32
“อยากได้อะไรอีกหรือเปล่า”
ปราบถามในขณะที่เขาก็ยังจับมือเล็กเอาไว้ไม่ยอมปล่อย...ทิพย์วารียอมรับว่ารู้สึกดี เกิดความอบอุ่นขึ้นในใจลึก ๆ ยอมให้เขาจับจูงเดินไปทั่วห้างตามแต่เขาต้องการ
“ไม่เอาแล้วค่ะ....ที่มีก็ใช้ไม่หมดแล้วนะคะ” ทิพย์วารีเขย่าแขนคนข้างตัว เมื่อเห็นเขาเลือกซื้อเสื้อผ้าให้หล่อน
“ทำไม...หรือว่าอยากได้ตุ๊กตาหมี” ชายหนุ่มหันมามองด้วยสายตาวิบวับคล้ายขบขัน…นี่เมียหรือลูกสาวกันแน่วะกู....อืม....ลูกสาวเหรอ ชายหนุ่มเผลอคิดไปถึงเรื่องที่ไม่เคยมีอยู่ในหัวสมองของเขามาก่อน ถ้าหากเขามีลูกสาวตัวน้อย ๆ คงจะน่ารักเหมือนแม่...เอ...หรือจะมีลูกชายหล่อ ๆ เหมือนกูดีวะ....
“ไม่เอาหรอกค่ะ...เดี๋ยวพี่มึนน้อยใจ” หญิงสาวปฏิเสธแค่ทุกวันนี้โดนเขี่ยไปนอนข้างเตียงก็น่าสงสารจะแย่แล้ว
“หืม....กลัวตุ๊กตาเสียใจ” ชายหนุ่มทำหน้าราวกับเจอเรื่องแปลกประหลาด
“ค่ะ” หญิงสาวพยักหน้ารับมองเขาตาแป๋ว
“เธอนี่มันจริง ๆ เลย” ปราบไม่ได้หงุดหงิดที่หล่อนคิดอย่างนั้น แต่ท่าทางของทิพย์วารีต่างหากที่ทำให้เขาอยากดึงเข้ามากอด มาหอมฟัดแก้มนุ่ม ๆ ซะเดี๋ยวนั้น....แต่ทำไม่ได้จึงต้องอึดอัดคับข้องอยู่อย่างนี้.....ชายหนุ่มเดินหนี ปล่อยให้ทิพย์วารียืนงงก่อนจะรีบซอยเท้าตามไปอย่างว่องไวสงสัยว่าตัวเองทำอะไรให้เขาไม่พอใจอีก
“อูย !...” ร่างเล็กชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างเพราะยั้งตัวเองไว้ไม่ทัน จู่ ๆ เขาก็หยุดเดินกะทันหันไม่มีกระพริบไฟเตือนกันบ้างเลย...ชิ....ทิพย์วารีคลำปลายจมูกตัวเองป้อย ๆ เพราะกระแทกเข้ากับแผ่นหลังแข็ง ๆ อย่างจัง ดีที่ว่าเป็นของจริง ไม่อย่างนั้นคงจะแย่แน่ ๆ เลย
“พี่ปราบขา...” สาวสวยเรือนร่างระหงแทบจะวิ่งโผเข้าหาอ้อมอกของคนร่างสูง พร้อมกับรอยยิ้มหวานหยดย้อย
ปราบยืนนิ่ง...ทิพย์วารีมองไม่เห็นว่าเขาทำหน้าอย่างไร แต่ที่แน่ ๆ แม่สาวคนสวยได้วิ่งเข้ามาสวมกอดเขาเอาไว้แบบไม่สนใจสายตาของคนที่เดินผ่านไปผ่านมา......ทิพย์วารีรู้สึกราวกับว่าตัวเองเป็นส่วนเกินยังไงก็ไม่รู้
“พี่ปราบขา.......น้องอรไม่เรียนต่อแล้วนะคะ...น้องอรตัดสินใจกลับมาหาพี่ กลับมาแต่งงานอย่างที่พี่ปราบต้องการแล้วค่ะ......ดีใจไหมคะ” หญิงสาวละล่ำละลักพูดอย่างดีใจ ยกแขนขึ้นกอดรัดจนแทบจะเข้าไปสิงร่างหนาอยู่แล้ว นาทีนี้หล่อนคงไม่ได้มีสายตาไว้มองใคร จึงไม่เห็นสาวน้อยที่ยืนแอบอยู่ข้างหลังผู้ชายตัวโตที่หล่อนกำลังกอดรัดอย่างดีใจ
ทิพย์วารียืนตัวแข็งทื่อ ยกมือขึ้นอุดปากตัวเองก่อนจะค่อย ๆ ก้าวถอยออกมาจากที่ตรงนั้น...สิ่งที่ได้ยินมันชัดเต็มสองหู...น้องอร....ชื่อนี้หล่อนได้ยินจากปากของเขาในคืนนั้น....หล่อนปะติดปะต่อเรื่องราวพอเห็นภาพราง ๆ หญิงสาวเดินออกมาอย่างสับสน.....เจ้าของเขากลับมาแล้วสินะ...กลับมาเพื่อแต่งงานอีกต่างหากแถมยังแต่งงานตามความต้องการของพี่ปราบอีกด้วย เพราะจากที่ได้ยินทุกอย่างชัดเจน แปลเป็นอย่างอื่นไม่ได้แน่.......
