21
ภายในผับหรู สิรินในชุดเกาะอกสีดำที่โอบประคองเต้าทรวงไว้แค่ครึ่ง ๆ หุ่นทรง อกเอวของหล่อนดึงดูดสายตาผู้ชายสายหื่นไม่น้อย ซึ่งเจ้าตัวไม่ได้ยี่หระเลยสักนิด ออกจะภาคภูมิใจด้วยซ้ำ....หญิงสาวยืนหน้าตาบูดบึ้งอยู่กับเพื่อนสาวที่แต่งกายสไตล์เดียวกัน มองผ่าน ๆ ไม่น่าเชื่อว่าหล่อนจะเป็นนักศึกษาปีสี่ของมหาวิทยาลัยชื่อดัง......
“ตกลงว่าแฟนแกจะมาวันนี้หรือพรุ่งนี้ยะ” สิรินกระชากเสียงถามเพื่อนสาวที่เป็นคนชวนหล่อนมาเที่ยว คุยไว้ดิบดีว่าแฟนหล่อนจะมาพร้อมไฮโซหนุ่มรูปหล่อ.... สิรินถึงได้ตามมาด้วยเผื่อจะถูกใจกว่าพี่ปราบ...หล่อนถือว่ามีไว้ให้เปรียบเทียบเทียบหลาย ๆ คนดีกว่าจะเสี่ยงกินแห้วกับคนคนเดียว....ถ้าไม่ใช่ก็แค่ขำ ๆ แล้วก็ผ่านไป
“ขอโทษทีว่ะแก...พี่เขาไลน์มาบอกว่าติดธุระด่วน” จูนบอกกับเพื่อนเสียงอ่อย
“เสียเวลาชะมัดเลย งั้นก็กลับ” สิรินกำลังจะกลับ...แต่บังเอิญเหลือบไปเห็นสองหนุ่มดูภูมิฐานเดินเข้ามาอีกทาง......และหนึ่งในนั้นคือพี่ปราบ ชายหนุ่มที่หล่อนหมายมั่นจะจับให้อยู่หมัด......ตั้งเป้าหมายไว้แล้วว่าพ่อของลูกต้องชื่อปราบเท่านั้น…..
“จะไปไหนน่ะแก...” จูนงง ที่สิรินทำท่าจะเดินกลับเข้าไปในผับทั้งที่เพิ่งจะชวนกันกลับบ้าน
“แกกลับไปก่อน ฉันเจอคนรู้จัก” สิรินถือโอกาสไล่เพื่อนกลับบ้าน
“จะดีเหรอแก ฉันอยู่เป็นเพื่อนดีกว่านะ” จูนอาสาเพราะคิดว่าผู้หญิงมาเที่ยวในสถานที่แบบนี้คนเดียวคงไม่เหมาะเพราะหล่อนไม่ค่อยรู้เบื้องลึกเบื้องหลังของสิรินมากนัก...รู้แต่ว่าเป็นไฮโซ ลูกคุณหนู......ซึ่งเป็นภาพที่หล่อนแสดงออกให้ทุกคนเข้าใจอย่างนั้น...ส่วนความจริงเป็นอย่างไรก็อีกเรื่องหนึ่ง
“ไม่เป็นไร แกกลับไปก่อนเหอะน่า...” สิรินเสียงแข็งเริ่มจะรำคาญ...จูนจึงยอมกลับไปแต่โดยดีและหลังจากไล่ให้เพื่อนสาวกลับไปได้แล้ว หญิงสาวก็ทิ้งระยะห่างเดินหลบเข้าห้องน้ำยืนหมุนซ้ายขวาหน้ากระจกบานใหญ่ ขยับซิลิโคนให้เข้าที่เช็คความเรียบร้อยอีกรอบก่อนจะเดินไปใกล้ ๆ โต๊ะที่สองหนุ่มนั่งอยู่ ทำทีเป็นบังเอิญมาเจอกัน….
