ตอนที่ 15
“แม่อยากเห็นลูกแต่งงานมีครอบครัวก่อนที่แม่จะตาย” กิ่งแก้วเอ่ยเสียงสั่งพยายามกลั้นเสียงสะอื้นไว้รอบดวงตาเอ่อไปด้วยน้ำตา ราฟาเอลได้ยินคำของมารดาแล้วก็นั่งนิ่งจนมารดาถามซ้ำอีกครั้ง
“แต่งงานนะลูก”กิ่งแก้วร้องไห้หนักขึ้นก่อนที่ราฟาเอลจะดึงท่านเข้าไปกอดไว้แล้ว ตอบมารดาเสียเบาหวิวฃ
“ครับผมจะแต่งงาน” ชายหนุ่มโอบกอดมารดาแน่นขึ้นเขาค่อยๆซุกหน้าลงบนบ่าของมารดา
ทั้งสองโอบกอดกันอยู่นานจนกระทั่งได้ยินเสียงทักจากเจอราฟที่เปิดประตู้เข้ามาทั้งสองจึงพละออกจากกัน
“สองคนทำซึ้งอะไรกันหึ” เจอราฟเอ่ยถามทั้งสองก่อนจะเดินไปกอดกิ่งแก้วแล้วถามอย่างทีเล่นทีจริง “ร้องไห้ทำไมครับที่รักไอ้ลูกชายตัวดีมันทำอะไรให้คุณเสียใจบอกผมมาเลยเดียวผมจัดการให้ไม่เอาไม่ร้องนะที่รัก”
“ป่าวค่ะ…ตาราฟไม่ได้ทำอะไรให้แก้วเสียใจทำให้แก้วดีใจตั้งหาก แก้วเลยอดที่จะร้องไห้ออกมาไม่ได้” กิ่งแก้วเงยหน้าสบตากับสามีทั้งที่ยังกอดกันอยู่แล้วส่งยิ้มหวานไปให้จนเจอราฟอดไม่ได้ที่จะก้มลงหอมแก้วภรรยาโทษฐานที่ทำตัวน่ารัก
“เอ่อ…ขอโทษนะครับไม่ทราบว่าพ่อกับแม่ลืมไปแล้วรึเปล่าว่าผมยังยืนอยู่ในห้องนี้ด้วย” ราฟาเอลส่งเสียงบอกบิดามารดาที่เหมือนจะลืมว่าตนอยู่ในห้องนี้ด้วย ทำให้เจอราฟและกิ่งแก้วหันมามองลูกชายเป็นตาเดียวกันก่อนที่เจอราฟจะหันมาสั่งราฟาเอล
“ราฟลูกลงไปก่อนไป เอาของแม่เขาไปด้วย ตาสมเขาเอารถมาจอดรออยู่ที่ลานจอดรถชั้น 4 แล้ว เดียวพ่อขอคุยอะไรกับแม่เขาหน่อยเดียวจะตามลงไป”
“ครับผมก็ไม่อยากขัดเวลาหวานของพ่อกับแม่สักเท่าไหร่ ผมลงไปรอที่รถนะครับอย่าหวานมากละครับเดียวห้องนี้มดมันจะขึ้นสงสารคนที่เขาจะเข้ามาพักห้องนี้ต่อ”พูดจบก็เดินออกจาห้องไป
เจอราฟหลังจากที่เห็นลูกชายจอมเย็นชาออกจากห้องไปแล้ว จึงหันกับมาถามกิ่งแก้วต่อด้วยความเป็นห่วง
“คุณไม่เป็นไรแล้วแน่นนะที่รัก…รู้ไหมหน้าคุณยังซีดอยู่เลย” เพราะความเป็นห่วงทำให้เจอราฟเอ่ยถามภรรยาก่อนจะเอามือไปอังที่หน้าผากเพื่อตรวจดูอุณหภูมิร่างกายของเธอ เมื่อพบว่ามันปกติก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะส่งยิ้มอ่อนๆให้ภรรยาที่ส่งยิ้มหวานส่งให้อยู่ก่อนแล้ว
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้วละค่ะ…ฉันเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดานะค่ะไม่ได้เป็นโรคหัวใจจริงๆสักหน่อย…คุณก็ห่วงอะไรไม่เข้าเรื่อง” เธอบอกก่อนจะหัวเราะออกมาเบาๆทำให้เจอราฟพลอยหัวเราะไปด้วย
“จริงสินะผมเห็นหน้าคุณซีดผมเลยลืมไปว่าคุณโกหกลูกว่าเป็นโรคหัวใจจริงๆแล้วคุณเป็นแค่ไข้หวัดธรรมดา…แต่ว่าทำไมหน้าคุณซีดอย่างนี้ละ” เจอราฟหัวเราะเมื่อนึกขึ้นได้ว่าภรรยาของเขาโกหกลูกชายว่าป่วยเป็นโรคหัวใจ แต่ก็ต้องฉงนเพราะว่าหน้าของภรรยาที่ซีดเหมือนคนป่วยจริงๆ
