บทที่ 1
ครืด...ครืด...
เสียงแจ้งเตือนข้อความของหญิงสาวดังขึ้น ก่อนที่หญิงสาวจะเปิดอ่านข้อความ
หญิงหญิง : ฉันไปไม่ทัน ขอไม่เข้านะ ฉันจะกลับคอนโดเลย แกกลับเองได้ใช่ไหม
เพลินฝันแทบกุมขมับเมื่อได้เปิดอ่านข้อความของเพื่อนเธอ เพราะตัวเธอนั้นขับรถยนต์ไม่เป็นและมักจะอาศัยรถเพื่อนสนิทอย่างหญิงหญิงมามหา’ลัย เธอถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ก่อนที่รันเวย์จะเอ่ยถามเมื่อเห็นเธอเริ่มแสดงท่าทีไม่พอใจออกมา
“มีอะไรรึเปล่า”
“เปล่า”
เพลินฝัน ตอบปัดออกไป แม้ชายหนุ่มตรงหน้าจะหล่อแค่ไหน เธอก็ไม่คิดที่อ่อยด้วยวิธีให้ชายหนุ่มไปส่งที่คอนโดหรอก เพราะมันเบสิกเกินไป หลังจากจบคลาสเรียน เธอก็เก็บของและออกไปจากห้องด้วยท่าทีร้อนรนทันที สร้างความงุนงง ให้รันเวย์เป็นอย่างมาก แต่ชายหนุ่มก็ไม่ได้ตามร่างเธอออกไป เพราะถึงยังไงเธอกับเขาต้องได้เจอกันอีกแน่ และคงจะต้องเจอกันบ่อยขึ้น เพลินฝันมีใบหน้าที่สวยใครมองก็ชวนหลงใหล แต่มันไม่ใช่แค่เขาที่อยากได้เธอมาครอบครอง เพราะดูเหมือนจะมีชายหนุ่มหลายคน ที่อยากครอบครองเธอเช่นกัน ซึ่งเรื่องนั้นรันเวย์ดูท่าเหมือนจะไม่มีทางยอม เพลินฝัน จะต้องขึ้นชื่อว่า เป็นแฟนสาวของเขาเท่านั้น
เพลินฝันเดินย่างกรายริมถนนด้วยความเร่งรีบ เธอต้องไปถึงคอนโดตัวเองก่อนตะวันจะตกดิน เพราะเธอเกลียดการเดินทางคนเดียวที่สุด เพราะในชีวิตของเธอ มีพ่อและพี่สาวคอยดูแลมาตลอด แต่หลังจากพ่อของเธอเสียไปเธอก็ใช้ชีวิตคนเดียว ส่วนพี่สาวของเธอก็ยุ่ง ๆ อยู่กับการเลี้ยงลูกและสร้างธุรกิจ แต่เธอไม่อยากทำตัวมีปัญหา จึงไม่อยากรบกวนพี่สาวตัวเอง เธอเลือกที่จะออกมาใช้ชีวิตคนเดียว อาจจะมีบางครั้งที่พาฝันนั้น ส่งคนมาดูแลเธอ แต่เพลินฝันก็ปฏิเสธทุกครั้ง เพราะไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตส่วนตัวของตัวเอง
เพลินฝันใช้เวลาเพียงไม่นานก็มาถึงคอนโดตัวเอง
“เพลิน”
เสียงชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยเรียกเธอ
เพลินฝัน ค่อย ๆ หันไปตามเสียงเรียกของชายหนุ่ม และเธอจำได้ดีว่ามันคือเสียงของใคร
“พี่อาร์ต”
เพลินฝันเอ่ยเรียกชื่อชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความตกใจ อาร์ต คือผู้ชายที่เธอเคย เดตด้วย แต่เหมือนว่าทั้งสองจะเข้ากันไม่ได้ เพลินฝันจึงเลือกที่จะปลีกตัวออกห่าง เพราะอาร์ตเองก็ดูเหมือนจะไม่จริงใจกับเธอ
“ทำไมไม่รับสายพี่ครับ”
ชายหนุ่มรุ่นพี่ของเธอเอ่ยขึ้น ก่อนจะเดินเข้าไปโอบไหล่ของเธอเบา ๆ เพลินฝันสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจ เมื่อชายหนุ่มเริ่มรุ่มร่ามกับร่างของเธอ เพลินฝันค่อย ๆ แกะมือชายหนุ่มออกช้า ๆ ก่อนจะเดินหนีออกไป แต่ก็โดนชายหนุ่มกระชากแขนเอาไว้
“คิดว่าจะเทกันง่าย ๆ รึไงวะ”
“โอ๊ย! ปล่อยนะ”
เพลินฝันพยายามแกะแขนออกจากการเกาะกุม แต่ก็โดนชายหนุ่มนั้นกระชากแรงขึ้น
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย”
เพลินฝันพยายามร้องขอความช่วยเหลือ แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปยุ่งเพราะกลัวว่าจะเป็นเรื่องของแฟนทะเลาะกัน
กรี๊ด!! เพลินฝันถูกโยนเข้าไปในรถ อาการจุกหน่วงแผ่ซ่านไปทั่วร่าง
“ปล่อยนะ”
ใบหน้าคมคายซุกไซร้บริเวณซอกคอขาว ก่อนจะขบเม้มอย่างแรง หยาดน้ำตาหญิงสาวไหลร่วงหยดบนใบหน้า ด้วยความสิ้นหวัง
ปึก!ปึก!ปึก!
