ตอนที่ 5
“ผมว่า…เราเข้าบ้านกันเลยดีกว่านะครับ” กิติบอกเมื่อเห็นว่าการสนทนาของผู้หญิงทั้งสองคนไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงเลย ในใจก็รู้สึกหวั่นใจน้อยๆ ก่อนจะก้าวเดินนำหน้าภรรยาและแขกทั้งสองเข้ามาในบ้าน
“ลดา…ลูกๆไปไหนกันหมดละ” กิติถามเมื่อเข้ามานั่งที่ห้องรับแขกแล้ว เห็นว่าภรรยาของเจ้านายเก่าเอาแต่มองไปทั่ว เขาแน่ใจมากว่าคนที่เธอกำลังมองหาอยู่ต้องเป็นลูกสาวที่เป็นเหตุทำให้สามีภรรยาคู่นี้มาบ้านเขาเป็นแน่แต่จะให้บอกให้ถูกคงต้องเป็นภรรยาลากสามีมาต่างหากถึงจะถูกและเป็นความจริงที่สุด ถึงว่าทำเขาถึงรู้สึกว่ามันต้องมีอะไรให้เขาต้องปวดหัวครั้งใหญ่ยังไงก็ไม่รู้
“ยัยปาลีกลับบ้านโน้นไปเมื่อเช้าหลังคุณออกไปค่ะ…ส่วนยัยลิต้าขึ้นไปอาบน้ำค่ะแกพึ่งช่วยฉันทำอาหารเสร็จ”
เมื่อสามีถามเธอจึงตอบกลับไปทันทีอย่างเห็นเป็นเรื่องปกติที่สามีตนจะถามถึงลูกๆ แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อเสียงตอบรับที่ควรจะเป็นของสามีที่นั่งอยู่ข้างๆกับดังมาจากปากของผู้หญิงที่นั่งอยู่ที่โซฟาฝั่งตรงข้ามกับเธอแทน
“อ่อ…” กิ่งแก้วเผลอพูดออกมาเมื่อรู้ว่าคนที่ตนมองหาอยู่ไปไหน ทำให้ลดาที่ตอบสามีออกอาการงงออกมาไม่หน่อย เธอจึงคิดว่าไหนๆก็ไหนๆแล้วคงต้องเปิดอกคุยกันให้มันรู้แล้ว รู้รอด คิดได้ดังนั้นเธอก็เอ่ยออดมาทันที
“ลดาจ้ะ…ฉันมีเรื่องอยากจะคุยกับลดาเกี่ยวกับหนูลิต้าหน่อยนะจ้ะ” เธอพูดก่อนจะมองน่าลดาอยย่างจริงจัง
“มีเรื่องอะไรเหรอคะ” เธอรู้สึกตกใจไม่น้อยเมื่อโดยกิ่งแก้วมองมาอย่างเว้าวอนอยู่ในที
“คือ…ฉันชอบหนูลิต้า…อยากได้มาเป็นลูกสะใภ้คุณลดาจะว่าอะไรไหมจ้ะ” กิ่งแก้วพูดออกมาเสียงดังไม่สนใจว่าคนเดียวที่ยังไม่รู้เรื่องว่าเธอมาที่นี้เพื่ออะไรจะตกใจขนาดไหนเมื่อได้รู้ เรื่องนี้
“อยากได้ลิต้าไปเป็นสะใภ้…” ลดาเอ่ยออกมาอย่างไม่เชื่อหู เธอรู้สึกตกใจมากเมื่อได้ยินเรื่องนี้และไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงต่อไป
“ใช่ค่ะ…คุณลดาจะว่าอะไรไหม” เธอถามอย่างรวดเร็วเพราะมันอาจจะแสดงออกถึงความมั่นคงและจริงใจของเธอที่มีต่อคำพูดที่ได้พูดออกไปได้
“รู้จักยัยลิต้าด้วยเหรอคะ” เมื่อเริ่มจะตั้งสติที่เตลิดไปแล้วไปเธอก็ตัดสินใจถามคำถามที่อยากรู้ออกไป ในใจสงสัยเขาจะรู้จักลูกของเธอได้อย่างไรในเมื่อเธอมั่นใจว่าทั้งสองต้องไม่เคยเจอกันมาก่อนแน่น
กิ่งแก้วเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสองปีก่อนให้ลดาฟังอย่างใจเย็น เมื่อเล่าจบก็เอ่ยถามความเห็นของแม่ของลูกสะใภ้ในอนาคตทันที “นี่แหละค่ะเหตุผล คุณลดาว่ายังไงคะ”
“ฉันคงตอบแทนแกไม่ได้หรอกค่ะ…เรื่องนี้มันขึ้นอยู่กับแกฉันคงจะไปตัดสินใจอะไรแทนแกไม่ได้”
ถึงเธอจะเข้าใจเหตุผลทั้งหมดที่ได้ฟังจากปากของคนที่นั่งอยู่ตรงหน้า แต่เธอก็ไม่สามารถจะตอบรับหรือปฏิเสธแทนลูกสาวได้ เธอยอมรับการตัดสินใจของลูกเสมอและในเรื่องที่ใหญ่ขนาดนี้เกี่ยวกับการแต่งงานที่จะมีแค่ครั้งเดียวในชีวิตเธอยิ่งตัดสินใจแทนลูกไม่ได้
“แต่…ถ้าหนูลิต้าตกลงคุณลดาก็ไม่ขัดอะไรใช้ไหมคะ” เธอถามออกมาอย่างจริงจังนัยตาแพรวพราวอย่างคนที่มีแผนการอยู่ในใจ
“ค่ะ…ไม่ขัดลดาตามใจยัยลิต้าอยู่แล้วค่ะ…แต่ยัยลิต้าคงจะไม่ยอมง่ายๆแน่ค่ะ แกดื้อจะตาย” ลดาเอ่ยเตือน เพราะรู้จักนิสัยของลูกตนเองดี
“เรื่องนั้น…ไม่ต้องเป็นหวงหรอกค่ะฉันคิดแผนเอาไว้แล้ว” สิ้นเสียงนั้นเรียกสายตาจากคนทั้งสามคนที่นั่งอยู่ด้วยได้อย่างดี ทั้งสามคิดเอาไว้เหมือนกันว่ากิ่งแก้วต้องมีแผนอะไรอยู่ในใจแน่นอน ทำให้พวกเขาขนลุกอย่างไรเหตุผลน้อยๆ
“คุณคะ…ปล่อยไว้แบบนี้จะดีเหรอคะ” ลดากระซิบถามสามีอย่างหวั่นใจได้ยินคำพูดที่ออกมาจากบ้างของกิ่งแก้ว
“ไม่เป็นไรหรอกคุณ…คุณกิ่งกับคุณเจอราฟเป็นคนดี…อีกอย่างลูกชายคุณกิ่งแก้วเป็นคนที่เก่งมีความรับผิดชอบมากเลยนะ…ตอนนี้เขาเป็นประธานบริษัทที่ผมทำงานอยู่เป็นคนที่เก่งมากจริงๆ”
“ได้ยินคุณพูดแบบนี้แล้วฉันค่อยเบาใจหน่อย…” ลดาบอกสามีแม้ในใจจะยังไม่ค่อยสบายใจเท่าไหร่ก็ตาม
“ลดาขอตัวไปตั้งโต๊ะก่อนนะคะ” เมื่อเห็นว่าหน้าจะหมดเรื่องที่จะต้องคุยกันแล้วและนี่ก็ใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว เธอเลยขออนุญาติที่จะออกไปตั้งโต๊อาหารเพื่อที่แขกทั้งสองจะได้รับประทานอาหารกัน
“เดียวแก้วช่วยค่ะ” กิ่งแก้วเมื่อได้ยินว่าลดาจะออกไปตั้งโต๊ะอาหารเลยอาสาช่วยแล้วเดินออกไปกับลดา
“แม่คะ…” ลิต้าเอ่ยเรียกมารดาเมื่อเดินเข้ามาในครัวเห็นมารดากำลังยืนคุยกับคุณป้าคนหนึ่ง
“ลงมาแล้วเหรอลูก” ลดาหันมาตามเสียงเรียกเธอส่งยิ้มให้ลูกสาว เมื่อเห็นลูกสาวมองคนที่อยู่ในห้องครัวอีกคนก่อนจะส่งสายตามาถามเธออย่างกายๆว่าคนๆนี้เป็นใคร
“นี่…คุณกิ่งแก้วจ้ะเพื่อนคุณพ่อ” ลดาเอ่ยตอบลูกสาวพร้อมกับแนะนำคนที่ยืนอยู่ข้างตัวของตนพร้อมกัน
“สวัสดีค่ะ” ลิต้ายกมือไหว้ทันทีที่มารดาแนะนำเสร็จ เธอรู้สึกคุ้นหน้าคนตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูก
“จ้ะสวัสดีลูก…หนูลิต้าใช้ไหมจ๊ะ” กิ่งแก้วรับคำว่าที่ลูกสะใภ้ในดวงใจแล้วยิ้มส่งเป็นมืตรไปให้สาวน้อยหน้าหวานตรงหน้าอย่างเป็นปลื้มอยู่ในใจ
“ค่ะ…ไม่ทราบว่าเราเคยเจอกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่าคะหนูรู้สึกคุ้นหน้าคุณป้าจัง” เมื่อทนต่อความสงสัยไม่ไหวสาวหน้าหวานจึงเสี่ยงที่จะถามเพื่อคลายความสงสัยที่มีอยู่ตอนนี้
“เราเคยเจอกันที่โรงพยาบาลเมื่อ 2 ปีก่อนไงจ้ะ…หนูจำได้ไหม” คำตอบที่ออกมาจากปากคุณน้าที่ดูดีตรงหน้าทำให้ลิต้าคลายความสงสัยที่มีอยู่ก่อนกหน้าได้กระจ่างทันที
