บท
ตั้งค่า

20

ปราบชะงักเมื่อได้ยินเสียงห้ามปนสะอื้นของคนใต้ร่าง ชายหนุ่มหย่งตัวขึ้นมองหน้าคนหญิงสาวอย่างเต็มตา ภาพที่เห็นทำให้รับรู้ได้ถึงความกลัวจากใจไร้การเสแสร้งยิ่งตอกย้ำว่าสิ่งที่เขาทำได้ทิ้งรอยตราบาปไว้ สร้างความสะเทือนใจให้กับทิพย์วารีมากมายนักหนา...ชายหนุ่มละอายใจเกินกว่าจะหักหาญเอาแต่ใจตัวเอง จึงได้หักห้ามใจหยุดการกระทำทั้งหมด...

“กลับเข้าห้องไปซะ” ปราบสั่งเสียงเครียด ก่อนจะขบกรามแน่นอย่างต้องการข่มอารมณ์เต็มที่จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนหันหลังให้ทันที....

ทิพย์วารีหยัดกายขึ้นด้วยความงุนงงแต่ก็โล่งใจที่เหตุการณ์เลวร้ายไม่ได้เกิดขึ้นอย่างที่นึกกลัว หล่อนรีบวิ่งเข้าห้องนอนไปทั้งที่ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าหนีอะไร จนกระทั่งพาตัวเองขึ้นมานั่งอยู่บนเตียง น้ำตาเจ้ากรรมก็ยังไม่ยอมหยุดไหลได้แต่นั่งกอดตัวเอง สะอื้นไห้จนหมดแรงก่อนจะเอนกายลงนอนและหลับใหลไปทั้งคราบน้ำตา……

เช้าวันใหม่ทิพย์วารีลืมตาตื่นขึ้นมาบนเตียงนอนแต่เพียงผู้เดียวข้างกายว่างเปล่า ไม่มีคนตัวโตที่ปกติเขาจะนอนกอดหล่อนไว้ทั้งคืนตั้งแต่หลับจนกระทั่งลืมตาตื่นจากที่อึดอัดกลายเป็นความเคยชินแค่ระยะเวลาอันสั้น......วูบแรกคล้ายจะรู้สึกผิดหวังที่ไม่เห็นเขาอย่างเคย...ไม่สิ....มันก็แค่ความเคยชิน…หญิงสาวยื่นมือไปบนที่นอนข้างกายสัมผัสได้ถึงความเย็นแสดงว่าเมื่อคืนเขาคงไม่ได้เข้ามานอนในห้องนี้สินะ.......

หญิงสาวออกมานอกห้องกวาดสายตาสอดส่องก็ไม่เห็นแม้เงาของพี่ปราบหรือว่าเขาจะโกรธเรื่องเมื่อคืน แต่ถ้าจะมีใครสักคนที่โกรธ คนคนนั้นก็ควรจะเป็นหล่อนต่างหาก เขาจะมาโกรธหล่อนเรื่องอะไรกัน.....คิดไปก็ไม่ได้คำตอบสาวตัวเล็กจึงตัดสินใจทำอาหารง่าย ๆ สำหรับสองที่เผื่อเขาจะแค่ลงไปทำธุระแถวนี้เดี๋ยวก็คงจะกลับ แต่จนแล้วจนรอดคนตัวโตก็ไม่กลับขึ้นมาให้เห็น...

บ่ายวันนั้นปราบนั่งหมุนปากกาเล่นในมืออย่างคนที่กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก...เฮ้อ... หนักกว่าการทำธุรกิจของเขาเสียอีก ไม่รู้จะทำยังไงกับยัยตัวเล็กถึงจะหายขวัญเสียหวาดผวาสักที เท่าที่ทำอยู่นี้ก็นับว่าใจเย็นมากแล้ว สำหรับคนอย่างเขายังไม่พออีกหรือวะ...

“เฮ้ย !...เป็นอะไรหรือเปล่าวะเพื่อน...หรือว่ายังตัดใจจากน้องอรไม่ได้” วาทิต นายตำรวจหนุ่มรูปร่างสูงหล่อคมเข้มเพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเรียนที่สำคัญคือสนิทสนมกันตั้งแต่รุ่นแม่ .....ชายหนุ่มเข้ามาเจอเพื่อนอยู่ในสภาพนี้ไม่ได้แปลกใจมากมายนัก แต่สาเหตุนี่สิ...เป็นเพราะเรื่องอะไรกันแน่

“มึงลืมมารยาทเอาไว้ที่บ้านหรือไงวะ...ถึงได้ไม่เสือกเคาะประตูก่อน.....”