“ไอ้เวรเอ๊ย!”
หมัดแกร่งกระหน่ำซัดเข้าใบหน้าชายหนุ่มเต็มแรง ก่อนจะตามด้วยร่างชายฉกรรจ์นับสิบ รุมซ้อมอาร์ตจนแทบปางตาย
เพลินฝัน นั่งดึงชุดนักศึกษาเพื่อปกปิดบราเซีย ก่อนที่รันเวย์จะถอดเสื้อตัวเองออกมาคลุมร่างหญิงสาวและอุ้มเธอออกมาจากรถทันที
“รันเวย์”
เพลินฝันเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงดีใจ ก่อนจะกอดคอชายหนุ่มไว้แน่น และแสดงความหวาดกลัวออกมาอย่างเห็นได้ชัด รันเวย์ ขึ้นส่งหญิงสาวบนห้อง ก่อนจะชะงักไปที่เห็นรูปคู่ของพาฝัน แฟนสาวของเพื่อนสนิทตัวเอง แต่รันเวย์ก็ไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไรหรือเอ่ยถามออกไป เพราะตอนนี้สภาพจิตใจของเธอค่อนข้างน่าเป็นห่วงกว่า
“ขอบคุณนะ”
เพลินฝันเอ่ยขึ้น ก่อนจะนั่งลงบนโซฟาเงียบ ๆ
“รู้หรือยังว่าภัยของความสวยมันอันตรายแค่ไหน ต่อไปก็อย่าไป เดตกับใครมั่วล่ะ”
“นายรู้”
“ฉันได้ยินมันคุยกับเพื่อนมันน่ะ เลยขับรถตามมันมา”
คำพูดของชายหนุ่ม ทำให้เพลินฝันเงียบไปในที่สุด เธอแค่อยากมีแฟน อยากมีคนมาดูแล แต่ผู้ชายที่เข้ามาส่วนใหญ่หวังแต่เรื่องอย่างว่า ไม่เคยมีใครจริงใจกับเธอเลยสักคน เพลินฝันร่ำไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เธอจะไม่ใช้วิธีสิ้นคิดในการหาคู่แบบนี้ เพลินฝันใช้มือค้ำโต๊ะเอาไว้ก่อนจะกุมขมับด้วยความผิดหวัง
“เหงาเหรอ”
รันเวย์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ก่อนจะจับไหล่ของเธอเบา ๆ ราวกับปลอบประโลม เพลินฝันชะงักไปครู่หนึ่ง ทุกครั้งที่เธอมีปัญหา เตี่ยของเธอจะคอยปลอบโยนเธอแบบนี้เสมอ
“ขอบคุณนะ ที่ช่วยฉันไว้”
“ฉันรับคำขอโทษเป็นเบอร์โทรของเธอ”
รันเวย์เอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเจ้าเล่ห์ก่อนจะเลิกคิ้วหนาและยื่นโทรศัพท์เพื่อกดดันเธอ
เพลินฝันกดเบอร์ตัวเองลงไปในเครื่องอย่างไม่มีทางเลือก ก่อนจะยื่นโทรศัพท์มือถือให้ชายหนุ่ม
“ทำไมไม่ขับรถไปเอง”
“ฉันขับรถไม่เป็น”
รันเวย์กระตุกยิ้มออกมา สร้างความไม่พอใจให้เพลินฝันเป็นอย่างมาก
“ขำอะไร”
“ขำเธอไง เรียนจนจะฝึกงานอยู่แล้วยังขับรถไม่เป็น ตลกวะ”
“ถ้านายรู้เหตุผลของฉันนายจะขำไม่ออก”
“เหตุผลงั้นเหรอ”