บท
ตั้งค่า

04 จะอยู่...หรือจะตาย

04 จะอยู่...หรือจะตาย

นานเท่าไหร่ไม่รู้…

“อื้ออ” ร่างบางพยายามเปิดเปลือกตาอันแสนหนักอึ้งขึ้นอย่างยากลำบาก พลิกตะแคงกายอันแสนขบเหมื่อยราวกับไปวิ่งมาทั้งคืน แต่สักพักดวงตากลมโตคู่นั้นก็ต้องเบิกกว้างขึ้นมาทันที…เพราะที่นี่ไม่ใช่บ้านของเธอ

พรึ่บ!!

บัวบูชาดีดกายลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าตื่นตระหนก รีบก้มสำรวจร่างกายตัวเองว่าทุกอย่างยังปกติอยู่หรือเปล่า พบว่าเธอก็ยังใส่เสื้อผ้าชุดเดิม นั่นก็คือชุดยูนิฟอร์มของคาเฟ่

“ตื่นแล้วหรอ” น้ำเสียงอันแสนเย็นเยือกบาดลึกไปถึงขั้วหัวใจ ดังมาจากมุมห้อง หน้าสวยหันขวับทันทีด้วยความตกใจ แต่ด้วยความที่ภายในห้องค่อนข้างมืด ทำให้เธอไม่รู้ว่าบุรุษร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นคือใคร

ชายรูปร่างสูงใหญ่หยัดกายลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ก่อนจะสาวเท้าเข้ามาหาคนตัวเล็กที่กำลังนั่งสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว

ความจริงเขานั่งมองหญิงสาวคนนี้มาสักพักแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ดวงตาคมกริบของเขาหยุดนิ่งอยู่ที่ใบหน้าหวานฉ่ำครั้งแล้วครั้งเล่า เพราะไม่อาจต้านทานความงดงามของเธอได้ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าผู้หญิงเอเชียจะมีใบหน้าที่สวยสดงดงามได้ขนาดนี้ เขาไล่สายตาสำรวจทั่วใบหน้ารูปไข่ที่ประกอบกันอย่างลงตัว ทั้งดวงตา จมูกและริมฝีปาก ใบหน้าสวยซ่อนเปรี้ยวที่แม้กระทั่งนอนหลับสนิทก็ยังมีเสน่ห์เหลือล้น ขนาดลูกน้องของเขาหลายคนยังตกตะลึง ไม่คิดว่าน้องสาวของไอ้ทัชกรจะสวยขนาดนี้ แม้จะอยู่ในชุดยูนิฟอร์มกลางเก่ากลางใหม่ ก็ยังดูดีสะกดสายตาผู้ชายทุกคนที่พบเห็น

…แต่นั่นไม่ใช่เขา

เพราะต่อให้ผู้หญิงคนนี้จะงดงามราวกับนางฟ้า ก็ไม่มีทางทำให้ไฟแค้นของเขาดับลงได้ ไอ้ทัชกรต้องชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป และถ้ามันยังไม่ปรากฏตัว…เขาจะฆ่าน้องสาวของมันทิ้งซะ!

“คะ…คุณเป็นใคร!” บัวบูชาสั่นไปทั้งร่าง จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเธอมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

“เป็นใครไม่สำคัญหรอก ถ้าเธอยังอยากมีชีวิตอยู่ต่อ ให้พูดความจริงกับฉัน” น้ำเสียงเย็นเยือกเหมือนกำลังข่มขู่

“คะ…คุณต้องการอะไร แล้วจับฉันมาทำไม ถ้าจำไม่ผิด ฉันไม่รู้จักคุณแน่นอน” เธอทั้งสั่น ทั้งกลัว แต่ก็พยายามใจดีสู้เสือคิดว่าผู้ชายคนนี้น่าจะจับตัวมาผิดคนแน่นอน เพราะเธอไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร

“ใช่ เราไม่รู้จักกัน แต่กำลังจะได้รู้จัก” ร่างสูงสาวเท้าเข้ามาใกล้เรื่อยๆ กระทั่งหยุดอยู่ข้างเตียง คนตัวเล็กพยายามถอยร่างลงจากเตียง แต่ข้อเท้าทั้งสองข้างกลับมีโซ่เส้นใหญ่พันธนาการเอาไว้

“ถอยออกไปนะ! อย่าเข้ามาใกล้ฉัน คุณจับตัวมาผิดคน เราไม่เคยรู้จักกัน และฉันก็ไม่เคยมีปัญหากับคุณ”

“เธอไม่เคยมี…แต่พี่ของเธอมี!!” ทันใดนั้นมือใหญ่ก็เคลื่อนเข้ามาตะปบเข้าที่ปลายคางมนแล้วกระชากหน้าสวยให้หันกลับมา บัวบูชาส่งเสียงกรีดร้องด้วยความหวาดกลัว น้ำตาไหลพรากเป็นทาง

“โอ้ยยย!!” ใบหน้าสวยเหยเกด้วยความเจ็บปวดทันทีที่มือแข็งปานคีมเหล็กยกร่างของเธอขึ้น “พะ…พี่ชายฉันไม่เคยมีปัญหากับใคร อึก! คุณเข้าใจผิดแล้ว”

“หึ…ตอแหลทั้งพี่ทั้งน้อง” เขาดึงร่างของเธอเข้ามาใกล้แล้วเหวี่ยงลงบนพื้นอย่างแรง และไม่รีรอที่จะถามถึงตัวฆาตกร “บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าไอ้ทัชกรมันอยู่ที่ไหน”

“ฉันไม่รู้ ฮึก! ไม่รู้ว่าเขาไปไหน”

“โกหก! พี่น้องกันทำไมจะไม่รู้ว่ามันไปไหน ถ้าไม่อยากตาย บอกมาซะว่าไอ้ทัชกรมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน” ร่างสูงตะคอกเสียงดังราวกับกำลังจะหมดความอดทน

“ฉันไม่รู้จริงๆ ได้โปรดปล่อยฉันไป ฮื้อๆๆ” ยิ่งปฏิเสธก็ยิ่งเหมือนไปกระตุกต่อมเดือดของเขาเข้า มือหน้าคว้าหมับเข้าที่ลำคออีกรอบ ออกแรงบีบจนคนตัวเล็กแทบหายใจไม่ออก “อึก! ปล่อย…”

“ฉันจะถามเธอเป็นครั้งสุดท้าย” เขาโน้มหน้าเข้ามากระซิบด้วยน้ำเสียงอันแสนเยือกเย็น “มันอยู่ไหน!”

“ฉันไม่รู้ ฮื้อๆๆ ได้โปรดปล่อยฉันไป ฉันไม่รู้จริงๆ แค่ก!แค่ก!” มือใหญ่เพิ่มแรงบีบขึ้นเรื่อยๆจนหญิงสาวหน้าแดง พยายามแกะมือแข็งออกจากลำคอ และดูเหมือนว่าเธอกำลังจะขาดอากาศหายใจ “ได้โปรด…”

ทันใดนั้นชายร่างใหญ่ก็คลายมือออก หญิงสาวรีบสูดอากาศเข้าปอดทันที เธอยกมือไหว้ ร้องขอชีวิตอย่างน่าสงสาร

“ปล่อยฉันไปเถอะนะ ฉันไม่รู้จริงๆว่าเขาไปไหน เขาไม่ได้บอกฉัน ฮื้อๆๆ เราสองคนไม่รู้จักกัน แล้วคุณมาทำร้ายฉันทำไม ฮึก…”

ร่างสูงเดินกลับไปนั่งบนเก้าอี้เช่นเดิมพร้อมยกขาไขว้ห้าง สายตาคมมองมาที่คนตัวเล็กที่กำลังนั่งสั่นระริก ยกมือไหว้ขอชีวิต แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกสงสารเลยสักนิด เพราะผู้หญิงคนนี้กำลังปิดบังที่อยู่ของพี่ชาย

