บท
ตั้งค่า

15. จับคู่ดูตัว

“ชื่ออะไร ลูกเต้าเหล่าใคร เป็นคนที่ไหน เรียนจบอะไร แล้วคบกันนานแค่ไหนแล้ว”

มารดายิงคำถามเป็นชุดปานรัวปืนเอ็มสิบหก

“แม่..จะให้ฝนตอบคำถามไหนก่อนดีล่ะเนี่ย”

ลูกสาวครวญละห้อย

“เอาข้อแรกก่อนก็ได้ ชื่ออะไร..ห้ามคิดนาน”

มารดา รีบพูดดักคอ จนฝนทิพย์กลืนน้ำลายลงคอ

“ชื่อต้นค่ะ”

ฝนทิพย์ โพล่งออกมาโดยไม่ต้องคิด ตู่เอาต้นกล้ามาเป็นแฟนหน้าด้าน ๆ อย่างนี้แหละ เขาไม่รู้ตัวหรอก

“พ่อแม่เขาเป็นใครอยู่ที่ไหน”

คุณน้อมจิต ซักต่อทันที

“พ่อแม่เขาเป็นใคร ฝนก็ไม่รู้หรอกค่ะ”

“เป็นแฟนกันประสาอะไร ไม่รู้แม้กระทั่งพ่อแม่เป็นใครอยู่ที่ไหนทำงานอะไร”

“ก็ฝนไม่ได้เป็นแฟนกับพ่อแม่เขานี่คะ” เธอแก้ตัว

“อืมม์..ข้อนี้อนุโลมไม่รู้ไม่เป็นไร แต่ข้อนี้ต้องรู้แน่..คบกันนานแค่ไหนแล้ว”

“ก็ประมาณ....สองวัน อุ๊ย!..สองสัปดาห์ ว้าย..ไม่ใช่ค่ะแม่ ประมาณสองเดือน”

พูดตะกุกตะกักด้วยความไม่มั่นใจ

“ข้อมูลเท็จแหง ๆ ไม่งั้นจะไม่สับสนขนาดนี้หรอก ดีนะที่ไม่บอกว่ารู้จักกันแค่สองชั่วโมง”

มารดาพูดดักคอ ฝนทิพย์ยิ้มแหย ๆ ก่อนจะบอกว่า

“แหม..คนเรามันก็จำผิดพลาดได้นี่คะแม่ แต่ฝนรู้ว่าเขาทำอาหารเก่งมาก แล้วก็ชนะการประกวดการทำอาหารด้วย เขาทำช่องยูทูปด้วย มีคนติดตามเยอะมากๆๆ”

“ต๊าย..ผู้ชายทำอาหาร..พวกตุ๊ดพวกเกย์รึเปล่ายัยฝน”

“เป็นผู้ชายร้อยเปอร์เซ็นต์ค่ะ เขาทำอาหารอร่อยมากด้วย เขาเคยเอามาฝากฝนบ่อย ๆ” เธอทำหน้าภูมิใจ

“เป็นผู้ชายเสียเปล่า ชอบทำอาหารไม่แมนเล้ย..สู้ตี๋ใหญ่ก็ไม่ได้ เรียนจบบริหารธุรกิจจากอังกฤษ โก้จะตาย อีกหน่อยเขาก็มาช่วยเตี่ยเขาบริหารโรงงาน”

มารดาเปรียบเทียบให้ลูกสาวได้คิด

“ช่างพี่ตี๋ใหญ่สิคะ ฝนไม่ชอบผู้ชายขี้เหร่ เวลาอยู่ด้วยแล้วจิตใจมันหดหู่เศร้าหมอง เฉาตายพอดี”

“ตี๋ใหญ่ไม่ได้ขี้เหร่นะยะ..เขาก็หล่อแบบตี๋ ๆ ดูยังไงถึงว่าเขาขี้เหร่ไปได้”

“ก็ตาเขาสิแม่ ลูกกะตาเล็กจิ๊ดเดียว จะมองเห็นอะไรกับเขาบ้างรึเปล่าก็ไม่รู้”

“ไม่เป็นไร แม่จะบอกให้เขาไปทำศัลยกรรมตาให้มันโตกว่านี้หน่อย จะได้ถูกใจเธอ”