“พี่ปราบใช่ไหมคะ....สวัสดีค่ะ” สิรินเดินเข้าไปหา ก้มลงสวัสดีจนนมแทบจะทะลักลงมากอง
ปราบนิ่วหน้าไม่ค่อยพอใจที่เจ้าหล่อนเข้ามารบกวนความเป็นส่วนตัว เขาชายตามองผู้หญิงที่เพิ่งเข้ามาทัก หล่อนแต่งตัวเปิดเผยเนื้อตัวอย่างที่เห็นได้จากผู้หญิงในแหล่ง อโคจรทั่วไป ไม่ได้สร้างความแปลกใหม่เร้าใจให้แก่เขาเลยแม้แต่น้อย...กลับสร้างความเบื่อหน่ายสะอิดสะเอียนมากกว่า
“สิรินไงคะ ที่ไปพบพี่ปราบวันนั้นไง...น่าน้อยใจนะคะไม่ทันไรก็ลืมกันซะแล้ว” หญิงสาวแสร้งทำท่ากระเง้ากระงอดตั้งใจให้แลดูน่ารัก
“จะนั่งด้วยกันหรือแค่แวะมาทักทาย”
เย็นชาฉิบหา...ย.....วาทิตเห็นท่าทีที่เพื่อนแสดงออกแล้ว ก็ให้นับถือในความแข็งแรงของใบหน้าสาวน้อยที่มาใหม่ .....หล่อนช่างทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สาได้เก่งแท้ ๆ
“สิรินรบกวนนั่งด้วยสักครู่นะคะ พอดีนัดกับเพื่อนไว้แต่ยังไม่เห็นมากัน”
“เชิญ”
วาทิตนั่งมองหญิงสาวที่มีจริตจะก้านแพรวพราวเงียบ ๆ ไม่รู้ว่าเพื่อนรักไปรู้จักกันตอนไหน หรือจะเป็นคู่ค้าคู่ขาก็ไม่อาจจะรู้ได้ แต่ที่แน่ ๆ คงไม่ใช่คนสำคัญแน่นอน เพราะเพื่อนเขารสนิยมดีกว่านี้เยอะ
“ขอโทษนะคะ แล้วพี่คนนี้...” สิรินถือโอกาสนั่งข้าง ๆ พ่อของลูกในอนาคต สองมือถือวิสาสะเกาะแขนชี้ชวนถามถึงอีกหนึ่งหนุ่มข้างหน้าอย่างสนิทสนม
“ผู้กองวาทิต...” ปราบจำใจต้องแนะนำตามมารยาทเมื่อหล่อนพูดมาซะขนาดนั้น
“สวัสดีค่ะพี่วาทิต....” สิรินหันมาไหว้อย่างอ่อนช้อย นัยน์ตาหวานฉ่ำ
“เอ่อ...สวัสดีครับ” วาทิตรับไหว้ เขาเกือบจะเผลอเกาหัวตัวเอง...ทำไมต้องส่งสายตาอย่างนั้นด้วยวะ...บอกก่อน...ว่ากูเลือกกิน.....ชายหนุ่มได้แต่เข่นเขี้ยวในใจ...ไม่ชอบผู้หญิงที่เที่ยวหว่านเสน่ห์เรี่ยราดแบบนี้เลยจริง ๆ พับผ่าสิ….
ปราบสั่งน้ำส้มมาให้หญิงสาวและทันทีที่บริกรนำมาเสริฟเจ้าหล่อนถึงกับหัวเราะคิก…
“นี่พี่ปราบนึกว่าสิรินเป็นนางเอกเหรอคะ” หญิงสาวถามยิ้ม ๆ พลางเอียงคอช้อน สายตาขึ้นมองในท่าทางที่คิดว่าน่ารักที่สุด
“เปล่า...แค่ไม่อยากให้เธอเมาแล้วต้องเดือดร้อนคนอื่น” ปราบเอ่ยเสียงเรียบนิ่งไม่มีแววล้อเล่นเลยสักนิด
“เอ่อ....ความจริงสิรินก็ไม่ชอบดื่มหรอกค่ะ...ขอบคุณนะคะที่พี่ปราบห่วงใยสิริน” หญิงสาวหน้ามึน ถือโอกาสเอนตัวเข้ากอดแขนจนกระทั่งเจ้าสองก้อนแน่น ๆ เสียดสีกับแขนแกร่งอย่างตั้งใจ…ดูซิว่าใจจะแข็งแค่ไหน......
ปราบชักสีหน้าไม่พอใจผลักหล่อนออกเบา ๆ ใช้สายตากดดันจนกระทั่งสิริน ต้องล่าถอย
“ป่านนี้เพื่อนเธอคงจะมาแล้ว....ลองไปหาดูดี ๆ ถ้ายังไม่มาก็กลับบ้านไปซะ... เป็นผู้หญิงควรรู้จักระวังตัวเอาไว้บ้าง...” ปราบออกปากไล่และอบรมในคราวเดียวกัน
“ก็ได้ค่ะ...ขอบคุณนะคะพี่ปราบที่หวังดีกับสิริน” หญิงสาวจำใจต้องเอ่ยลาแม้จะเจ็บใจแค่ไหน หล่อนก็ยังยิ้มได้ วันหน้ายังมีหล่อนอาจจะโชคดีเข้าสักวัน ....ดังนั้นความหงุดหงิดไม่พอใจจึงถูกเก็บซ่อนไว้ในใจอย่างมิดชิด........เกย์หรือเปล่าวะ...เอานมถูขนาดนั้นถึงได้ไม่รู้สึกอะไรเลย......
“อะไรวะ...ทำไมต้องหงุดหงิดใส่น้องเขาขนาดนั้น” วาทิตถามยิ้ม ๆ
“รำคาญ.....เบื่อว่ะ...” ชายหนุ่มส่ายหน้าอย่างเอือมระอา
“อืม...งั้นไปบวช”
“ไอ้วาทิต !”
“เออ...กูไม่กวนแล้ว...ว่าแต่มึงมีอะไรหรือเปล่าวะถึงได้ทำท่าอย่างกับแบกโลกเอาไว้อย่างนั้นแหละ....อ๊ะ...อย่าบอกว่าเปล่า....เพราะกูไม่เชื่อ” วาทิตพูดดักคอเอาไว้ก่อน