พี่น้องกันทำไมจะไม่รู้ว่าอีกคนไปไหน

“เธอคือน้องสาวแท้ๆของไอ้ทัชกรใช่ไหม” บัวบูชาเงยหน้าขึ้น พยักหน้ารับพรางยกมือปิดปากกลบเสียงสั่นสะอื้นของตัวเอง “เลือกเอาว่าจะตาย…หรือจะยอมบอกที่อยู่ของมัน”

เขามีทางเลือกให้เธอแค่สองทาง แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะไม่ยอมบอกที่อยู่ของพี่ชาย นั่นทำให้ความอดทนของเขาหมดลงทันที

“คุณบอกฉันได้หรือเปล่า พี่ชายฉันไปทำอะไรให้คุณ ฮึก!”

“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกในเมื่อเธอก็รู้อยู่แก่ใจ”

“ฉันไม่รู้จริงๆว่าเขาแอบไปทำอะไรให้คุณ หรือว่าเป็นเรื่อง…ยาเสพติด” จู่ๆบัวบูชาก็นึกถึงคำพูดของชบาแก้ว งั้นก็แสดงว่าพี่ชายของเธอแอบไปทำเรื่องไม่ดีมาจริงๆ มิน่า ทำไมเขาถึงได้หนีหัวซุกหัวซน

“คนอย่างฉันไม่มีวันเอาตัวเข้าไปยุ่งกับยาเสพติดแน่นอน”

“งั้นก็บอกว่าสิคะ ว่าพี่ชายของฉันไปทำอะไรให้คุณ” บัวบูชาพยายามเพ่งสายตามองฝ่าความมืดเพื่อสำรวจใบหน้าของชายคนนั้นว่าเขาเป็นใคร ถ้าฟังจากน้ำเสียงและสำเนียงการพูด เขาต้องไม่ใช่คนไทยแน่ๆ

“ไม่ต้องรู้หรอก รู้ไปก็ไม่มีประโยชน์” ทันใดนั้นดวงตากลมโตของบัวบูชาก็เบิกกว้างขึ้นมาอีกครั้ง เพราะแสงไฟริบหรี่ที่ส่องเข้ามาจากหน้าต่างไปกระทบเข้ากับบางอย่างที่เขาเพิ่งหยิบออกมาจากสีข้าง ปลายกระบอกปืนถูกยกขึ้นมาจ่อที่หน้าผากของเธอ ทำให้ร่างเล็กสั่นระริกด้วยความกลัวสุดขีดจนทำตัวไม่ถูก “ในเมื่อเธอไม่รู้ งั้นก็หมดประโยชน์”

กึก!

เสียงปืนถูกขึ้นลำดังก้องอยู่ในหูของบัวบูชา เปลือกตาบวมเป่งค่อยๆปิดลงทั้งน้ำตา ไม่คิดตอบโต้ ไม่เอ่ยปากร้องขอชีวิต เพราะรู้ว่ายังไงเขาก็ไม่มีทางไว้ชีวิตเธอแน่นอน คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนจะทำร้ายกันได้ถึงขนาดนี้เลยหรือ แต่ถ้าเธอหมดประโยชน์แล้วจริงๆ หากเขาต้องการปลิดชีพ เธอก็พร้อมไปจากโลกนี้ทันทีขอเพียงแค่…พี่ชายของเธอปลอดภัย

มันคงเจ็บแค่ครู่เดียวเท่านั้น แต่หลังจากนั้นทุกอย่างจะมืดมิด ลมหายใจจะแผ่วเบาลง สมองและหัวใจหยุดทำงาน แล้วเธอก็คงจากโลกนี้ไปอย่างช้าๆ

…มันจบลงแล้วชีวิตอันแสนสั้น

“เธอเลือกเองนะ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร นิ้วยาวเรียวกำลังจะกดลั่นไกปลิดชีพน้องสาวไอ้ฆาตกร แต่ทันใดนั้นประตูก็ถูกเปิดพร้วดเข้ามา

พรึ้บบ!!

“นายครับ คุณจางเหลียงมาขอพบ”

________________

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel