ตอนที่ 4
ในช่วงที่ไปเรียนต่อที่อเมริกาเธอมีเพื่อนเป็นลูกสาวเจ้าของร้านขนมช่วงปิดเทอมเลยแวะไปช่วยงานและช่วยชิ้มขนมที่ ทาเลีย แม่ของพิซีเลียเพื่อนสนิทเป็นคนทำทาเลียเห็นว่าเธอชอบคุกกี้มากเลยช่วยสอนวิธีการทำให้คุ้กกี้ง่ายๆให้
“คุณแม่ลองชิ้มดูสิคะ หนูทำรสไม่ค่อยหวานมาก ไว้ทานกับชากาแฟค่ะ” ลิต้าบอกแล้วหยิบคุกกี้ส่งให้มารดาลองชิ้มดู เธอมั่นใจในการทำคุกกี้เพราะว่าเธอทำมันมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนก็ว่าได้เลยทีเดียว
“อือ…อร่อยใช้ได้เลยนนี้ลูก” ลดาบอกอย่างชื่นชมเมื่อเธอลองชิ้มเข้าไปแล้วรู้สึกถึงส่วนผสมที่เข้ากันได้อย่างดี ไม่หวานเกินไปกำลังดี เธอไม่คิดเลยว่าลูกสาวที่ไม่ค่อยชอบทำอาหารเท่าไหร่จะทำมันออกมาได้ดีขนาดนี้
“ต้องอร่อยสิคะ...ไม่อร่อยได้ยังไงหนูฝึกทำตั้งหลายครั้งค่ะ” บอกแล้วหัวเราะเสียงดังทำให้คุณลดาหัวเราะตามไปด้วย
“ว่าแต่…คุณแม่เข้ามาหาหนูมีอะไรหรือเปล่าคะ” เธอถามเพราะดูจากเมื่อตอนเข้ามามารดาตั้งใจจะเข้ามาบอกอะไรกับเธอสักอย่าง
“เมื่อครู่คุณพ่อโทรมาบอกว่าจะพาเพื่อนมาทานข้าวเย็น แม่…เลยจะมาถามว่าลูกจะออกไปไหนรึเปล่าเย็นนี้” คำถามจากลูกสาวทำให้ผู้เป็นแม่ที่กำลังหยิบขนมกินเพลินนึกขึ้นมาได้ ก่อนจะเอ่ยถึงเหตุที่เธอเดินเข้ามาหาลูก
“ป่าวค่ะ…แต่ว่าตอนค่ำยัยเมย์กับกานจะมารับไปฉลองกับเพื่อนๆนะคะ” เธอตอบมารดาละบอกถึงกำหนดการที่เธอกับเพื่อนนัดกันไว้ให้มารดาฟังเพื่อเป็นการขออนุญาติไปในตัวด้วย
“อ่อ…หนูเมย์กับหนูกานที่เมื่อก่อนมาค้างบ้านเราบ่อยๆใช่ไหมลูก” ลดานึกถึงเด็กสองคนที่เคยมาค้างที่นี้บ่อยๆเมื่อนานมาแล้ว
เมย์กับกานเป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของลิต้าตั้งแต่เรียนมัธยมปลายวันไหนมีสอบก็จะพากันมานอนค้างที่บ้านทำให้สนิทกับทุกคนในครอบครัวของลิต้าด้วยจนกระทั่งลิต้าได้ทุนไปเรียนต่อที่อเมริกาทำให้ทั้งสองไม่ได้มาค้างอีก นานๆทั้งสองถึงจะมาหาเอาของฝากมาให้บางเมื่อไปเที่ยวกันมา ทั้งสองเป็นเด็กดีกิริยาน่ารัก
“ค่ะ…คงจะมารับประมาณสามทุ่ม” เธอรับคำมารดาและบอกเวลาที่นัดหมายเสร็จสรรพ
ที่เธอบอกทุกอย่างแก่มารดาเพื่อที่มารดาจะได้ไม่เป็นห่วง ความจริงมารดาของเธอไม่ค่อยชอบให้ออกไปเที่ยวตอนกลางคืนเท่าไหร่เพราะว่ามันอันตรายแต่เพราะเธอออกไปกลับเพื่อนหลายคนที่ไว้ใจได้อีกอย่างเธอก็โตแล้วรู้ว่าอะไรควรอะไรไม่ควรมารดาเลยปล่อยให้เธออกไปเที่ยวได้ โดยมีคำสัญญาว่าจะต้องไม่กลับดึกมากจนเกินไปและไม่ออกไปข้างนอกบ้านโดยไม่โทรมาบอกก่อน
“โอเค…แม่เข้าใจแล้วว่าแต่ลูกทำคุกกี้เสร็จรึยังแม่จะเตรียมของสำหรับทำอาหารเย็น” เพราะใกล้เวลาอาหารเย็นแล้วเธอที่เป็นคนทำมันต้องเข้ามาเตรียมความพร้อมของเครื่องปรุง อย่างเชื่อหันผัก หันหมูเพื่อที่เวลาทำจะได้สะดวกรวดเร็ว
“เสร็จแล้วค่ะ…ลิต้าขอช่วยแม่เตรียมของนะคะ” เธออาสาอย่างนึกสนุก
“ได้เลยจ้ะ…อย่างแรกไปเอาผักออกมาล้างก่อนนะลูก” นานๆครั้งเธอจึงจะได้มีเวลาเข้าครัวกลับลูกสาวคนเล็กทำให้เธอตอบตกลงทันที
“รับทราบค่ะ” บอกเสียงดังแล้วเอามือขึ้นทำความเคารพแบบตำรวจก่อนจะวิ่งไปที่ตู้เย็น
“จริงๆเลยลูกคนนี้นิ” เธอมองตามก่อนจะอมยิ้มกับท่าทางของลูกสาว
“กลับมาแล้วเหรอคะคุณ” เสียงคุณแก้วบอกเมื่อเห็นกิติเดินเข้ามา
“ลดานี่…คุณเจอราฟและคุณกิ่งแก้วเพื่อนผม” กิติเอ่ยแนะนำทั้งสองกับภรรยาทันทีเมื่อเห็นสายตาที่สงมาเป็นคำถามของเธอว่าทั้งวองเป็นใคร
“สวัสดีค่ะ…คุณเจอราฟคุณกิ่งแก้ว” ทันทีที่สามีเอ่ยแนะนำผู้ที่มาเป็นแขกทั้งสองทำให้ลดารีบยกมือไหว้ทั้งสองทันทีเพราะชื่อของเจอราฟเหมือนชื่อเจ้าประธานบริษัทคนเก่าที่สามีเคยทำงายอยู่ที่ตอนนี้ให้ลูกชายเข้ามาบริหารงานแทน
“ไม่ต้องเรียกคุณหรอกคะ…เรียกแก้วเฉยๆก็ได้คนกันเองทั้งนั้น” เมื่อเห็นว่าภรรยาของคุณกิติหรืออีกฐานะคือแม่ของว่าที่ลูกสะใภ้ จึงบอกเสียงหวานพลางทำตัวเป็นกันเองเพื่อเตรียมสร้างสัมพันธ์อันดีทันที
“จ้ะ…แก้ว” ลดาตอบพลางลงยิ้มบางๆให้กับแขกที่แม้ว่าจะอายุน่าจะเท่าตนแต่ว่าความสวยไม่ได้ลดน้อยลงเลยอย่างยินดีและเป็นมิตรเหมือนกัน
