11. ไม่ได้ตาฝาด
“อรจะช่วยต้นเองค่ะ”
อรอนงค์ รีบเสนอตัวบ้าง
“อรไม่กลับไปอยู่อเมริกาแล้วหรือครับ”
ต้นกล้า หันมาถามอรอนงค์ เขาจำคำพูดของเธอได้ว่าไม่ชอบเมืองไทย อยากจะใช้ชีวิตอยู่กับป้าสดศรีที่อเมริกามากกว่า
“ต้นอยู่ที่ไหน อรก็จะอยู่ที่นั่นค่ะ คุณป้าคงจะดีใจมากที่เห็นอรกลับมาอยู่เมืองไทย”
อรอนงค์ พูดพร้อมกับจงใจเอียงศีรษะไปซบกับต้นกล้าที่นั่งติดกับเธอ
ส่วนอีกด้านหนึ่งนั้น นิษฐา หันไปเบ้ปากกับเสาวนีย์ แต่ต้นกล้า ไม่พูดอะไรต่อ เขาขอตัวลุกไปดูการทำอาหารด้วยตัวเองในครัว ซึ่งเขาสั่งหูฉลามน้ำแดงเป็นพิเศษเพื่อเลี้ยงเพื่อน ๆ ในครั้งนี้ เขาอยากจะไปมีส่วนร่วมในการปรุงอาหารด้วย
“คุณอรกับต้น อยู่ที่อเมริกาด้วยกันหรือครับ”
อายุธ หันมาชวนอรอนงค์คุย เมื่อเห็นว่านิษฐา กับเสาวนีย์ ไม่ได้สนใจพูดคุยกับเธอเลย อายุธ มองออกว่าอรอนงค์สนใจต้นกล้า เช่นเดียวกับที่เขารับรู้จากเสาวนีย์ว่า นิษฐาก็สนใจต้นกล้า เช่นกัน
และในฐานะที่อายุธเป็นเพื่อนของต้นกล้า และนิษฐาด้วย เขาก็อดที่จะเชียร์นิษฐา ไม่ได้ แต่ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ก้าวล่วงความเป็นส่วนตัวของต้นกล้าอยู่แล้ว เพราะความรักเป็นสิ่งที่บังคับจิตใจกันไม่ได้
“ใช่ค่ะ เราสองคนสนิทกันมาก คุณแม่ของต้นกับคุณป้าของอร เป็นพยาบาลอยู่ที่เดียวกันด้วยค่ะ”
อรอนงค์ พูดเสียงดังให้สองสาวได้ยินด้วย
“แล้วคุณอรมาเมืองไทยพักอยู่ที่ไหนครับ” อายุธถาม
“พักกับพี่สาวค่ะ”
“มิน่าล่ะ ผมไปหานายต้นที่ห้องในคอนโดที่ต้นอยู่ ไม่เห็นคุณอรด้วย”
“ห้องต้นที่คอนโดเหรอคะ ที่ไหนคะ”
อรอนงค์ ถามด้วยสีหน้าตื่นเต้น เธออยากจะรู้ที่สุดก็คือที่พักของต้นกล้านั่นเอง
“อ้าว..ต้นไม่ได้บอกคุณอรเหรอครับ”
อายุธ ทำหน้าแปลกใจ
“คือบอกแล้วทีหนึ่งแต่อรลืมค่ะ..คุณอาร์ต บอกอีกทีได้ไหมคะ ว่าคอนโดชื่ออะไร อยู่แถวไหน”
อรอนงค์ แกล้งตีหน้าซื่อ
“อ๋อ..ได้ครับ..”
