บทที่ 2.
เพลินฝันจ้องมองใบหน้าชายหนุ่มครู่หนึ่ง ก่อนจะชั่งใจว่าเธอควรพูดถึงเรื่องราวของเธอให้ชายหนุ่มตรงหน้าฟังดีไหม
“พ่อฉันเคยประสบอุบัติเหตุล้มหัวฟาดพื้นในห้องน้ำ มีแค่ฉันที่อยู่กับเตี่ย ฉันขับรถออกมาด้วยความเร็วแม้ว่าฉันจะไม่เคยขับรถเลยก็ตาม”
รันเวย์จ้องใบหน้าหญิงสาวด้วยความรู้สึกสงสาร กับเรื่องราวที่เธอเจอ
“รถของฉันพุ่งชนกับคนสปอร์ตคันหนึ่ง ซึ่งเขาก็ลงมาช่วยฉันเอาไว้ ถ้าวันนั้นคนที่อยู่กับเตี่ย คือพี่สาวของฉัน วันนี้คนที่นั่งปลอบฉันข้าง ๆ คงเป็นเขา”
เพลินฝันร่ำไห้ออกอย่างหนักหน่วง เมื่อนึกถึงความสูญเสียในอดีตของตัวเอง
“ฉันแค่อยากมีคนสักคนที่เข้าใจ และอยู่ข้าง ๆ แต่ทำไมทุกคนถึงเอาแต่หวังจะทำเรื่องแบบนั้นกับฉัน”
เพลินฝันยังคงร่ำไห้ออกอย่างหนัก หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าเธอเพียงอยากบริหารเสน่ห์ รวมถึงชายหนุ่มตรงหน้าเธอ แต่จะมีใครรู้ว่าที่เธอพยายาม เดตกับผู้ชายหลาย ๆ คน ก็เพียงแค่อยากมีแฟนดี ๆ สักคน
รันเวย์มองหญิงสาวตรงหน้าพรั่งพรูเรื่องราวในอดีตด้วยสายตาที่อบอุ่น
“พรุ่งนี้หลังเลิกเรียนเราไปกินหมูกระทะกันนะ”
“นายกำลังชวนฉันเดตเหรอ”
“งั้นมั้ง”
“ชิ ร้านหมูกระทะ ไม่โรแมนติกเลย แต่มันเป็นของโปรดฉัน ให้อภัย”
“หึ”
รันเวย์หัวเราะให้กับความน่ารักของเธอ ก่อนที่เสียงโทรศัพท์ของตัวเองจะดังขึ้นขัดจังหวะ
“ไปรับโทรศัพท์ก่อนนะ”
รันเวย์เอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินไปที่ริมระเบียง พร้อมกับหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ เพลินฝัน ลอบมองใบหน้าไม่สบอารมณ์ของชายหนุ่มเพียงนิด เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเริ่มมีท่าทีไม่สบอารมณ์จึงเดินไปหยิบน้ำ แต่ก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ชายหนุ่มนั้นเดินออกมาพอดี
“ฉันมีธุระ ต้องไปจัดการ กลับก่อนนะ”
“อืม.. ขอบใจนะที่ช่วยฉันไว้”
รันเวย์เดินออกมาจากคอนโดหญิงสาวทันที ก่อนจะขับรถออกมาด้วยความรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึงมหา’ลัย ร่างสูงขบกรามแน่นเมื่อเห็นเด็กสาวนั่งรอเขายามวิกาลคนเดียว
“เพียงฝัน!“ชายหนุ่มตวาดเสียงดังลั่น ก่อนจะลงจากรถเข้ามากระชากเรียวแขนของเธออย่างแรง
“เอ่อ...เพียง คิดว่าพี่รันเวย์ยังไม่เลิกเรียน เลยมารอกลับพร้อมกัน”
เพียงฝันเด็กสาววัยสิบเก้าปีเอ่ยขึ้น เธอเพิ่งเข้ามาให้มหา’ลัยนี้ เธอจึงไม่ค่อยมีเพื่อน มีเพียงรันเวย์ที่เท่านั้นที่เธอรู้จัก
“เพียงฝัน เลิกยุ่งกับชีวิตฉันสักทีได้ไหม ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ฉันก็ไม่มีวันรักเธอ ได้ยินไหมว่าฉันไม่มีวันรักเธอ”
รันเวย์ตวาดเสียงดังลั่น สร้างความตกใจให้สาวตรงหน้า อยู่ไม่น้อย เพียงฝันเก็บความเจ็บปวดไว้ภายใต้ใบหน้าสดใส ก่อนจะเอ่ยตอบชายหนุ่มออกไป
“เพียง โทรหาเพื่อนแล้วค่ะ อีกประมาณห้านาทีก็คงถึง”
เพียงฝันเลือกที่จะโกหกออกไป จริง ๆ แล้ว เธอแค่ไม่อยากได้ยิน คำพูดร้ายกาจ ออกมาจากปากของเขา แม้จะเตรียมใจไว้บ้างแล้ว แต่พอเอาเข้าจริง เธอกลับรับมันไม่ไหว หยดน้ำตาที่กลั้นเอาไว้ก็จะไหลออกมาอยู่รอมร่อ
“ดี! ทีหลังถ้ามีคนมารับแล้วก็ไม่ต้องโทรหาฉัน”
ครึม! ซ่า!!