“ไม่แค่ตาอย่างเดียวนะแม่ หน้าเขาก็เหมือนลูกซาละเปากลม ๆ อ้วน ๆ ว๋าย..แค่นึกภาพต้องอยู่ใกล้ ๆ เขา ฝนก็หนาวแล้วค่ะแม่ อย่าทำร้ายจิตใจฝนเลยนะแม่นะ ฝนชอบคนหล่อ”

“หล่อแล้วมันกินได้ไหมยะ” มารดาทำหน้าหมั่นไส้

“กินไม่ได้แต่มันมีความสุขทางใจค่ะ เขาเรียกอิ่มตาอิ่มใจไงคะ”

“อิ่มตาอิ่มใจ มันจะไปสู้อิ่มท้องได้ไง ตี๋ใหญ่มีกิจการมั่นคงสามารถเลี้ยงครอบครัวให้สุขสบายไปตลอดชาติ แต่ถ้าเธอไปคว้าผู้ชายที่มีแต่ตัว มันก็จะมาเกาะเธอกิน เผลอ ๆ ก็จะ

พลอยทำให้เธอลำบากไปด้วย คิดดูให้ดีนะลูก ผู้ชายที่พ่อแม่รู้จักประวัติเขาเป็นอย่างดีน่ะ มันไม่มีความเสี่ยงเหมือนที่เธอจะไปหาเองหรอกนะ”

“ฝนก็เคยเห็นพี่ตี๋ใหญ่มาก่อนแล้วนี่คะ ไม่เห็นจะมีเสน่ห์น่าสนใจตรงไหนเลย”

“อย่าเพิ่งปฏิเสธได้ไหม เอาไว้เจอหน้าตี๋ใหญ่ก่อน เธออาจจะเปลี่ยนใจมาชอบเขาก็ได้ เพราะเขากลับมาคราวนี้ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่อย่างที่เธอเคยเห็นเมื่อสามสี่ปีก่อนหรอก คนเราหน้าตาก็เปลี่ยนไปทุกปี..เย็นนี้พ่อกับแม่ นัดทานอาหารเย็นกับครอบครัวของตี๋ใหญ่”

“ไม่ไป..ได้ไหมแม่” เธอต่อรอง

“ไม่ได้!..ตากวี ทำให้พ่อกับแม่ผิดหวังมาทีหนึ่งแล้ว เธออย่าทำให้พ่อแม่ต้องผิดหวังครั้งที่สองเลยนะยัยฝน อย่างไงก็ให้ได้พบตี๋ใหญ่เขาก่อน ส่วนจะชอบหรือไม่ชอบก็ค่อยว่ากันอีกที อย่าปิดกั้นตัวเองที่จะได้รู้จักผู้ชายดี ๆ สิลูกจ๋า นะ นะ”

ฝนทิพย์ เม้มปากแน่นคิดหาหนทางที่จะชิ่งหนี เธอนึกถึงเมื่อคราวที่กวี แกล้งป่วยเป็นลมบ้าหมูเข้าโรงพยาบาลเพื่อหลบหนีการพบปะกับครอบครัวเฮียตง ทำให้พี่ชายเธอแคล้วคลาดจากการถูกจับแต่งงานกับหมวยเล็ก น้องสาวของตี๋ใหญ่ ไปได้อย่างหวุดหวิด

แล้วตัวเธอเล่า จะใช้แผนไหนหลบหนีการพบปะในเย็นวันนี้ได้หนอ จะใช้มุขเดิมแบบพี่ชาย โดยแกล้งชักกระตุกน้ำลายฟูมปาก ก็เกรงว่ามารดาจะจับไต๋ได้

ฝนทิพย์ ถูกมารดาจับแต่งตัวด้วยชุดเสื้อแขนตุ๊กตาสีขาว กระโปรงบานสีโอโรส เธออยากจะแต่งหน้าเข้ม ๆ ปากแดงแจ๊ดไปเลยจะได้ไม่เป็นที่ถูกตาถูกใจของตี๋ใหญ่ แต่ถูกมารดาขอร้องให้แต่งหน้าบาง ๆ เป็นธรรมชาติ

คุณน้อมจิต บอกว่าจะไปพบผู้หลักผู้ใหญ่จะแต่งหน้าทาปากเป็นงิ้วไปได้อย่างไร มันดูเป็นสาวเปรี้ยวเกินวัย มารดา ชมฝนทิพย์ว่าสวยใสเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว ไม่ต้องแต่งหน้าทาปากให้มันมากนัก แค่ทาแป้งบางเบา กับลิปมัน แค่นี้ก็น่ารักจะตาย