เมื่อได้รู้ถึงความสงสัยของสามีทำให้กิ่งแก้วหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะเอามือล่วงเอาของอุปกรณ์สำคัญในการที่ทำหน้าซีดออกมาให้สามีดู
“นี่ไงคะ…ของที่ทำให้หน้าซีด” ที่เธอถืออยู่คือแป้งตลับที่เมื่อทาแล้วจะทำให้หน้าซีดมันคือเครื่องสำอางที่เธอให้มะลิเอามาให้เมื่อเข้าโรงพยาบาลตอนที่ราฟาเอลไปทำงานที่บริษัทและเจอราฟกลับบ้านไปอาบน้ำ ตลอด 3 วันที่เธอมาอยู่โรงพยาบาลราฟาเอลจะมาเยี่ยมเธอก่อนไปทำงานและหลังเลิกงานทุกวันเธอจึงอาศัยจังหวะที่ต้องลุกเข้าห้องน้ำในการเติมแป้งทุกครั้ง เหมือนกับก่อนหน้านี้ที่เธอเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเธอก็ใช้จังหวะนั้นให้การเติมแป้งอีกเช่นกัน
“อ่อ…อย่างนี้นี่เอง” ราฟาเอลพยักหน้ารับอย่างเข้าใจก่อนจะเอ่ยถามต่อ
“แล้วเรื่องแผนที่วางไว้ไม่ผิดผลาดอะไรใช่ไหม”
“ค่ะ…ไม่ผิดผลาดอะไรเป็นไปตามแผนทุกอย่าง…ถึงฉันป่วยจนต้องเริ่มแผนการเร็วกว่าที่วางไว้…แต่ก็ไม่มีปัญหาอะไรทุกอย่างเรียบร้อยเป็นไปตามที่คิดไว้…มือระดับนี้แล้ว” เธอตอบพลางใช้มือตบที่อกของตนเบาๆอย่างย่ามใจ ก่อนจะถามสามีถึงแผนที่ให้กิติและลดาทำว่าผลเป็นอย่างไรบ้าง
“แล้วทางฝั่งของคุณกิติกับคุณลดาล่ะคะเป็นยังไงบ้างสำเร็จไหมคะ”
“สำเร็จสิคุณ…กิติพึ่งโทรมาบอกผมเมื่อครู่นี้เอง…เห็นบอกว่าจะพาหนูลิต้ามาเยี่ยมคุณด้วยนะแต่ผมบอกเขาว่าคุณกำลังจะออกจากโรงพยาบาลแล้วเขาก็เลยบอกว่าจะมาเยี่ยมคุณที่บ้านแทน…เขาเล่าให้ผมฟังตอนที่ทำตามแผนที่คุณวางไว้เห็นบอกว่าร้องไห้กันหนักมากเลยนะผมละอดสงสารหนูลิต้าไม่ได้…ถ้ารู้ว่าโดนหลอกมีหวังต้องโกรธมากแน่ๆผมละไม่อยากจะคิดเลย”
เมื่อได้ยินคำตอบจากปากสามีว่าแผนทุกอย่างที่ได้วางไว้สำเร็จเธอก็รู้สึกดีใจมากแต่เมื่อนึกถึงคำพูดของสามีที่กล่าวออกมาตอนท้ายว่าถ้าเกินแผนที่วางไว้แตกหรือมีใครคนใดคนหนึ่งรู้ความจริง ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นลูกชายของเธอหรือว่าที่ลูกสะใภ้งานนี้คงต้องเจองานใหญ่แน่ แต่เธอก็หมั่นใจว่าเธอคิดไม่ผิดแน่ที่จะให้ทั้งสองแต่งงานกันเชื่อว่าในอนาคตทั้งสองจะต็องมีความสุขแน่ๆ
“เรากลับบ้านกันดีกว่าป่านนี้ลูกชายตัวดีของคุณคงรอแย่แล้ว” เจอราฟเอ่อบอกภรรยาเพราะเขาและภรรยาใช้เวลาคุยกันนานแล้วถ้ายังไม่รีบลงไปมีหวังลูกชายตัวดีของพวกเขาต้องสงสัยแน่
เจอราฟยืนมือไปให้กิ่งแก้วเธอยิ้มน้อยๆก่อนจะเอื้อมมือไปจับมือของสามีและออกก้าวเดินไปพร้อมกัน เธอหวังอยากให้ลูกได้อยู่กับคนที่จะรักและจะดูแลกันและกันไปตลอดแบบที่เธอและสามีที่ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็จะไม่มีวันทอดทิ้งกันตราบนานเท่านาน นับตั้งแต่วันแรกที่เธอ
