6
“คุณปราบจะไปไหนหรือคะ”
“ป้าเอียดไม่ต้องเตรียมอาหารกลางวันให้ผมนะ” ชายหนุ่มไม่ตอบคำถามแต่หันไปสั่งแม่ครัวแทน …แม่เอียดรับคำ มองตามหลังทิพย์วารีด้วยความเป็นห่วง...เฮ้อ...คุณปราบนะคุณปราบ ขออย่าได้ทำอะไรหนูน้ำอย่างที่นึกกลัวเลย...เสียดายที่คุณอาภาไม่อยู่...
ปราบเดินนำหน้าตรงมาที่โรงจอดรถ ส่วนทิพย์วารีรีบซอยเท้าตามมาติด ๆ แทบจะวิ่งตามเพราะคนขายาวเดินจ้ำพรวด ๆ ไม่นึกถึงคนขาสั้นกว่าบ้างเลย
“ขึ้นมาสิ” ดวงตาคมดุมองมาอย่างกดดัน
“คุณปราบจะพาหนูไปไหนคะ” ทิพย์วารีจ้องมองผู้ชายใจร้ายไม่ค่อยไว้ใจ
“ฉันไม่พาไปขายหรอกน่า...ตัวแค่นี้ขายก็ไม่ได้ราคาหรอก ขึ้นมาเร็ว ๆ เข้าจะให้ไปช่วยถือของ”
ทิพย์วารีเปิดประตูขึ้นไปนั่งตัวเกร็งอยู่ที่เบาะหน้าคู่กับเขาซึ่งเป็นคนขับ ชายหนุ่มไม่ได้ออกรถในทันทีแต่โน้มตัวข้ามมาคาดเข็มขัดนิรภัยให้ในขณะที่หญิงสาวแทบจะลืมหายใจเมื่อเขาอ้อยอิ่งอยู่อย่างนั้นทำไม่เสร็จสักที
“หัดดูแลตัวเองซะบ้าง...ขึ้นรถก็ต้องคาดเข็มขัดนิรภัยทุกครั้ง อย่าให้ต้องเป็นภาระของฉันบ่อย ๆ” ปราบบ่นเพื่อกลบเกลื่อนอะไรบางอย่างที่มันพลุ่งพล่านเมื่อได้กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของสาวไร้เดียงสา
ทิพย์วารีปิดปากเงียบไม่อยากต่อปากต่อคำด้วยถึงยังไงหล่อนก็ไม่มีทางเอาชนะเขาได้หรอก ไม่ต่างจากหมาป่ากับลูกแกะสักนิด
ปราบขับรถเข้ามาจอดที่ห้างใหญ่ใจกลางเมือง เขาลงจากรถเดินนำไปไม่พูดไม่จา ส่วนทิพย์วารีก็มีหน้าที่เดินตามเขาให้ทัน.....ไม่เข้าใจว่าเขาจะให้หล่อนมาถือของอะไรนักหนาเพราะไม่เห็นเขาจะสนใจซื้อหาอะไรเป็นพิเศษ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านตุ๊กตาหมี...ทิพย์วารีเผลอตัวยืนมองอย่างเผลอไผล หล่อนชื่นชมตุ๊กตาหมีสีขาวมาแต่ไหนแต่ไร...แต่แล้วพอเห็นเขาเดินเข้าไปในร้าน หล่อนจึงเดินตามเข้าไปอย่างเต็มใจที่สุดกระทั่งมาหยุดยืนมองตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ใส่กางเกงลายสก๊อต ผูกเน็คไทสีเดียวกัน มันน่ารักมาก ทิพย์วารียืนยิ้มให้กับเจ้าหมีขาวก่อนจะตัดใจโบกมือลาแล้วเดินเข้าไปหาคนที่พามาด้วย เดี๋ยวเขาจะหาว่าหล่อนบกพร่องต่อหน้าที่......
หญิงสาวเห็นพนักงานอุ้มหมีตัวนั้นมาส่งให้ ทิพย์วารีรับไว้ด้วยความดีใจเขาคงจะซื้อไปให้ใครสักคน แค่ได้อุ้มเจ้านี่เดี๋ยวเดียวก็ยังดี
“คุณปราบจะเอาไปให้ใครเหรอคะ” หญิงสาวถามหลังจากเขาพาไปทานอาหารในห้างก่อนกลับบ้าน พอขึ้นมาในรถหญิงสาวจึงได้เอ่ยถามเขาน้ำเสียงแฝงไปด้วยความอาลัยอาวรณ์
“ถามทำไม อยากได้หรือไง” ชายหนุ่มปรายตามามอง ยัยเด็กบ๊องส์ โตจนมีผัวแล้วยังเล่นตุ๊กตาหมีอยู่อีก......คิดแล้วก็ตกใจความคิดของตัวเองเหมือนกัน.....ผัวเหรอ....