เป็นเพราะคำชมในตอนท้ายหรอกนะ ฝนทิพย์จึงยอมตามใจคุณน้อมจิตทุกอย่าง

เมื่อไปถึงห้องอาหารภายในโรงแรมของญาติเฮียตง ครอบครัวของฝนทิพย์ ก็ได้รับการต้อนรับจากเฮียตงกับภรรยาเป็นอย่างดี

“หนูฝง โหงวเฮ้งลื้อนี่ลี จริง ๆ นา”

สำเนียงพูดไทยไม่ชัดของเฮียตงกล่าวชมฝนทิพย์ หลังจากที่เธอยกมือไหว้ไป แต่ฝนทิพย์ก็อดคิดไม่ได้ว่าพ่ออ้วนลงพุงแบบนี้แล้วลูกชายจะขนาดไหน ไม่อยากนึกภาพให้จิตใจห่อเหี่ยวเลย

“นั่นน่ะสิ..ไม่คิดว่าโตขึ้นแล้วจะสวยน่ารักแบบนี้”

ภรรยาเฮียตง เห็นด้วยกับสามี เธอเป็นคนเจ้าเนื้อผิวขาวจั๊วะ

“ตี๋ใหญ่เอ๊ย..เฮ้ย!..มังหายหัวไปไหนเลี้ยววะ เมื่อตะกี้ก็เดิงล่วยกังมาลี ๆ นี่นา”

เฮียตงเหลียวลอกแลกหาลูกชาย

“โน้นไงเฮีย..อี คงจะแวะทักทายคนรู้จักน่ะ”

ภรรยาเฮียตง ชี้บอกกับสามี

“ตี๋ใหญ่!..รีบโหน่ยซีวะ..มารู้จักหนูฝง”

เฮียตงหันไปเรียกลูกชาย ทำให้ตี๋ใหญ่เดินยิ้มตาหยี มายังที่ฝนทิพย์ยืนอยู่ ฝนทิพย์ ยกมือไหว้ตี๋ใหญ่ ก่อนจะเงยหน้าไปสังเกตใบหน้าของเขาที่ดูหน้ากลมเป็นซาละเปาและตาตี่เหมือนเดิม ดีแต่ว่าตัวสูง ผิวขาว แล้วก็แต่งตัวดีเท่านั้นเอง ผู้หญิงบางคนก็คงจะถูกสเป็คก็ได้

แต่แบบนี้ไม่ใช่สเป๊คของฝนทิพย์เลย ถ้าให้ต้องเป็นแฟนกับตี๋ใหญ่เธอต้องไปกระโดดอนุสาวรีย์ชัย ประท้วงมารดาแน่เลย

ถ้าตี๋ใหญ่หล่อถูกใจเหมือนต้นกล้า เธอจะไม่ปฏิเสธแม้สักนิดเดียว

“ตี๋ใหญ่จบบริหางธุรกิกจากปะเทกอังกิก ก็จะมาช่วยอั๊ว บริหางโรงงาง”

เฮียตงบอกกับทุกคนบนโต๊ะอาหารด้วยสำเนียงไม่ชัด

“ยัยฝนก็จบกฎหมายพอดี ไม่รู้ว่าเจ้าตัวเขาอยากทำงานหรือจะเรียนต่อ”

คุณประกิตพูดถึงฝนทิพย์ลูกสาวของตนเองบ้าง

“อั้วว่าให้หนูฝงไปช่วยงางที่โรงงานอั๊วจะลีกว่านะ ยิ่งถ้าตี๋ใหญ่กับหนูฝง ล่ายเป็งทองแผ่งเลียวกันยิ่งดี อั๊วจะล่ายวางมือปล่อยให้ลูกชายกับลูกสะใภ้บริหางกันเอง”

เฮียตง พูดจาเปิดเผยจนทำให้ฝนทิพย์ แทบสำลักน้ำผลไม้ที่กำลังดื่มอยู่พอดี ไม่คิดว่าเฮียตง จะพูดจาไม่อ้อมค้อมเช่นนี้

“ว่าไงตี๋ใหญ่ ลื้อคิดว่าหนูฝงกับลื้อ พอที่จะไปล่วยกันได้ไหม”

