ตอนที่ 14 แผนสำออยของคนขี้น้อยใจ
“คุณนุค่ะ”
“ไอ้หน้าอ่อนโทรมาทำไม”
“วันนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดของคุณนุ เลยโทรมาชวนไปทานข้าวค่ะ”มือเรียวบีบผ้าในอ่างน้ำเพื่อเอามาเช็ดตัวให้เขา
“เธอจะไปกับมันแล้วให้ฉันนอนป่วยอยู่คนเดียว”เสียงทุ้มแข็งขึ้นตาขวางใส่เธอที่นั่งงงว่าเขาจะอารมณ์เสียทำไม เธอเห็นว่าเขาไม่ได้เป็นอะไรมากตัวก็ไม่ร้อนผ่าวแทบไม่มีความอุ่นเลยด้วยซ้ำถ้ากินข้าวกินยาก็คงดีขึ้น
“ลดาจะเช็ดตัวทำอาหารและเตรียมยาไว้ให้ แล้วจะกลับมาดูอาการคุณธีอีกทีแต่ถ้าไม่ไหวก็โทรหาได้เลยลดาจะรีบมา”
“ไม่ต้องยุ่ง ! ดูแลตัวเองได้จะไปไหนก็ไป”กายหนาเขยิบออกปัดมือเธอให้ห่างแล้วพลิกหันหนี
“ไปซะ!” เขาเอ่ยไล่ด้วยความโมโห ไอลดาหน้าเสียเมื่อเขาโกรธก็ไม่อยากรบกวนเลยลุกเดินออกจากห้องแล้วทำอาหารเตรียมยาวางไว้ที่โต๊ะรับแขกเพราะไม่กล้าเข้าไปวางในห้องนอนให้เขารำคาญอีก เธอยังทำความสะอาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ให้เสียงดังรบกวนคนป่วยก่อนจะออกไปพบกับเมฆาตามที่นัดกัน
ธีรภพได้เสียงกุกกักทำให้รู้ว่าเธอยังอยู่ในห้องจนเมื่อเสียงเหล่านั้นเงียบลงเขาเลยเดินออกมาดูในห้องที่ว่างเปล่าไร้เงาหญิงสาว กายหนาเดินไปยังระเบียงห้องเหลือบมองจานอาหารมีพลาสติกซีลคลุมไม่ให้ฝุ่นลงและยาที่เธอวางไว้อย่างไม่แยแสแล้วเปิดประตูกระจกไปยืนที่ระเบียงมองไอลดาเดินอยู่บนทางลาดของคอนโดเพื่อไปเรียกแท็กซี่
“เธอเลือกทิ้งฉันไปหามันเองนะลดา อย่าคิดว่าฉันจะทำดีกับเธออีก”สายตาคมแข็งกร้าวผิดหวังที่เธอเลือกไปหาคนอื่น
ร้านอาหารหรูชั้นบนดาดฟ้าตึกของห้างดัง เป็นจุดชมวิวกรุงเทพยามค่ำคืน บรรยากาศสวยงามไม่ได้ทำให้ไอลดามีความสุขเลยสักนิด เธอนั่งเขี่ยอาหารหน้าตาเหมือนไม่สบายใจ ทำให้เมฆาคิดว่าเธอไม่อยากมากับเขา
“อาหารไม่ถูกใจหรือครับ?”
“อาหารอร่อยมากค่ะ”
“ทำไมทำหน้าเบื่อละครับไม่อยากมาทานข้าวกับผม”เมฆาน้ำเสียงน้อยใจที่เธอเหมือนฝืนใจมา ไอลดาหน้าเหวอรีบค้านขึ้นไม่อยากให้เข้าใจผิด
“ไม่ใช่นะคะ ลดาอยากมาทานข้าวกับคุณนุแต่วันนี้ลดางานเยอะเลยรู้สึกเหนื่อย ๆ ”
“อ๋อ ที่บอกว่าติดธุระใช่ไหมครับ โล่งใจหน่อยผมคิดว่าไม่อยากมาซะอีก” เมฆาสบายใจที่ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ไอลดาอมยิ้มก่อนจะยื่นกล่องของขวัญใบเล็กที่เธอแวะซื้อก่อนมาพบเขา
“แฮปปี้เบิร์ดเดย์นะคะ ขอให้มีความสุขมาก ๆ”
“ขอบคุณมากครับ” เมฆายิ้มกว้างรับของขวัญของเธอแล้วเปิดดูทันที ภายในเป็นกระเป๋าหนังสีดำของแบรนด์ดังยี่ห้อหนึ่ง
