ตอนที่ 16
“เชิญครับ…คุณผู้หญิงคุณผู้ชาย” นายสมรีบวิ่งเปิดประตูรถให้เจ้านายเมื่อเห็นทั้งสองคนเดินจับมือกันมาถึงรถ
“ขอบใจมากสม” กิ่งแก้วเอ่อขอบคุณคนขับรถคนเก่าแก่ก่อนที่จะค่อยๆเข้าไปนั่งที่เบาะหลังพร้อมด้วยสามี ทันทีที่เธอและสามีเข้ามานั่งเรียบร้อย ก็ได้ยินเสียงแซวมาจากลูกชายที่นั่งอยู่เบาะหน้าข้างคนขับ
“นี่ผมว่าถ้าอีก 10 นาที คุณพ่อคุณแม่ยังไม่ลงมาผมจะกลับบ้านก่อนแล้วนะครับเนี้ย” ราฟาเอลหันมามองบิดามารดาทั้งสองก่อนจะเอนหลังไปพิงเบาะรถด้วยท่าทางสบายๆก่อนจะโดนมารดาเอื้อมมือมาหยิกจนสะดุ้งจนเขาต้องหันกลับไปมองมารดาอย่างงอนๆ เพราะทำอะไรไม่ได้ก่อนจะได้ยินเสียงเขียวๆของมารดาพูดขึ้นมา
“เดี๋ยวเถอะตาราฟชักเอาใหญ่แล้วนะเดี๋ยวถ้ายังไม่เลิกล้อแม่นะจะโดนมากกว่าหยิก” พูดจบก็เอื้อมมือไปหยิกลูกชายอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ราฟาเอลรู้ทันจึงคว้าข้อมือของมารดาไว้ได้ทันก่อนจะกดจูบที่มือของมารดาเป็นของแถม
ทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์อย่างเจอราฟและลุงสมได้แต่หัวเราะตามไปด้วย แต่ก่อนที่จะมีเหตุการณ์ศึกสายเลือดระหว่างแม่ลูกที่ดูยังไงก็น่ารักกว่าหน้ากลัวเกิดขึ้นเสียงโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงแบรนดังของเจอราฟก็ดังขึ้นทำ คุณกิ่งแก้วที่กำลังเล่นกับลูกชายอยู่จึงหันมาสนใจสามีที่นั่งอยู่ข้างกายแทน
เจอราฟล้วงเอาโทรศัพท์มือถือที่กำลังส่งเสียงดังออกมา ก่อนจะดูที่หน้าจอเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนโทรมาก็กดรับสายทันที
“สวัสดีครับคุณกิติ” เจอราฟกรอกเสียงทักทายปลายสายที่โทรเข้ามาทันที
ราฟาเอลเมื่อได้ยินผู้เป็นพ่อเอ่ยชื่อคนที่โทรมาเข้ามาก็แปลกใจเพราะผู้ที่คนเป็นพ่อกำลังคุยด้วยอยู่เป็นผู้ควบคุมและตรวจสอบการทำงานฝ่ายต่างๆในโรงแรมดิเอคาร์ดสาขาใหญ่ที่กรุงเทพฯที่เขาพึ่งเซนเลื่อนขั้นให้เป็นที่ปรึกษาให้เขาเมื่อวันก่อน
เพราะคุณกิติเป็นคนมีความสามารถและความซื่อสัตย์ซ้ำยังทำงานให้คาร์ดหลายปีแล้วเขาจึงเห็นว่าคุณกิติหน้าจะมีความเข้าใจในการทำงานสามารถเป็นที่ปรึกษาให้ตนได้อย่างดี เรื่องที่เขาเซ็นให้คุณกิติเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวยังไม่มีใครรู้นอกจากเลขาคนสนิทของเขาและผู้ช่วยเลขาเท่านั้น
เรื่องเลื่อนขั้นของเขาจะต้องประกาศในที่ประชุมเพื่อให้ทุกคนรู้และยอมรับ แต่ตอนนี้ที่เขาสงสัยที่สุดเห็นจะเป็นเรื่องที่คุณกิติโทรหาพ่อเขาทำไมในเมื่อคุณพ่อก็ไม่ได้เป็นประธานบริษัทแล้วถ้ามีอะไรเกี่ยวกับปัญหาที่บริษัททำไมถึงไม่โทรหาเขาละ ไหนจะยังมารดาของเขาที่ตั้งใจฟังโทรศัพท์ของคุณพ่อมากกว่าการจับผิดหรือสงสัยว่าคุยกับกิ๊กเสียอีก
“คุณกิ่งแก้วเป็นยังไงบ้างครับ…หายป่วยหรือยังครับ”กิติถามอย่างเป็นห่วงเขาคิดอยู่นานว่าจะใช้คำว่าอะไรถามอาการของคุณกิ่งแก้วดีเลยใช่คำว่า หายป่วยหรือยัง ถามออกไปเพราะคำนี้รวมความหมายว่าสบายดีขึ้นหรือยังประมาณนี้ เขาต้องใช่ความพยายามอย่างมากเพราะถ้าใครผ่านมาได้ยินจะได้ไม่สงสัย
“หายแล้ว…นายคุยกับเธอเองก็แล้วกัน” เจอราฟตอบปลายสายก่อนจะส่งโทรศัพท์ให้ภรรยา นั่นทำให้ราฟาเอลที่แอบฟังการสนทนาของพวกผู้ใหญ่อยู่อย่างเงียบๆเกิดความสงสัยมากเข้าไปอีก พวกเขาต้องสนิทกันมากแน่ๆแล้วไปรู้จักกันตอนไหนหว่าปกติคุณแม่ไม่ชอบเข้าไปบริษัทนี่และจากการพูดคุยกันต้องรู้จักกันดีพอสมควรแน่
เอาแล้วรู้สึกถึงความซวยไม่สิ้นสุดงที่กำลังจะเข้ามาในชีวิตตงิดๆยังไงไม่รู้โว้…
“ค่ะ…คุณกิติตอนนี้ฉันสบายดีแล้วล่ะค่ะ” กิ่งแก้วเอ่ยตอบคนปลายสาย เธอกำลังจะพูดถึงแผนที่ได้วางเอาไว้ พลันสายตาหันไปเห็นลูกชายตัวดีเอาพอดี และดูเหมือนว่าลูกชายเธอจะแอบฟังเธอคุยโทรศัพท์ตั้งแต่ต้นพอสบตากับเธอปั๊บก็หลบสายตาทันที
“เอาเป็นว่า…คุณกิติมาพบฉันพรุ่งนี้แล้วกันนะคะ”
เธอรีบเอ่ยตัดบทกลัวว่าถ้ายังสนทนากับคนปลายสายต่อจะทำให้หลุดสิ่งที่ยังเก็บเป็นความรับออกมาแล้วคงจะทำให้เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นเอาป่าว
“ครับ…” แม้ว่าคนปลายสายจะงงไม่น้อยแต่ก็ได้รับปากไป เพราะขาดว่าคนที่กำลังคุยอยู่ด้วยอาจจะไม่สะดวกคุย
“คะ…สวัสดีค่ะ”เธอเอ่ยลาคนปลายสายก่อนจะส่งโทรศัพท์คืนให้สามีเมื่อคนที่คุยด้วยวางสายไปแล้ว