เฮียตงหันมาถามลูกชายที่นั่งเบิกตาด้วยความตกใจกับคำพูดของบิดา แม้ว่าก่อนมาบิดาจะบอกวัตถุประสงค์แล้วว่าพามาดูตัวลูกสาวของเพื่อนรัก แต่ก็ไม่คิดว่าบิดาจะพูดแบบไม่อ้อมค้อมเช่นนี้

“เตี่ยพูดแบบนี้น้องฝนก็ตกใจสิครับ เอ้อ..น้องฝนไม่ต้องคิดมากนะครับ เตี่ยพี่ชอบพูดเล่นแบบนี้แหละ”

ตี๋ใหญ่ รีบหันไปปลอบใจฝนทิพย์ที่นั่งหน้าเหวอ

“อุ๊ย! ยัยฝนรู้จ๊ะว่าเฮียตงล้อเล่น จริงไหมลูก”

คุณน้อมจิต หันมาขยิบตากับลูกสาว

“เตี่ยพูดล้อเล่นใช่ไหมคะ”

ฝนทิพย์หันไปถามเฮียตง

“แต่ถ้าเปงจริงล่ายก็ลี แฮะ ๆ”

เฮียตง หัวเราะลงคอเอิ๊กอ๊าก โดยมีภรรยาพยักหน้าเห็นด้วย

“ของแบบนี้มันต้องให้เด็ก ๆ เขาพูดจากันเอง พวกเราก็มีหน้าที่แนะนำให้ได้รู้จักกัน”

คุณประกิต พูดให้ลูกสาวค่อยหายใจคล่องขึ้นมาหน่อย

“น้องฝนเรียนจบกฎหมายเหรอครับ”

ตี๋ใหญ่ หันมาชวนฝนทิพย์สนทนา

“ใช่ค่ะ”

“สนใจทำงานที่โรงงานพี่ไหมครับ”

ตี๋ใหญ่ ชวน ทำให้เฮียตงยิ้มถูกใจ

“ฝนอยากจะเป็นผู้พิพากษามากกว่าค่ะ ตอนนี้ก็เลยยังไม่คิดทำงาน จะเรียนต่ออีกค่ะ”

“โอ้โห..เปงผู้พิพากษาหญิง โก้ไม่หยอกเชียวล่ะตี๋ใหญ่” เฮียตง พูดกับลูกชายด้วยสีหน้าปลาบปลื้ม

“ขอให้ความฝันของน้องฝนเป็นจริงครับ พี่ขอเป็นกำลังใจให้” ตี๋ใหญ่ อวยพร

“ก็ดีเหมืองกัน ความจริงผัวเมียไม่จำเปงต้องทำงานที่เลียวกันก็ล่าย”

คำพูดของเฮียตง ทำให้ฝนทิพย์ กลืนอาหารไม่ลง มันฝืดคอจนต้องยกน้ำดื่มตามลงไป

“เตี่ยครับ ผมกับน้องฝนยังไม่ได้เป็นอะไรกันครับ”

ตี๋ใหญ่ ติงบิดาด้วยเกรงว่าจะทำให้ฝนทิพย์ อึดอัดเกินไป

“อั๊วพูดถึงทั่ว ๆ ไปต่างหากล่ะไม่ได้เจาะจงพูดถึงใคร หนูฝง คงไม่ถือสาอั๊วนา..”

“ไม่ถือค่ะ..”

ฝนทิพย์ รีบบอกด้วยการส่งยิ้มแหย ๆ ให้เฮียตง

จากนั้นคุณประกิตก็หันไปพูดคุยกับเฮียตงเรื่องธุรกิจแทน เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของเฮียตง ไม่ให้พูดรุกเร้าลูกสาวของตนจนเกินไป ทำให้ฝนทิพย์คลายอึดอัดลงไปได้มาก

ฝนทิพย์ คงไม่สามารถที่จะเป็นทองแผ่นเดียวกับเฮียตงได้ เหตุผลสำคัญเพราะตี๋ใหญ่ ไม่ใช่สเป็กของเธอนั่นเอง คนที่ทำให้ฝนทิพย์ หัวใจละลายแม้เพียงในครั้งแรกที่พบหน้า คือ ต้นกล้า

ภาพของเขายังติดตราตรึงใจเธออยู่ จึงยากที่จะชายตาไปให้ความสนใจตี๋ใหญ่ได้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel