บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 17

“เอ่อ…คุณแม่ครับ”ราฟาเอลหลังจากที่ทนต่อความอยากรู้ว่าเรื่องที่มารดาของเขาคุยกับคนปลายสายเรื่องอะไรไม่ไหวแล้วจริงเอ่ยหวังถามมารดาออกไปตรงๆ แต่ก่อนที่เขาจะได้ถามอะไรออกไปมารดาของเขาก็เอาแต่หันไปคุยกับบิดาที่นั่งอยู่ข้างๆจนไม่มีจังหวะที่เขาจะเอ่ยแทรกได้เลย

กระทั่งมาถึงบ้านมารดาเขาก็อ้างว่ารู้สึกเหนื่อยและอยากพักผ่อนและให้บิดาของเขาประคองเข้าห้องไปทันทีแถมมื้อเย็นก็รับอาหารบนห้องนอนอีกพอเขาจะเข้าไปหาบิดาเขาก็บอกว่ามารดาตนหลับแล้ว อย่างนี้มันเป็นการหลบหน้าเขาชัดๆ

‘อะไรกันเนี้ยมันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับฉันเนี้ย’

ตั้งแต่ที่ลืมตาตื่นขึ้นก็ต้องตกใจเป็นอย่างมาก เมื่อในห้องนอนที่สมควรจะมีเขานอนอยู่เพียงคนเดียว แต่กับมีผู้เป็นมารดาบังเกิดเกล้ามานั่งเฝ้ารอเขาตื่นด้วยรอยยิ้มเมื่อหันไปดูนาฬิกาที่อยู่ตรงโต๊ะข้างเตียงก็ต้องตกใจ หกโมงเช้าแม่มีอะไรกับเขาแต่เช้าเนี้ย แต่ก่อนจะได้เอ่ยถามอย่างที่ใจคิดออกไปแม่ของเขาก็พยายามดึงแขนเขาขึ้นมาจากเตียงนอนทันทีที่เห็นว่าเขาลืมตาตื่นแล้ว

“ลุกขึ้นตาราฟ…ลุกขึ้นได้แล้วเร็ว”เธอดึงแขนลูกชายขึ้น แต่เหมือนว่ามันจะไมเป็นผลเลยเพราะดูเหมือนว่าลูกชายของเธอจะพยายามขืนตัวไว้สุดกำลัง

“ไม่ครับ…ผมไม่ลุกจนกว่าคุณแม่จะบอกผมมาก่อนว่าคุณแม่กำลังจะทำอะไร” เขาพยายามจะขืนตัวเติมที่ พร้อมกับขืนตัวเติมที่ แม่ของเขาต้องมีจุดประสงค์อะไรสักอย่างถึงต้องทำขนาดนี้เป็นแน่

“ที่รักคะ…ที่รัก”ในเมื่อลูกชายตัวดีเหมือนจะไม่ยอมทำตามง่ายๆและแรงของเธอก็สู้ลูกชายไม่ได้แน่ มีอยู่วิธีเดียวเท่านั้นที่จะขุดลูกชายสุดที่รักออกจากเตียง คือการหาตัวช่วยและตัวช่วยที่ว่าจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่สามีสุดสวาทของเธอนั่นเอง

“เรียกคนมาช่วยก็ไม่สำเร็จหรอกครับคุณแม่…คุณแม่ก็รู้ว่าห้องผมมันเก็บเสียง” เขารู้สึกถึงความได้เปรียบเพราะไม่มีใครได้ยินเสียงมารดาและเข้ามาช่วยได้แน่นอน

“คุณแม่ยอมแพ้ผมซะดีๆ…ดีกว่านะครับผมไม่อยากทำร้ายคนแก่”ชนะเห็นๆชายหนุ่มแอบคิดอยู่ในใจ แต่ก่อนที่เขาจะได้ใจไปมากกว่านี้ก็มีเสียงร้องทักออกมาจากหน้าประตูห้อง ทำให้ชายหนุ่มหันไปมองตามเสียงนั้น

‘นั่นไงตัวช่วยกิตติมศักดิ์’ จบแล้วการต่อสู้ครั้งนี้จบแล้ว

“แม่เป็นแม่ของลูกนะพ่อเจ้าแผนการ… คิดว่าแม่ไม่รู้ทันลูกหรือไง” เพราะคิดว่าลูกชายจะต้องไม่ยอมแน่ๆ แล้วก็ห้องนี้เป็นห้องเก็บเสียงเธอเลยจงใจเปิดประตู้ห้องไว้ให้มีเสียงเล็ดลอดออกไปได้บ้าง คนอย่างกิ่งแก้วมีเหรอจะเสียรู้ลูกชายตัวเองไม่มีวันซะหรอก

“ที่รักคะ…มาช่วยกันเงะเจ้าราฟออกจากเตียงหน่อยค่ะ” เธอหันไปสั่งสามทันที

“ลุกขึ้นมาตาราฟ แกไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ” เจอราฟดุดลูกชายเสียงเข้ม

“ครับๆ…ลุกแล้วครับ” เมื่อทำอะไรไม่ได้แล้วเพราะดูเหมือนว่ามารดาเขาจะดักทางไว้หมดแล้วก็ได้แต่จำใจ ทำตามคำสั่งอย่างเสียไม่ได้