ทิพย์วารีเดินออกมาอย่างเหม่อลอยในขณะที่น้ำตาไหลออกมาเงียบ ๆ เรื่องราวในชีวิตเปลี่ยนแปลงขึ้นลงรวดเร็วมาก แค่เวลาไม่ถึงเดือน มีเหตุการณ์ผ่านเข้ามามากมาย จนหลายครั้งหล่อนเองก็แทบจะตั้งรับไม่ทันมันเกิดขึ้นคล้ายความฝันบางทีก็หวานมันแต่บางครั้งก็ขมปี๋......หญิงสาวรู้สึกตัวอีกทีก็เดินออกมานอกห้างแล้ว..หล่อนยกมือขึ้นปาดน้ำตาเมื่อพบว่ามันบดบังจนพร่าเลือน ทิพย์วารีตัดสินใจว่าจะต้องกลับไปบ้านคุณป้าอาภา หาที่ซุกตัวใช้เวลาเยียวยารักษาจิตใจและอยู่กับตัวเองเงียบ ๆ หล่อนจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาพิมพ์ข้อความเพื่อจะบอกให้เขารู้ว่าหล่อนกลับแล้ว...เพราะเขาอาจจะต้องการเวลาในการปรับความเข้าใจกับแฟนเก่าก็เป็นได้ แต่ยังไม่ทันได้ส่งก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นเสียก่อน
“ระวัง !....” ผู้กองหนุ่มตะโกนสุดเสียง เขาเห็นหญิงสาวกำลังก้มทำอะไรบางอย่างคงจะไม่เห็นรถที่แล่นตรงมาหาเป็นเหตุให้ร่างบอบบางโดนเฉี่ยวล้มลงทั้งที่รถคันนั้นพยายามเบนออกแล้วแต่ก็ไม่พ้นอยู่ดี…..
เสียงหวีดร้องเอะอะของผู้คนบริเวณนั้นดังขึ้นด้วยความตกใจ...
“ทิพย์วารี...ทิพย์วารี......ยัยน้ำ” ผู้กองหนุ่มวิ่งเข้าถึงตัวหญิงสาวเป็นคนแรกเขานั่งลงช้อนศีรษะขึ้นมาเห็นคนในอ้อมแขนหลับตาจึงส่งเสียงเรียก....กระทั่งเห็นหล่อนค่อย ๆ ลืมตาขึ้นมามองได้ก็ใจชื้น....
“พี่วาทิต.....” เสียงแหบโหยดังจากริมฝีปากซีดเซียว หญิงสาวงงที่จู่ ๆ หล่อนก็ถูกกระแทกเข้าทางด้านสีข้างจนกระเด็นล้มลง ตอนนี้เริ่มรู้สึกจุกและเจ็บพูดไม่ออก ทั้งเจ็บทั้งอายเมื่อเห็นผู้คนรายล้อมมุงดูมากหน้าหลายตาหล่อนจึงหลับตาลงอีกครั้ง
“ไปโรงพยาบาลก่อนนะ...เดี๋ยวค่อยพูด” ชายหนุ่มช้อนอุ้มร่างบางกลับไปที่รถ โดยที่บรรดาไทยมุงก็เปิดทางให้เมื่อเห็นว่าทั้งคู่รู้จักกัน……….
ทางด้านปราบตกใจที่จู่ ๆ หญิงสาวอดีตคนเคยรักที่เพิ่งจะสะบั้นรักกันไปได้ไม่ถึง เดือนเพราะเหตุที่หล่อนต้องการจะไปเรียนต่อต่างประเทศพร้อมกับหวานใจคนใหม่กลับเข้า มาหา ซ้ำยังพูดจาว่าจะกลับมาแต่งงานด้วย ราวกับว่าไม่เคยเกิดเรื่องราวบาดหมางระหว่างกันมาก่อน
“พูดอะไรของเธอ” ชายหนุ่มถามเสียงเข้มแกะสองแขนที่โอบรัดเขาเอาไว้ การกระทำแสดงออกถึงความห่างเหินอย่างเห็นได้ชัด......ชายหนุ่มหันมองหาทิพย์วารีซึ่งไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้แล้ว แต่น้องอรก็ยังยื่นมือเข้ามาเกาะแขนของเขาเอาไว้แน่นเหนียว
“พี่ปราบขา....น้องอรขอโทษ...ขอโทษ...เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมนะคะ” หญิงสาวยื้อยุดโดยไม่อายสายตาใครทั้งสิ้น
“ความจำเสื่อมหรือไงจำไม่ได้แล้วหรือว่าพูดอะไรไว้บ้าง......จบก็คือจบ” ชายหนุ่มตอบกลับอย่างไม่มีเยื่อใยเขามองใบหน้าสวยคมที่แต่งแต้มจัดเต็มอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าเขามองข้ามอะไรไป จึงได้เคยคิดจะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้….
“น้องอรขอโทษ....พอไปถึงที่นั่นน้องอรถึงได้รู้ว่ารักพี่ปราบมากมายแค่ไหน มากเสียจนทนอยู่ต่อไปไม่ได้....ยอมทิ้งทุกอย่างเพื่อพี่ปราบนะคะ...ได้โปรด..” หญิงสาวมองเขาด้วยสายตาละห้อย หยาดน้ำตาเอ่อคลอเต็มสองตา
