เสน่ห์รักนักปรุงรส

161.0K · จบแล้ว
กิ่งพยอม
71
บท
3.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

จุดเริ่มต้นเสียงดังจากห้องข้างบน เป็นเหตุเกิดเรื่องราว หญิงสาวกะว่าจะขึ้นไปด่ากระตุ้นจิตสำนึกให้ระลึกชาติกันไปเลย แต่พอได้เจอหน้ากลับอ้าปากหวอ คำต่อว่าที่คิดไว้หายวับไปในพริบตา ราวกับมีเรด้าร์สกัดต่อมโมโหเอาไว้ได้ เมื่อเจอชายรูปงามที่ตรงสเป๊กประดุจพระเอกละครเกาหลีที่ชื่นชอบอยู่พอดี จนทำให้แข้งขาอ่อนระทวย นึกอยากจะแกล้งล้มทำหัวฟาดพื้นให้เขาเข้ามาประคองไว้ในอ้อมแขนล่ำ ๆ ด้วยซ้ำไป ติดตามการพิชิตใจหนุ่มนักเรียนนอกเชฟสุดหล่อ ที่สาว ๆ เข้ามารุมล้อมอยากเป็นแฟน ต่างก็งัดมารยาหญิงเข้าแย่งชิง แล้วฝนทิพย์ จะติดในโผหรือไม่ แล้วใครจะได้หัวใจชายหนุ่มไปครอบครอง มาช่วยลุ้นกันนะคะ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบัน

1. สุดจะทน

ฝนทิพย์ นับหนึ่งถึงสิบช้า ๆ พยายามระงับสติอารมณ์อย่างยากลำบาก เมื่อต้องทนฟังเสียงวัตถุกระทบกันเสียงดังเป็นจังหวะ อยู่ห้องข้างบน พอนับหนึ่งถึงสิบได้สองจบ เสียงนั้นก็หยุดไปชั่วคราว ทำให้อารมณ์หงุดหงิดไม่พอใจของฝนทิพย์ ค่อยซาลงไปบ้าง แต่เพียงครู่เดียวเท่านั้นเสียงเจ้ากรรมก็ดังขึ้นมาอีกรอบ คราวนี้เปลี่ยนจากเสียงเหมือนตำน้ำพริก เป็นเสียงมีดกระทบเขียง คล้ายกำลังโขลกสับอะไรสักอย่าง

“มันจะต้มยำตำน้ำพริก แข่งขันรายการเซฟกระทะเหล็ก หรือกระทะทองแดง ทำไมต้องมาทำแถวนี้ด้วยวะ ไม่รู้จักเกรงใจกันรึไงโว้ย!”

ฝนทิพย์ แหงนหน้าตะโกนขึ้นไปบนเพดานห้อง แม้รู้ว่าไม่มีทางที่คนอยู่ห้องข้างบนจะได้ยิน เพราะเสียงรบกวนนั้นก็ยังคงดังอยู่เป็นระยะ ๆ

“ให้ตายเถอะ นี่มันกรรมเวรอะไรของฉันเนี่ย ที่ต้องมาอยู่ร่วมตึกกับพวกไร้มารยาท ขาดจิตสำนึกแบบนี้”

ฝนทิพย์บ่น พร้อมกับป้ายดินสอพองที่ผสมน้ำมะนาวพอกหน้าจนหมดก่อนจะลุกจากหน้ากระจกเดินไปหยิบมือถือ เพื่อเปิดดูซีรี่ย์เกาหลี ที่ดูค้างเอาไว้ หวังว่าการได้เห็นหน้าของพระเอกเกาหลี ที่ตนเองกำลังคลั่งไคล้ในช่วงนี้ จะช่วยให้อารมณ์ดีขึ้นมาได้

“อื้ย...หล่อม้ากก...รักนะ จุ๊บ ๆ”

ฝนทิพย์ เปลี่ยนอารมณ์มาสู่โหมดใหม่ จนลืมความขุ่นมัวใจเมื่อสักครู่ได้ในทันใด เธอจ้องมองภาพพระเอกคนโปรด ในมือถือที่กำลังถอดผ้าอาบน้ำด้วยแววตาหวานหยาดเยิ้ม ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ประหนึ่งว่าเป็นคนรักของพระเอกหนุ่มที่คลั่งใคล้