“ปะ...เปล่าค่ะหนูเห็นมันน่ารักดี” ทิพย์วารีตอบเสียงเบาแต่กอดเจ้าหมีขาวที่ตัวเล็กกว่าหล่อนนิดเดียวเอาไว้แน่น.....อยากจะหอมมันยังไม่กล้า.....ถ้าเป็นของเราจะตั้งชื่อมันว่าอะไรดีน๊า........ทิพย์วารีนั่งคิดเพลิน ๆ จนกระทั่งมาถึงบ้านโดยไม่รู้ตัว
“คุณปราบจะให้หนูเอาเจ้านี่ไปไว้ที่ไหนคะ”
“ห้องเธอ”
“คะ?” ทิพย์วารีตาโตตกใจหัวใจพองโต คิดว่าเขาซื้อให้ แต่พอได้ยินประโยคต่อมาก็ห่อเหี่ยวลงเหมือนเดิม
“ฝากไว้ก่อน” ชายหนุ่มแกล้งดับฝันเอาดื้อ ๆ
ทิพย์วารีแอบจูบพี่มึนเพราะอดใจไม่ไหว หลังจากคุณปราบสั่งให้เอาเจ้าหมีขาวตัวใหญ่ขึ้นมาฝากไว้ในห้อง หล่อนก็แอบตั้งชื่อให้เสียเลย หญิงสาวกอดฟัดพี่มึนอยู่พักใหญ่ก่อนจะทำใจพาพี่เขามานั่งที่เตียงอีกด้านหนึ่งเพราะเกรงใจเจ้าของกลัวว่าพี่มึนจะช้ำชอกก่อนจะถึงมือเจ้าของตัวจริง ไม่รู้ว่าของใครกันแน่ แค่ได้เห็นก็มีความสุขแล้ว
ระหว่างที่ทิพย์วารีกำลังนอนคุยกับพี่มึนเพลิน ๆ อยู่นั้นเจ้ากรรมนายเวรของหล่อนกำลังไขประตูห้องนอนเข้ามาด้วยกุญแจสำรอง
“เธอทำอะไรหมีของฉันหึ...ทิพย์วารี” ชายหนุ่มได้ยินหล่อนคุยเสียงเล็กเสียงน้อยกับเจ้าหมีขาวก็อดขำไม่ได้ แต่พอเข้ามาถึงตัวกลับทำเป็นถามเสียงขรึม
“คุณเข้ามาทำไมคะ” หญิงสาวตกใจที่จู่ ๆ เขาก็โผล่เข้ามาเงียบ ๆ อย่างกับผีบ้านผีเรือน
“เมื่อไหร่จะเลิกถามคำถามปัญญาอ่อนแบบนี้เสียทีนะ” ปราบทำเป็นถอนหายใจก่อนจะนั่งลงบนเตียงโดยผลักเจ้าหมีตัวใหญ่ไปทางทิพย์วารี
“คุณปราบ....ทำไมต้องรุนแรงกับพี่มึนด้วยคะ” ทิพย์วารีลืมตัว หล่อนแหวใส่อย่างลืมกลัว
“พี่มึน?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นเป็นคำถาม
“ก็พี่หมีนี่แหละค่ะ หนูตั้งชื่อให้ว่าพี่มึน ดูหน้ามันสิคะ...มันดูมึน ๆ งง ๆ เห็นไหมคะ”
ทิพย์วารีไม่รู้ตัวหรอกว่าพูดกับเขาด้วยประโยคยาว ๆ เป็นครั้งแรกซ้ำยังยิ้มน่ารักแบบที่เคยเห็นหล่อนยิ้มให้กับคนอื่นบ่อย ๆ แต่กับเขาหล่อนแทบจะไม่เคยมองหน้า ด้วยซ้ำไป
“คุณจะมาเอาพี่มึนกลับไปแล้วใช่ไหมคะ” หญิงสาวถามด้วยความเสียดายอย่างปิดความรู้สึกไม่มิด
“ใช่....ถ้ามันยังนั่งเกะกะอยู่บนเตียงแบบนี้”
ทิพย์วารีหุบปากไม่กล้าถามเซ้าซี้ หล่อนรีบอุ้มพี่หมีขาวลงมาวางข้างเตียงทันที “นั่งตรงนี้ก่อนนะ” หล่อนกระซิบบอกพี่มึนราวกับกลัวมันจะลุกขึ้นมาเดินเกะกะเองได้