“ไปอาบน้ำซะ…ต้องให้แม่อาบให้ด้วยไหม”เอ่ยสั่งต่อทันทีเมื่อลูกชายลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วมองมายัเธออย่างเซ็งๆ

“อาบให้ก็ดีครับ…คงสบายดีแต่ผมว่าอย่าเลยเดียวคุณแม่จะตกใจป่าวๆ” เอ่ยออกมาอย่างกวนๆก่อนเดินเข้าห้องน้ำไป

ราฟาเอลใช้เวลาในการอาบน้ำประมาณครึ่งชั่วโมง เขานึกว่าเหตุการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติแล้วซะอีกแต่ที่ไหนได้ ออกมาจากห้องน้ำปุ๊บก็เจอมารดากำลังจัดเตรียมเสื้อผ้าให้เขาอยู่และดูเหมือนว่าจะเป็นชุดใหม่ด้วยซึ่งเขาแน่ใจมากว่าไม่ได้สั่งซื้อมาเองแน่นอน

“คุณแม่ครับ…จะให้ผมใส่เหรอครับ” เขาเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อดูเหมือนว่ามารดาจะต้องเอามันมาให้เขาใส่เป็นแน่ ชุดสูทเป็นทางการสีเทาอ่อนๆแบบนี้มันต้องเอาไว้ใช้ในโอกาสสำคัญสิแต่นี้เขาแค่จะใส่ไปทำงานแล้ววันนี้เควินก็ไม่ได้แจ้งว่าจะมีงานเลี้ยงอะไรด้วย

“ใช่…แม่เอามาให้ลูกใส่”เธอบอกก่อนจะเดินมาหาลูกชายและเอาชุดทาบตัวลูกชายดู

“มีงานอะไรเหรอครับ…ทำไมเควินไม่โทรมาบอกผม”ปกติแล้วถ้ามีงานเลี้ยงหรืองานสำคัญๆมี่เป็นทางการเควินจะต้องแจ้งเขาล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งวันเพื่อการเตรียมตัว ตลอดมาเควินก็ทำงานได้ดีเสมอครั้งนี้ก็ไม่หน้าจะเกิดความผิดพลาดได้

“ก็งานหมั้นของลูกไง…จะจัดกันเป็นการภายในก่อนแล้วค่อยจัดงานแถลงข่าวอีกทีพร้อมประกาศงานแต่งไปด้วยเลย”

ที่เธอต้องทำอย่างนี้เพราะว่าไม่ไว้ใจลูกชายตัวดีของตัวเองเท่าไหร่ แม้ว่าราฟาเอลจะสัญญาเป็นมั่นเป็นเหมาะแล้วก็ตาม แต่อะไรก็เกิดขึ้นได้ ความลับยังไงก็ไม่มีในโลกหรอกสักวันความมันก็ต้องแตกออกมาอยู่แล้วขึ้นอยู่ที่จะช้าหรือเร็วเท่านั่นเอง

“มันเร็วไปรึป่าวครับ” ราฟาเอลใจรู้สึกใจหายทันทีเมื่อได้ยินดังนั้น อารมณ์ที่กำลังดีอยู่กับเปลี่ยนเป็นหดหู่แทน ไม่คิดว่ามารดาจะรวบรัดได้รวดเร็วขนาดนี้

“มันไม่เร็วไปหรอกลูก…ไปใส่เสื้อผ้าได้แล้วหรือว่าลูกจะลงไปทั้งอย่างนี้ก็ได้นะว่าที่เมียจะได้ประทับใจ”เธอจะรอช้าไม่ได้อีกแล้วจริงๆเธอจะต้องได้ลูกสะใภ้มาเชยชมตั้งแต่เมื่อ 2 ปีก่อนด้วยซ้ำถ้าไม่ติดว่า ว่าที่เจ้าสาวลัดฟ้าไปเรียนต่อเมื่องนอกซะก่อน ป่านนี้เธอคงกลายเป็นคุณย่าไป เวลา 2 ปีที่ผ่านมาแม่ก็ปล่อยราฟมาตลอดถึงเวลาที่ลูกจะต้องกลับมาอยู่ในโอวาทของแม่แล้วตาราฟ

“อย่ามั่วชักช้าอยู่ละใกล้เวลาแล้ว” เมื่อเห็นว่าลูกชายยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและยังไม่เอื้อมมือมารับชุดจากมือของเธอ เธอก็รีบเอ่ยเตือนและดันหลังลูกชายไปทางห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที

“สุดยอด…” เธออุทานออกมาทันทีที่รถของบิดาเลี้ยวเข้ามาในรั้วคฤหาสน์หลังงามใจกลางกรุงเทพ ฯ สิ่งที่เธอมั่นใจที่สุดก็คงจะเป็นราคาของคฤหาสน์หลังนี้ที่คงมากจนคนอย่างเธอคงไม่มีปัญญาซื้อเป็นแน่ คฤหาสน์หลังนี้ให้กลิ่นอายของชาติตะวันออกสถาปัตยกรรมยุคใหม่และยุคเก่าที่เอามาผสมกันได้อย่างลงตัว และแน่นอนมันคือบ้านของว่าที่สามีในอนาคตอันใกล้ของเธอเอง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel