22
“ถ้ามึงทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งหวาดกลัวจนไม่กล้าเข้าใกล้ มึงจะแก้ไขยังไงวะ” ปราบตัดสินใจเปิดปากถามเพื่อนเผื่อจะมีคำแนะนำดี ๆ ถึงแม้ความหวังจะริบหรี่ก็ตาม
“มึงทำน้องน้ำกลัว?” วาทิตเลิกคิ้วถาม
“รู้แล้วจะถามทำไมวะ” ชายหนุ่มเซ็งจัด
“ก็มึงลีลาท่ามากอยู่นั่นแหละ......แล้วน้องมันกลัวมึงเรื่องอะไรล่ะ” วาทิตขยับตัว นั่งฟังอย่างตั้งใจ
“ก็เรื่องทั่ว ๆ ไป” ปราบตอบเสียงสูง
“เอาเรื่องจริง !” นายตำรวจหนุ่มคาดคั้นอย่างรู้ทัน
“ก็...เรื่องถึงเนื้อถึงตัวประมาณนี้” ปราบพูดไม่เต็มเสียงนัก
“วันที่เมาเละเทะ วันนั้นใช่ไหม” วาทิตคิดว่าไม่ผิดจากนี้แน่ ๆ
“มึงนี่มันสมควรแล้วที่อยู่ฝ่ายสอบสวน....สุดยอดจริง ๆ ว่ะเพื่อน” ปราบยอมรับกลาย ๆ
“...เฮ้อ...ไอ้ปราบ.....วอนคุกแท้ ๆ”
“แต่กูรับผิดชอบนะโว้ย...” ชายหนุ่มเถียงข้าง ๆ คู ๆ
“มันใช่ข้ออ้างในการทำความผิดไหมวะ...อะไรที่น้องมันเสียไปแล้วเอาคืนได้ไหม...ก่อนทำไม่คิด......แต่ก็อย่าลืมคำพูดตัวเองด้วยล่ะ”
“เมาขนาดนั้นจะเอาสติที่ไหนมาคิดวะ.....แล้วไหนล่ะ...คำแนะนำของมึง”
“มึงเรียนผูกก็เรียนแก้เอาเอง.....แต่กูว่าเรื่องนี้ต้องใจเย็น ให้เวลาน้องมันได้คุ้นเคยแล้วก็ไว้ใจ.....ช่วงนี้มึงก็อดไปก่อนก็แล้วกัน”
“ไอ้เวร...กูไม่ได้หน้ามืดขนาดนั้น” ดีที่ในผับมีแค่แสงไฟสลัว ไม่อย่างนั้นเพื่อนรักคงจะมีเรื่องได้ล้อเลียนเพิ่มขึ้นแน่ ๆ
“หมดธุระแล้ว...มึงกลับไปปลอบเด็กมึงเหอะ”
“ตกลงว่าวันนี้มึงมาเพราะเรื่องนี้เลยใช่ไหม”
“ใช่...ยัยพธูมันขอร้อง...รายนั้นห่วงเพื่อนยิ่งกว่าพี่ชายตัวเองเสียอีก...บอกตรง ๆ กูเสียดายว่ะ....มึงอย่าทำหลุดมือก็แล้วกัน” นายตำรวจหนุ่มไม่วายยิ้มกวนประสาท
“ไอ้วาทิต !” รู้ว่าโดนยั่วแต่ก็อดของขึ้นไม่ได้
ปราบกลับถึงเพนท์เฮ้าส์เกือบสี่ทุ่มเขาดื่มไปเล็กน้อยเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่องผิดพลาดอีก......หากเขาเป็นคนมักมาก วันนี้คงได้สร้างปัญหาเพิ่มขึ้นอีกแน่ ๆ แต่ยิ่งเห็นสิรินชายหนุ่มยิ่งรู้สึกว่าทิพย์วารีนั้นมีค่าแตกต่างราวฟ้ากับเหว ไม่น่าที่เขาจะทำให้หล่อนต้องแปดเปื้อนรอยราคีเลย แต่ทุกอย่างไม่สามารถเรียกกลับมาได้อีกแล้ว นอกจากทำปัจจุบันให้ดีที่สุด…..
“มานอนทำไมตรงนี้นะ” ปราบเห็นคนตัวเล็กเอนหลับมีหนังสือเล่มโตหล่นร่วงอยู่บนตัก ก็อดยิ้มด้วยความเอ็นดูไม่ได้.....เขาหยิบหนังสือออกมาวางไว้บนโต๊ะก่อนจะหันไปช้อนอุ้มเรือนร่างบางขึ้นไว้ในวงแขนตั้งใจจะพาหล่อนกลับเข้าไปนอนในห้อง
“อื้อ.....” หญิงสาวออกเสียงเหมือนรำคาญ เมื่อมีสิ่งรบกวนการนอนอันแสนสุขหล่อนปัดไม้ปัดมือออกไปโดยไม่ตั้งใจ
“นิ่ง ๆ เดี๋ยวก็ตกลงไปหรอกยัยเด็กดื้อ”
เสียงห้าวทุ้มดังอยู่ข้างหู เป็นผลให้ดวงตาที่ปิดสนิทเบิกโตขึ้นทันที
“อุ้ย...ว้าย !!....” ทิพย์วารีรีบกอดลำคอหนาเอาไว้แน่น เมื่อเขาแกล้งทำท่าจะเทลงง่าย ๆ
“คิดถึงพี่มากหรือไง มาถึงก็กอดแน่นเชียว” ริมฝีปากยกยิ้มนัยน์ตาพราวระยับ ใบหน้าอยู่ไม่ห่างเป็นผลให้คนที่ถูกถามหน้าแดงซ่านเอียงหลบกับอกกว้าง
“คุณ...เอ่อ...พี่ปราบ ปล่อยเถอะค่ะหนูเดินไปเองได้” หญิงสาวเกร็งไปหมด ไม่รู้ทำไมเหมือนกันอาจจะเพราะกลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ผสมกับกลิ่นหอมในแบบเฉพาะตัวของเขาก็เป็นได้
ชายหนุ่มวางคนตัวเล็กบนที่นอนหนานุ่มก่อนจะตามลงไปนอนข้าง ๆ ไม่ได้รุกรานอย่างที่หญิงสาวนึกกลัว
“พี่ปราบดื่มมาเหรอคะ”
“นิดหน่อย”
“ไปอาบน้ำก่อนดีไหมคะ...เดี๋ยวค่อยมานอน”
“เหม็นเหล้าหรือไง”
“เปล่าค่ะ...หนู...เอ่อ..หนูแค่ไม่ชอบ” ทิพย์วารีตอบอุบอิบ ดูเหมือนช่วงนี้หล่อนจะกล้ามากไปแล้ว บังอาจไปก้าวล่วงเรื่องส่วนตัวของเขา....จะรอดไหมเนี่ยเรา
“อยากให้เลิกหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามอย่างอารมณ์ดี
“อยากค่ะ...เหล้าไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรเลย..พี่ปราบจะเลิกจริง ๆ ใช่ไหมคะ” หญิงสาวตื่นเต้นมองใบหน้าหล่อคมด้วยดวงตาเป็นประกายฉายความพอใจออกมาอย่างไม่ปิดบัง......ดีใจที่เขายอมฟังผู้หญิงตัวเท่ามดอย่างหล่อน…หญิงสาวเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจ
“งั้นก็ทำให้ฉันเพลิดเพลินจนลืมนึกถึงเหล้าหน่อยสิ...ทำได้หรือเปล่าหืม....” นิสัยนี้เลิกไม่ได้จริง ๆ จะทำอะไรสักอย่างเขาต้องมีแต่ได้กับได้….หวังผลเลิศเสมอ
“หนูต้องทำยังไงคะ” ทิพย์วารีถามอย่างกระตือรือร้นโดยไม่อะใจเลยสักนิด หล่อนพลิกตัวนอนคว่ำเอามือเท้าคางจ้องมองคนตัวโตตาแป๋ว ในขณะที่คนเจ้าเล่ห์นอนหงายแผ่หลาอวดแผงอกแน่นตึงภายใต้เสื้อเชิ้ตแบบสลิม
ชายหนุ่มตะลึงไปชั่วขณะ....เฮ้อ...ไหวไหมวะกู....ปราบได้แต่บ่นในใจ…ยัยเด็กนี่น่ารักเป็นบ้า...หล่อนจะรู้ตัวบ้างไหมว่าท่าทางแบบนี้มันจะทำให้เขาใจเย็นไม่ไหวเอา......
“ช่างเถอะ เอาไว้วันหลังค่อยคุยกัน”