แต่....ก็ต้องสะดุ้งโหยงตื่นจากภวังค์ ราวกับถูกผลักให้ตกจากสวรรค์ อันเนื่องมาจากเสียงคล้ายวัตถุหล่นลงกระทบพื้นเสียงดังตุ๊บ จากห้องข้างบน ก่อนจะมีเสียงสากกระทบกับครกดังโป๊ก ๆ ขึ้นมาอีกรอบ

ฝนทิพย์ จึงเพิ่มเสียงในมือถือให้ดังขึ้นอีก ด้วยหวังว่าจะช่วยกลบเสียงจากห้องข้างบน แต่เธอกลับหงุดหงิดกว่าเดิมเมื่อไม่มีทีท่าว่าเสียงนั้นจะหยุดลงง่าย ๆ เมื่อถูกรบกวนจนหมดอารมณ์ที่จะดูซีรีย์เกาหลีต่อไป เธอจึงเดินออกจากห้องนอนไปยังห้องรับแขกด้านนอกภายในห้องชุดเพื่อเปิดตู้เย็นหาน้ำเย็น ๆ มาดื่มหวังระงับความร้อนรุ่มโมโหในใจให้คลายลง

“อดทนไว้ยัยฝนเอ๊ย ให้โอกาสพวกมันด้วยการนับหนึ่งถึงสิบอีกสักสองเที่ยวก็แล้วกัน ถ้ามันยังตำน้ำพริกสับหมูไม่เลิกล่ะก็ ฮึ่ม! คอยดู๊ ได้เห็นดีแน่ ฉันจะขึ้นไปฉะให้กระจุยเลย”

ฝนทิพย์ เข่นเขี้ยวบอกกับตัวเองด้วยความพยายามที่จะระงับความโมโหเอาไว้

เธอสู้อุตส่าห์อดทนมาได้เกือบครึ่งเดือน ตั้งแต่ทราบว่าห้องข้างบนมีคนย้ายเข้ามาอยู่แล้ว และจากนั้นมาชีวิตอันสงบสุขของเธอในยามว่างที่จะได้นอนดูซีรีย์เกาหลีก็หมดไปทันที เมื่อคนที่เข้ามาอยู่นั้นทำเสียงดังรบกวน คล้ายเสียงโขลกน้ำพริก เสียงสับหมู ทุบกระเทียมประหนึ่งว่ามีมหกรรมการแข่งขันการปรุงอาหารเกิดขึ้นในอาคารชุดแห่งนี้

“เป็นไงเป็นกันสิวะ..ทนมานานแล้ว คราวนี้ขอด่ากระตุ้นจิตสำนึกให้ระลึกชาติกันไปเล้ย”

ฝนทิพย์ หมดความอดทนหลังจากที่นับหนึ่งถึงสิบรอบสองจบลงแล้ว ไม่มีทีท่าว่าเสียงจากข้างบนจะเงียบลง

เธอเดินดุ่มไปคว้ารองเท้ามาสวม พร้อมกับกำมือแน่นเดินตึง ๆ คล้ายนักมวยกำลังย่างสามขุมไปหาคู่ชกบนเวทีโดยไม่ได้มีสติพอที่จะสนใจว่าตัวเองกำลังอยู่ในสภาพที่มีครีมพอกหน้าขาววอกหนาเตอะเห็นแต่ลูกตาและปาก

เธอกดลิฟท์ เพื่อจะขึ้นไปยังห้องชั้นบน แต่ความใจร้อนก็ไม่สามารถที่จะทนรอลิฟท์เปิดได้แม้เพียงนาทีเดียว จึงเปลี่ยนเป็นเดินกึ่งวิ่งไปยังทางที่เป็นบันไดแทน หวังให้ถึงห้องเป้าหมายด้วยอารมณ์เดือดดาลสุดขีด

เมื่อเดินมาถึงชั้นบน ฝนทิพย์ ก็สอดส่ายสายตาหาห้องเป้าหมาย มองซ้ายมองขวาก็ล้วนเห็นมีกุญแจคล้องล็อคไว้ จึงมีห้องที่ตกเป็นผู้ต้องสงสัยเพียงห้องเดียว ที่ไม่เห็นมีกุญแจล็อคไว้ ทำให้มั่นใจว่าต้องเป็นห้องนี้อย่างแน่นอน จึงยกกำปั้นรัวปังปังอย่างไม่มียั้งมือ