“อ่อ…คุณป้าที่เป็นลมตรงทางไปห้องน้ำใช่ไหมคะ” เธอนึกออกทันทีเพราะดวงหน้าที่ยังดูสวยไม่สร่างของคนตรงหน้าชั่งเหมือนกับใครคนนึงที่เธอเคยเจอเมื่อสองปีก่อน
“ใช่จ้ะ…ดีใจจังที่หนูจำฉันได้” เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจเพราะไม่นึกว่าเด็กสาวตรงหน้าจะจำตนได้
“ต้องจำได้อยู่แล้วคุณป้าสวยขนาดนี้” สาวหน้าหวานเอ่ยเอาใจคนถามที่ตนรู้สึกถูกชะตาด้วยอย่างไม่หน้าเชื่อ
“แหม่…ปากหวานจริงเชียว” คนถูกชมออกอาการเขินนิดๆเมื่อโดนคนที่เธอจับจองอยากได้เป็นสะใภ้ชมทำให้ยิ่งทำให้เธอยิ่งชอบว่าที่ลูกสะใภ้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
“ว่าแต่…มีอะไรให้ลิต้าช่วยหรือป่าวคะแม่” เมื่อคุยกับคุณน้าคนสวยเสร็จก็เดินเข้าไปหามารดา เผื่อว่ามารดาจะมีอะไรให้ตนช่วย
“ช่วยแม่ยกแกงจืดกับยำวุ้นเส้นไปที่โต๊ะทีไป” เมื่อได้ยินเสียงอาสาของลูกสาวคนเป็นแม่ก็ไม่นึกจะขัดหันไปสั่งลูกสาวตัวดีก่อนจะชี้ไปที่บนโต๊ะที่มียำวุ่นเส้นกับแกงจืดอยู่บนโต๊ะ
“ค่ะแม่…ขอตัวนะคะคุณป้า” เมื่อได้ยินคำสั่งของมารดาเธอก็ตรงไปหยิบยำวุ่นเส้นและแกงจืดขึ้นมาก่อนจะเอ่ยขอตัวอย่างเสียงอ่อนเสียงหวาน
“จ้ะ” กิ่งแก้วบอกอย่างเอ็นดู เห็นท่าทางของว่าที่ลูกสะใภ้ที่แสนน่ารักขนาดนี้ยิ่งทำให่เธออยากได้สาวน้อยคนนี้ไปเป็นลูกสะใภ้เร็วขึ้น
“หนูลิต้าจ้ะ…นี่ลุงเจอราฟสามีป้าจ้ะ” กิ่งแก้วบอกลิต้าเมื่อเดินมาเจอกับเจอราฟที่กำลังเดินเข้ามาที่ห้องอาหารพ่อดี
“สวัสดีค่ะ…คุณลุงเจอราฟ” หญิงสาวยกมือขึ้นไหว้พลางส่งยิ้มไปให้คนที่เป็นสามีของคุณป้าคนสวยที่ดูท่าทางใจดีและอบอุ่น ด้วยความรู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก
“จ้ะหนูลิต้า” เจอราฟไม่แปลกใจเลยว่าทำไมภรรยาขอเขาถึงได้ชอบสาวน้อยตรงหน้าจนอยากไปมาเป็นลูกสะใภ้ก็สาวน้อยตรงหน้าของเขาดูจะน่ารักอ่อนหวานยิ้มทีโลกทั้งใบเหมือนจะอบอวลไปด้วยความสุข
“เอาละ…ทำความรู้จักกันเสร็จแล้วก็ลงมือทานอาหารกันเถอะ” กิติเมื่อเห็นว่าถ้าเขาไม่หยุดการสนทนาตอนนี้คงอีกนานเป็นแน่กว่าเขาจะได้กินข้าวเพราะการสนทนาในตอนนี้รู้สึกว่าจะสนุกสนานขึ้นเรื่อยๆ
“ค่ะ…คุณพ่อคุณลุงกับคุณป้าลองชิ้มแกงจืดสิคะฝีมือลิต้าเองค่ะ…เมื่อตอนกลางวันคุณแม่สอนให้” เธอรีบนำเสนอผลงานชิ้นเอกของวันนี้ให้พ่อและแขกทั้งสองอย่างออกหน้าออกตา
“อือ…รสชาติกำลังดีเลยจ้ะ” กิ่งแก้วตอบสาวน้อยที่กำลังจ้องมองมายังเธออย่างลุ้นเต็มกำลัง
“อร่อยมากลูก” เจอราฟก็เอ่ยตอบสาวน้อยตรงหน้าที่จ้องมองตนอยู่อย่างรู้สึกมีความสุขแปลกๆความน่ารักของสาวหน้าหวานตรงหน้ามันชั่งบงบอกถึงความจริงใจที่มีอย่างเห็นได้ชัดยิ่งกว่าดูหนัง 3 มิติซะอีก
“ขอบคุณค่ะ” เมื่อได้ยินตอบของแขกทั้งสองคนทำให้เธอดีใจเป็นอย่างมาก