“กูเคาะจนมือจะหักแล้วเนี่ย...มึงมัวแต่ไปเฝ้าพระอินทร์หรือว่าคิดถึงนางฟ้ากันแน่ ถึงไม่ได้ยิน” วาทิตพูดเกินจริงไปนิด

“มึงไม่ต้องนอกเรื่อง...มีอะไรก็ว่ามา” ปราบเริ่มหงุดหงิด

“วันนี้กูว่าง” นายตำรวจหนุ่มในชุดลำลองหย่อนสะโพกลงนั่งบนโซฟาด้วยท่าทางสบาย ๆ

“แล้ว?...” ปราบเดาไม่ออก วาทิตมาแปลก

“พากูไปรู้จักกับน้องสาวมึงหน่อย” วาทิตเอ่ยจบก็จ้องมองหน้าเพื่อนตาไม่กระพริบ

“กูไม่มีน้องสาว” ตอบเสียงสะบัด เริ่มมองเห็นลางหายนะลอยมาตรงหน้า

“อ้าว...ก็คนที่มึงไปรับไปส่งที่มหาวิทยาลัยไง...น้องน้ำใช่ไหม......เอ..หรือว่าไม่ใช่” วาทิตหรี่ตามองเพื่อนอย่างจับผิด ทั้งคู่คบกันมานานมาก จนไม่สามารถปิดบังได้ มีอาการเพียงนิดก็โป๊ะแตกแล้ว

“ไอ้วาทิต !...มึงมีอะไรก็พูดมา.....อย่ามัวโยกโย้ กูไม่ใช่ผู้ต้องหาของมึงนะ ไอ้เวรนี่... ...”

“กูก็แค่จะถามให้แน่ใจว่ามึงคิดอะไรกับน้องเขาหรือเปล่า”

“ทำไมกูต้องบอกมึง”

“อ๊าว...ถ้าไม่คิดกูจะได้คิด ยัยพธูยิ่งเชียร์ให้กูจีบน้องน้ำอยู่ด้วย แล้วตอนนี้กูก็ว่างจะไปทำความรู้จักกับน้องมันสักทีถึงได้มาถามมึงก่อนไง ไม่อยากเห็นมึงเมาเหมือนหมาเป็นครั้งที่สองอีก”

“ไม่ต้องเสือก...ยัยน้ำยังเรียนไม่จบ”

“เหรอ......” วาทิต ลากเสียงยาวแค่นี้ก็รู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร ไม่ต้องซักไซ้กันให้มากความหวงก้างซะขนาดนั้น

“เฮ้อ ! ช้าไปก้าวเดียวจริง ๆ เลยกู” วาทิตแกล้งบ่นอย่างเสียดาย ปราบไม่พูดอะไรได้แต่ปรายตามามองอย่างไม่ค่อยพอใจ....

“งั้นเย็นนี้ไปกินเหล้ากันดีกว่าว่ะ”

“ไม่ล่ะ..กูไม่อยากพลาดอีก” ปราบเผลอพูดสิ่งที่มันวนเวียนรบกวนจิตใจตลอดเวลา....ก็แทบจะตบปากตัวเอง

“เฮ้ย ! หมายความว่ายังไงวะ” ปากถามออกไป แต่ความคิดนำไปก่อนแล้ว

“เออ...อย่าขี้สงสัยนักเลย เย็นนี้กูเลี้ยงข้าวมึงก็ได้” ปราบตัดบท ไม่อย่างนั้นคงโดนซักไม่เลิก..แค่นี้ก็รู้ไส้รู้พุงกันหมดแล้ว....สงสารก็แต่ยัยตัวเล็ก ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ปล่อยให้อยู่คนเดียวเดี๋ยวก็เอาแต่ร้องไห้ขี้มูกโป่ง...เมื่อคืนเขาไม่กล้าเข้าไปปลอบเพราะไม่ไว้ใจตัวเองว่าจะข่มใจได้หรือเปล่า จึงได้นอนที่ห้องเล็ก ตอนเช้าก็ย่องเข้าไปเอาเสื้อผ้าแต่เช้ามืด ยังแอบเห็นคราบน้ำตาของเจ้าหล่อนอยู่เลย....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel