือบเขางั้นเหรอ อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทันนะ แววตาของเธอที่มองเขามันก็ไม่ได้ต่างจากฉันนักหรอก ไอ้พวกปากบอกไม่แต่ใจคิดน่ะเรียกว่าดัดจริต แต่ฉันแสดงออกอย่างเปิดเผย โปร่งใสไม่แอ๊ป”
นิษฐา โกรธจนหน้าแดงที่อีกฝ่ายพูดจี้จุด เธอจึงกระฟัดกระเฟียดเดินเข้าห้องไปทันที
“รับฟังความจริงไม่ได้ล่ะซี้ ถึงต้องเดินหนีไป”
อรอนงค์ พูดไล่หลังด้วยความสะใจ
“ฉันไม่อยากจะลดตัวไปทะเลาะด้วยต่างหาก”
นิษฐา เอี้ยวตัวมาพูด
“ก็ดี ฉันก็ไม่อยู่ทะเลาะกับเธอหรอกย่ะ ฉันจะกลับไปค้างกับพี่สาว ส่วนเธอเฝ้าห้องไว้ให้ดีล่ะ แล้วฉันจะกลับมาพร้อมกับต้น”
อรอนงค์ ตะโกนไล่หลัง
...
ฝนทิพย์ โทร.หาชมพู่ในระหว่างที่นั่งรถคู่กับต้นกล้า เสียงชมพู่ ตอบกลับมาว่ากำลังจะออกจากเพชรบุรีเพื่อไปเที่ยวที่อื่นต่อแล้ว
“ฉันอุตส่าห์ตามมาถึงเพชรแล้วเธอยังหนีฉันไปภูเก็ตอีกหรือ ยัยเพื่อนทรยศ” ฝนทิพย์ต่อว่าเพื่อนไม่จริงจัง
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าคุณหญิงจะตามมาเที่ยวด้วย ถ้าจะมาก็น่าจะโทรบอกตั้งแต่เนิ่น ๆ นี่อะไรออกเดินทางแล้วถึงโทรมาบ้าเหรือเปล่ายัยเฉิ่ม” ชมพู่ต่อว่ากลับบ้าง
“ที่ฉันไม่โทรก็คิดว่าเธอยังอยู่ที่เพชรน่ะสิ เห็นบอกว่าจะอยู่อีกสองสามวันนี่นา”
“มันก็จริง แต่พอดีคุณพ่อนัดญาติ ๆ เอาไว้ แล้วก็เลยพากันยกโขยงออกจากเพชรบุรีตั้งแต่เช้ามืดแล้ว แล้วนี่เธอมายังไงขับรถคนเดียวเหรอ” ชมพู่ถาม
“เปล่า..มีเพื่อนมาด้วย”
“ใครวะ..” ชมพู่ถามมาด้วยความอยากรู้
“แล้วจะเล่าให้ฟัง”
ฝนทิพย์ ทำเสียงกระซิบกระซาบเกรงว่าคนขับรถที่นั่งข้าง ๆ จะได้ยินด้วย
“หญิงหรือชาย” ชมพู่ทำเสียงตื่นเต้นอยากรู้
“ชาย” ฝนทิพย์แทบจะกระซิบ
“ว๊าว!..หนุ่มหน้าเกาหลีที่ปิ๊งอยู่หรือเปล่า”
ชมพู่ทำเสียงกระเซ้า
“แค่นี้นะยัยบ๊อง”
ฝนทิพย์ รีบตัดบท เธอหน้าร้อนผ่าวไปหมดแล้ว
“เพื่อนคุณฝนไม่อยู่ที่เพชรแล้วเหรอครับ”
ต้นกล้าถามขึ้น เมื่อฝนทิพย์หยุดการสนทนาทางมือถือ
“ใช่ค่ะ..เสียดายจัง”
“ไม่ต้องเสียดายหรอกครับ ผมเป็นเจ้าถิ่นเมืองเพชรอยู่แล้ว จะพาคุณฝนเที่ยวเอง” เขารับอาสาด้วยความเต็มใจ
“แต่..ฝนไม่อยากจะพักโรงแรมคนเดียวน่ะค่ะ” เธอสารภาพ
“จะพักที่โรงแรมทำไมล่ะครับ พักที่บ้านผมสิครับ..ที่บ้านมีคุณยาย แล้วก็น้าดาอีกคน คุณฝนไม่ต้องกลัวว่าจะต้องนอนคนเดียวหรอกครับ”
ฝนทิพย์ เริ่มลังเลมันทั้งกล้าทั้งกลัว ก็ตั้งแต่เกิดมาจนแตกเนื้อสาวยังไม่เคยไปค้างอ้างแรมกับเพื่อนผู้ชายสักทีนี่นา
แต่ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่เธอกล้ามาก แต่อีกใจก็อยากจะใกล้ชิดรู้จักกับชายหนุ่มที่เธอปิ๊งตั้งแต่แรกพบให้มากกว่านี้
“ไม่ต้องคิดมากหรอกครับ ผมรับรองว่าคุณฝนจะปลอดภัยทุกอย่าง”
ฝนทิพย์ รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดกับถ้อยคำทุ้มหวานของเขา