อายุธ บอกที่อยู่ของต้นกล้าโดยไม่ได้รู้ว่า ต้นกล้าปิดบังที่พักอาศัยกับอรอนงค์อยู่
ในขณะที่อรอนงค์ ก็ซ่อนความดีใจที่ได้ทราบที่อยู่ของต้นกล้า คราวนี้ล่ะที่อรอรงค์จะเป็นฝ่ายรุกเข้าหาเขาให้ได้ เธออยากจะรู้เหมือนกันว่าเขาจะกล้าปฏิเสธเธอได้ลงคอเชียวหรือ
ฝนทิพย์ จ้องข่าวที่เด้งขึ้นมาในมือถือด้วยความสนใจ เนื่องจากสะดุดตากับชายหนุ่ม เธอเผลอจ้องตาแทบไม่กระพริบกับลักษณะท่าทางของผู้เข้าแข่งขันการทำอาหาร
“นี่มัน..เขาคนนั้นนี่นา อ๊าย...จริงด้วย”
ฝนทิพย์ ร้องออกมาด้วยความตื่นเต้นลืมตัว ดีแต่ว่าอยู่คนเดียวในห้อง ไม่เช่นนั้นคงมีคนมองด้วยความตกใจเป็นแน่
ฝนทิพย์ ตั้งอกตั้งใจดูตั้งแต่ต้นจนจบรายการ อีกทั้งจดจำชื่อช่องยูทูปของต้นกล้า ที่ได้โปรโมทออกทางรายการในช่วงที่พิธีกรสัมภาษณ์ด้วย เธอจึงรีบเข้าไปค้นหาช่องยูทูปนั้น เมื่อเจอแล้วก็กดติดตามทันที อีกทั้งยังย้อนดูคลิปของต้นกล้า แทบทุกคลิป ซึ่งล้วนเป็นคลิปที่ต้นกล้า อยู่ที่อเมริกา จนมาถึงคลิปสุดท้าย ที่เขาทิ้งท้ายว่า คลิปต่อ ๆ ไป จะทำที่เมืองไทยเพราะเขาจะกลับมาเมืองไทย เพื่อแข่งขันการทำอาหารในรายการทางโทรทัศน์
จากการย้อนติดตามผลงานของต้นกล้า ก็ทำให้ฝนทิพย์ ได้รู้จักชายหนุ่มที่อยู่ในคอนโดเดียวกันที่ตนสนใจได้เพิ่มมากขึ้น
“ว้าว..เป็นนักเรียนนอกด้วย ทั้งหล่อ ทั้งเก่ง ทำอาหารก็เก่ง ตายแล้ว..เขาจะต้องมีสาว ๆ เป็นพรวนแน่เลย ขนาดไปแข่งขันยังมีแฟนคลับสาว ๆ ไปตามกรี๊ดซะขนาดนั้น แล้วฉันจะไหวไหมเนี่ย”
พอคิดมาถึงตอนนี้ ก็ชักจะห่อเหี่ยวใจ จนเดินออกจากห้องนอน มาด้านนอกบริเวณรับแขก แล้วก็ทิ้งตัวนอนยาวบนโซฟา แต่มือก็ยังหยิบมือถือ ขึ้นมานอนดูคลิปของชายหนุ่มในฝันต่อ
ในขณะที่ชายในฝันของฝนทิพย์นั้น ก็แยกย้ายจากเพื่อน ๆ แล้วก็มาถึงคอนโดในเวลาสี่ทุ่ม โดยมีของฝากเป็นอาหารเมนูหูฉลาม ที่เขานำมาจากร้านอาหารของเพื่อน เพื่อจะเอามาฝากคนในคอนโดเดียวกันด้วย
ต้นกล้า นึกถึงผู้หญิงแปลกประหลาดที่อยู่ห้องข้างล่าง จึงคิดเอาอาหารไปฝาก เพื่อเป็นการไถ่โทษที่เคยทำเสียงดังจนทำให้เธอคนนั้นต้องขึ้นไปต่อว่าเขาถึงที่ห้อง เขาจึงอยากจะแสดงความขอโทษด้วยอาหารและเป็นการผูกมิตรกับเพื่อนร่วมคอนโดด้วย
ต้นกล้า ยังนึกถึงสภาพของหญิงสาวคนนั้นอยู่เลย หากเธอเป็นคนสติไม่ค่อยดีอย่างที่เขานึกสงสัยก็ยิ่งน่าสงสาร เอาอาหารไปให้ ก็น่าจะได้บุญ เขาคิดในใจ ก่อนจะกดออดที่หน้าประตูห้อง
ฝนทิพย์ รู้สึกสะดุ้ง เมื่อได้ยินเสียงกดออดในเวลากลางคืนเช่นนี้ เธอเดินอย่างเร็วมาที่หน้าประตูด้วยความตกใจ และไม่กล้าที่จะเปิดประตูห้อง แต่ใช้วิธีเขย่งเท้ามองดูที่ช่องตาแมวตรงช่องประตูก่อน ทำให้มองเห็นชายหนุ่มหน้าหล่อเข้าเต็มหน้า