“คาวหน้าไม่เอาของแพงแล้วนะครับ แค่การ์ดใบเดียวก็พอ”เขาอมยิ้มนั่งเปลี่ยนของในกระเป๋าใบเก่ามาใส่ในใบที่เธอให้ ไอลดาช่วยหยิบจับและพูดกันอยู่สักพักก่อนจะแยกกลับบ้าน เมฆาเดินมาที่ลานจอดจะส่งไอลดาก่อนเธอบอกว่าเอาไปเคลมประกันจะเรียกแท็กซี่ เมฆาเลยอาสาพาไปส่งแต่เธอก็ปฏิเสธเพราะจะแวะเข้าไปดูอาการป่วยของธีรภพก่อน เมฆาเห็นเธออึกอักไม่อยากให้ไปส่งเลยไม่เซ้าซี้ยืนรอส่งเธอขึ้นแท็กซี่ก่อนแล้วค่อยเดินไปที่รถของตัวเอง
คอนโดของธีรภพ
ไอลดาเดินเข้ามาในห้องมืดสนิทเลยเปิดไฟทั่วห้องเดินผ่านอาหารและยาที่เธอเตรียมไว้ให้เขายังอยู่แบบเดิม เธอเป็นห่วงว่าเขาจะไข้ขึ้นลุกไม่ไหวรีบเดินไปหาเขาที่ห้องนอนแต่ก็ไร้วี่แวว ไอลดาร้อนใจเดินหาทั่วห้องกลัวว่าเขาจะเป็นลมอยู่ตรงไหนแต่ก็ไม่มียิ่งทำให้เธอกังวลรีบโทรถามคุณย่า เผื่อว่าเขาอาจจะกลับไปนอนที่บ้าน
“คุณธีไปนอนที่บ้านหรือเปล่าค่ะ ลดามาดูที่ห้องแล้วไม่อยู่”
“ตาธีคงไม่เป็นอะไรมากแล้วออกไปหาของกินข้างนอกก็ได้ลูก ถ้ายังไงลดาอยู่รอเจอดูอาการพี่เขาก่อนจะกลับเมื่อไหร่ค่อยโทรมาบอกย่าจะให้คนรถไปรับ” คุณหญิงเริงศรีรู้ว่าหลานชายไม่สบายเลยฝากให้ไอลดาดูแล
“ค่ะ คุณย่า”เธอตอบรับกดวางสายแต่ยังไม่คลายกังวลอยากจะติดต่อหาเขาก็ไม่กล้าทำอะไรไม่ได้นอกจากนั่งดูโทรทัศน์รอเขากลับมา
ด้านธีรภพเที่ยวอยู่ในสถานบันเทิงยามค่ำคืนของเพื่อน
“เฮ้ย นอนนี้เลยแล้วกัน เมาขนาดนี้อย่าขับกลับเลยวะ”เพื่อนของธีรภพเอ่ยทักเมื่อเห็นสภาพเพื่อนที่ดื่มหนักจนแทบยืนไม่ไหว
“เดี๋ยวแองจี้ไปส่งเองค่ะ” แองจี้คู่ขาของธีรภพรีบอาสาไปส่งเขา พนักงานเสิร์ฟเลยช่วยกันพยุงเขาขึ้นรถของเขาแล้วให้แองจี้ขับมาส่งที่คอนโด
คอนโดของธีรภพ
เสียงใส่รหัสดังขึ้นพร้อมกับเสียงดังเอะอะโวยวายของชายหญิง ทำให้ไอลดาสะดุ้งตื่นหลังจากที่นั่งหลับหน้าโทรทัศน์แล้วหันไปมองเห็นธีรภพกับสาวสวยคนหนึ่งกำลังประคองเขาเข้ามาในห้องอย่างทุลักทุเล
“ เดินดีๆ สิคะ แองจี้จะล้มแล้วนะ” แองจี้พยายามพยุงเขาเข้าห้องเซ ๆ เพราะเขาทิ้งน้ำหนักทำให้แองจี้ที่สวมรองเท้าส้นสูงจะล้มหลายครั้ง
“ยายคนรับใช้มาช่วยกันสิย่ะ ยืนเซ่ออยู่ได้” แองจี้เหวี่ยงใส่ไอลดาที่ยืนนิ่ง ไอลดาเลยวิ่งเข้าช่วยประคองตัวธีรภพทางซ้ายมือ กลิ่นหอมประจำตัวของเธอที่คุ้นเคยโชยอ่อนทำให้เขาโมโหสะบัดตัวออกอย่างแรง
“ลดา มาทำไม” เขาเพ่งสายตามองชัด ตัวโอนเอนไปมา
“มาดูว่าคุณธีอาการเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่ต้องมายุ่ง เธอเลือกไปหามันก็ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน ! ”เขาฉุนเฉียวเหวี่ยงสะบัดไล่ไม่ให้เธอเข้าใกล้ตัว
“กลับไป ไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก ไป!” เสียงตะคอกสุดท้ายทำให้ไอลดากลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่วิ่งไปหยิบกระเป๋าแล้วออกจากห้องทันที ไอลดาวิ่งร้องไห้ไปทางบันไดหนีไฟเพื่อตั้งสติก่อนที่จะเรียกรถแท็กซี่ผ่านแอพพิเคชั่น