เสียงทุบประตูห้องจากด้านนอก ที่ดังสนั่นนั้น ก็ได้ทำให้คนที่อยู่ภายในห้อง ถึงกับสะดุ้งตกใจหันมามองหน้ากันเลิกลัก

“เฮ้ย! ใครมาบุกห้องนายต้นวะ”

อายุธ หนุ่มนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้ายเป็นคนพูดขึ้น

“งั้นปิดกล้องแป๊บหนึ่งก่อนไหม เสียงมันดังเข้ามาเลยนะเนี่ย”

เสาวนีย์ หรือ เก๋ ซึ่งเป็นทั้งเพื่อนและคนรักของอายุธ เป็นคนถามชายหนุ่มเจ้าของห้องที่กำลังทำอาหารอย่างคล่องแคล่วในชุดพ่อครัว โดยมีการตั้งกล้องมือถือบันทึกภาพเอาไว้ด้วยเพื่อนำไปลงในช่องยูทูปของตนเอง

“ไม่ต้องปิดหรอก เดี๋ยวเอาไว้ตัดต่อเอา”

ต้นกล้า หรือ “ต้น” ชายหนุ่มเจ้าของห้องบอก พร้อมกับหันไปคลุกเคล้าอาหารให้เข้ากัน โดยขอให้เพื่อนหนึ่งในสามคนเป็นคนช่วยไปดูให้ที่ด้านหน้าประตูว่าเสียงเคาะประตูนั้นมาจากที่ใดกันแน่

“ฉันเป็นคนไปดูให้เอง”

อายุธ เป็นคนอาสา แต่สองสาว คือ ทั้งเสาวนีย์ แฟนสาวของอายุธ กับนิษฐา เพื่อนสาวก็ตามหลังอายุธไปติด ๆ

“ไปกันหมดเลยเหรอ”

ต้นกล้าหัวเราะ แล้วก็หันมาพูดกับกล้องเรื่องทำอาหารต่อไป โดยปล่อยให้เพื่อน ๆ ทั้งสาม ไปดูต้นเสียงแทน

ทางด้านเพื่อนเจ้าของห้องทั้งสาม เมื่อเดินออกมาจากมุมครัวด้านหลังก็เดินตรงไปที่ประตูห้องอันเป็นที่มาของเสียง ซึ่งพอเดินมาใกล้ประตูก็ยิ่งได้ยินเสียงเคาะประตูดังขึ้นถี่ ๆ บ่งบอกถึงอารมณ์คนที่กำลังเคาะประตูอยู่ด้านนอก

“ออดก็มีไม่ยักกด เคาะประตูซะแก้วหูแทบแตก”

นิษฐา เป็นคนพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

“เอาไงดี..เราจะไปเปิดประตูเอง หรือจะให้เจ้าของห้องเขาเปิดดี ฟังเสียงเคาะประตูแล้วท่าจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ”

อายุธ หันมาปรึกษาสองสาว ที่ต่างก็ไม่ใช่เจ้าของห้อง

“งั้นอย่าเพิ่งเปิด เดี๋ยวจะไปเรียกให้นายต้นมาดูเอง”

เสาวนีย์ เป็นคนบอกด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ก่อนจะเดินลิ่วไปบอกกล่าวเจ้าของห้อง

“ต้น! ต้น! มีคนมาเคาะประตูห้องเธอนี่แหละ เสียงดังลั่นเลยอ่ะ ท่าทางจะมีเรื่อง”

“บอกให้อาร์ต! ช่วยเปิดประตูดูหน่อย”

ต้นกล้า ร้องบอกออกไป ก่อนจะเร่งมือทำอาหารให้เสร็จ และเตรียมล้างมือให้เรียบร้อย

เสาวนีย์ เดินกลับมาบอกให้อายุธ เป็นคนเปิดประตู ซึ่งอายุธ ก็ทำตามโดยที่ไม่ได้ส่องดูที่ช่องตาแมวเสียก่อน และเพียงแค่เขาหมุนลูกบิดประตูดังกริ๊กเท่านั้น ประตูก็ถูกผลักเข้ามาทันทีจากคนที่อยู่ข้างนอก จนอายุธ ถึงกับผงะถอยหลังจากแรงผลักนั้น พร้อมกับส่งเสียงร้องด้วยความตกใจ จนทำให้สองสาว ตกใจตามไปด้วย

“นี่มันเป็นเวลาพักผ่อนนะโว้ย มาตอกอะไรโป๊ก ๆ นักหนา ฉันอยู่ข้างล่างหนวกหูจนดูซีรีส์ไม่รู้เรื่อง ทำไมคุณถึงไม่รู้จักเกรงใจ และไร้มารยาทแบบนี้ หึ!”