“ว้ายตายแล้ว..สุดหล่อของฉัน”
ฝนทิพย์ เผลออุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น แต่พอนึกได้ว่าอาจจะตาฝาด เพราะตัวเองวนดูคลิปของต้นกล้าจนเห็นแต่หน้าของเขาลอยวนในความรู้สึกนึกคิด
“เอ๊ะ หรือว่าเราตาฝาด”
คราวนี้ เธอจึงตั้งสติใหม่แล้วก็ส่องดูที่ช่องประตูอีกครั้ง
“ตาไม่ฝาดแน่ ๆ ต้องเป็นเขา”
ฝนทิพย์กำมือแน่นสองข้างร้องกรี๊ดกับตัวเอง ไม่อยากจะเชื่อว่าเพิ่งจะคิดถึงเขาอยู่ แล้วเขาก็มาปรากฏตัวอยู่หน้าห้องราวปาฏิหาริย์
ใจอยากจะรีบเปิดประตูไปหาเขาในทันที แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่า ตัวเองจะไม่สวยพอคู่ควรกับความหล่อของเขา คิดได้ดังนั้น ฝนทิพย์ ก็ยิ่งลนลานวิ่งไปส่องกระจกด้วยความไม่มั่นใจ แม้จะอยู่ในชุดแซกสีชมพูน่ารักสดใสสมวัยแล้ว ยังไม่วายกลัดกลุ้ม
“เปลี่ยนเป็นเสื้อสีฟ้ากับกางเกงขาสั้นสีขาวน่าจะเวิร์คกว่า”
ฝนทิพย์ บอกกับตัวเอง ก่อนจะรีบวิ่งไปที่ตู้เสื้อผ้าเมื่อนึกถึงคำพูดของชมพู่เพื่อนรัก เคยชมว่าเธอใส่เสื้อผ้าสีฟ้าแล้วจะดูดี
“เฮ้อ! ค่อยมั่นใจหน่อย อุ๊ย..หน้าไม่ผ่องเลย ตบแป้งอีกนิดดีกว่า”
บ่นเบา ๆ พร้อมกับจัดแจงเปิดตลับแป้งขึ้นมาทาหน้า จากนั้นก็หยิบลิปสติกสีโอโรสทาปากอย่างบรรจง
“ต๊าย..ใครกันเนี่ยสวยปิ๊งเชียว”
อุทานกล่าวชมตัวเองกับกระจก ก่อนจะค่อย ๆ เดินไปที่ประตูอย่างนวยนาด
“เอาล่ะคราวนี้ ไม่ตะลึงความงามของเราก็ให้รู้ไปสิ”
สมองคิดไป แต่มือบิดลูกบิดประตูให้เปิดอ้าออก
แต่..เทพบุตรสุดหล่อล่ะ อันตรธานหายไปไหนเนี่ย
สมน้ำหน้าตัวเองนัก มัวแต่ประดิดประดอย แต่งองค์ทรงเครื่องเขาก็เลยหายวับไปเสียแล้ว
“นั่นเห็นหลังไว ๆ ต้องเป็นเขาแน่เลย ไม่ได้ต้องตามไป” พอสมองสั่งการเช่นนั้นก็รีบวิ่งตามผู้ชายคนนั้นไปทันที
“คุณคะ!”
ฝนทิพย์ ร้องเรียกเขาเสียงดังจากทางด้านหลัง เขาเอี้ยวตัวหันขวับมามองด้วยสีหน้าแปลกใจ
“ผู้ชายอะไรมองด้านข้างก็ยังดูดี หล่อไม่มีที่ติจริงจิ๊ง” ฝนทิพย์ ยืนยิ้มอยู่กับที่
“มีอะไรรึเปล่าครับคุณ” ต้นกล้าส่งเสียงถาม
“เมื่อสักครู่ คุณไปเคาะห้องของฉันใช่ไหมคะ”
เธอรีบถามออกไป
“ผมเคาะห้องคุณหรือครับ..ห้องไหนครับ”
ต้นกล้า ยังทำหน้างุนงง เพราะไม่คุ้นกับผู้หญิงที่หน้าตาน่ารักแบบนี้มาก่อนนั่นเอง แต่ก็คุ้นเสียงอยู่บ้าง
เอ..รึว่าฝนทิพย์ จะตาฝาด มองที่ช่องตาแมวแล้วเห็นเป็นหน้าของเขา ถ้าเป็นเช่นนั้นเธอคงหน้าแตกแบบหมอไม่รับเย็บแล้วกระมัง