ปัง!
รันเวย์เดินกลับไปที่รถของตัวเอง ก่อนจะขึ้นรถและขับออกไปทันที เสียงฝนกระหน่ำตกมาอย่างหนัก เพียงฝันร่ำไห้ออกมาทันที หลังจากที่รถสปอร์ตคันหรูขับเคลื่อนออกไป เธอเดินกลับบ้านท่ามกลางสายฝนกระหน่ำ เพียงฝันนึกถึงเรื่องราวในวัยเด็ก รันเวย์เคยเป็นพี่ชายที่อบอุ่นของเธอจนวันหนึ่ง พ่อและแม่ของเขาและเธอต่างตกลงปลงใจให้ทั้งสองหมั้นกันในวัยเด็ก จนวันหนึ่งพ่อและแม่ของเธอเสียไป สัญญาทุกอย่างก็ค่อย ๆ เลือนหายไป เหลือเพียงความรู้สึกของเธอที่ยังเหมือนเดิมเสมอ หลังจากที่พ่อแม่ของเธอเสียธุรกิจของพ่อเธอล้มละลาย เพียงฝันจำเป็นต้องอยู่กับป้าและหลานอีกคน ฐานะทางบ้านค่อนข้างปานกลาง ทำให้เธอต้องทำงานส่งตัวเองเรียน ป้าของเธอพยายามบังคับให้เธอจับรันเวย์ แต่หญิงสาวนั่นรักชายหนุ่มจริง ๆ แม้ว่ารันเวย์จะไม่เคยสนใจเธอเลยก็ตาม
เพียงฝันที่เดินออกมาไกลพอสมควร แต่เหมือนฝนก็ยังไม่มีท่าทีที่จะหยุด เธอหลังหลบมุมที่ป้ายรถเมล์ หนาวเหน็ดหนาวแผ่ซ่านไปทั่วร่างเธอทำได้เพียงกอดตัวเองท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมา หยาดน้ำตาบวกกับหยดน้ำฝนที่ตกลงมาทำให้หญิงสาวรีบเช็ดมันออก ก่อนจะนั่งรอให้ฝนหยุดตกลงมา แล้วเธอค่อยเดินทางต่อ
มิวกี้ ที่เห็นว่าพี่สาวของเธอไม่กลับมาถึงบ้านสักที จึงพยายามติดต่อเพียงฝัน แต่โทรยังไงก็โทรไม่ติด จึงตัดสินใจโทรหารันเวย์ เพราะรันเวย์เป็นคนเดียวที่เพียงฝันรู้จัก
“ฮัลโหล อ๊า!!”
คำแรกที่ชายหนุ่มกดรับสาย ทำให้เด็กสาวรับรู้ได้ทันที ว่าชายหนุ่มนั้นกำลังทำอะไรอยู่
“พี่เพียงฝันยังไม่ถึงบ้าน ไม่ทราบว่าอยู่กับพี่หรือเปล่าคะ”
“เพียงฝันกลับบ้านกับเพื่อน”
“พี่เพียงฝันไม่รู้จักใครนอกจากพี่ จะกลับกับเพื่อนได้ยังไงคะ”
คำพูดของเด็กสาว ทำให้ชายหนุ่มรับรู้ได้ทันที ว่าเพียงฝันโกหก
พึบ! รันเวย์ผลักร่างหญิงสาวออกจากตัวเองทันที ก่อนจะใส่เสื้อผ้า และออกจากโรงแรมทันที