ฝนทิพย์ ยืนจังก้าท้าวสะเอวพูดรัวเป็นชุดจนอายุธอ้าปากค้างพูดไม่ออก เขาตกใจการจู่โจมเข้ามาของผู้หญิงคนนี้แล้ว ยังตกใจรอบสองจากใบหน้าขาววอก โผล่ให้เห็นกะทันหันของเจ้าหล่อนอีก พอหายจากตกใจ อายุธ ก็ต้องกลั้นยิ้มไว้ในหน้าเมื่อพบว่าใบหน้าของผู้มาเยือน ถูกพอกด้วยแป้งครีมสีขาวขุ่น ที่บัดนี้มีรอยแยกเป็นคราบ ๆ คล้ายลายตุ๊กแก จากการพูดของเธอ ช่างรับกับผมเผ้าที่ยุ่งเหยิงเป็นกระเซิงดูไม่จืด

ยิ่งหันไปดูชุดที่เจ้าหล่อนสวมใส่ก็ยิ่งเข้ากันกับใบหน้าและทรงผม เพราะมันเป็นเสื้อยืดคอกลมสีมอซอ จนดูไม่ออกว่าก่อนหน้านั้นมันเป็นสีอะไรกันแน่ แถมมีรอยขาดเล็ก ๆ เป็นรู ตั้งสิบกว่าแห่ง กางเกงขาสั้นผ้ายืดนั่น ก็ยืดย้วยจนมองไม่ออกว่าเป็นกระโปรง หรือกางเกงขาบานกันแน่ ถ้าชุดนี้เป็นของอายุธ ก็คงโล๊ะทิ้งเป็นผ้าขี้ริ้วไปตั้งนานแล้ว

“มองอะไร! ไม่เคยเห็นผู้หญิงรึไงหา!”

ฝนทิพย์ ตวาดเสียงดังตาเขียวปั๊ด

“โอ๊ะ..ขอโทษครับไม่ได้ตั้งใจ คือที่เสียงดังก็เพราะเราทำอาหารกันนิดหน่อยครับ”

อายุธ โค้งศีรษะเป็นเชิงขอโทษ พร้อมกับส่งยิ้มแสดงความเป็นมิตรเอาไว้ก่อน

“เนี่ยนะนิดหน่อย ถ้ามากกว่านี้คงตึกถล่มแน่ อยู่กับคนหมู่มากก็รู้จักมีมารยาทผู้ดีซะมั่งนะ ที่นี่ไม่มีใครเขาทำเสียงดังกันหรอกจะบอกให้”

ฝนทิพย์ ถือโอกาสอบรมด้วยน้ำเสียงดุดัน จนนิษฐาหนึ่งในสองสาวทนฟังเสียงฝนทิพย์อบรมอายุธไม่ไหว ต้องโผล่หน้ามาดูที่ประตูพร้อมกับโต้ตอบทันควัน

“นี่คุณ! มาถึงก็แว้ด ๆ แทนที่จะพูดจาบอกกันดี ๆ อย่างคุณก็ใช่ว่าจะมีมารยาทผู้ดีสักเท่าไหร่ เอะอะโวยวายใช้วาจาไม่สุภาพแบบเนี้ย เขาเรียกว่าขาดมารยาทผู้ดีเหมือนกัน”

“ฉันจะสุภาพกับคนที่มีมารยาทดีเท่านั้น”

ฝนทิพย์ โต้กลับกับหญิงสาวที่โผล่หน้าออกมาต่อว่าทันควัน

“แล้วพวกเรามารยาทไม่ดีตรงไหนไม่ทราบ”

นิษฐา ย้อนถามพร้อมจ้องหน้าฝนทิพย์ โดยมีอาวุธคอยดึงแขนเป็นการเตือนสติเพื่อนเอาไว้ เผื่อมีการตบตีกันเกิดขึ้น เขาจะได้จับแยกได้ทันนั่นเอง