บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 เจ้าของงาน

วรวลัญช์หันไปโบกมือลาพี่สาวคนสนิทและในขณะที่เก้าขาเรียวยาวอย่างกับนางแบบเตรียมจะเข้าไปนั่งรอที่ล็อบบี้โรงแรมสุดหรูนี้ ผมยาวสลวยปลิวกระจายตามแรงลม

รองเท้าผ้าใบทุกครั้งที่สวมแล้วมันจะนุ่มสบายเท้าตอนนี้กับรู้สึกเจ็บ ๆ จนต้องเอาฝ่าเท้าขยี้กับพื้นถนนของลานจอดรถเพื่อเช็กว่ามีอะไรอยู่ในรองเท้าเธอแต่มองแล้วมันก็ไม่มีนี่

“อะไรติดหว่า”

ปรี๊น! รถคันหนึ่งบีบแตรเสียงดังลั่น เมื่ออยู่ ๆ หญิงสาวที่กำลังจะเดินข้ามถนนลานจอดรถเข้าไปในตัวตึกก็หยุดเดินและถูพื้นรองเท้ากับพื้นลานจอดรถ และมันคือกลางถนน!

หญิงสาวสะดุ้งตกใจเพราะอยู่ ๆ รถคันหนึ่งก็เลี้ยวมาด้วยความเร็วสูง หากใครจะผิดเธอก็รู้ว่าตัวเองผิดที่หยุดเดิน แต่มันเจ็บเท้านี่ และรถยนต์คันสีแดงนี่ก็มาเร็วเหลือเกินถนนก็มีแค่นี้จะขับเร็วทำไม…

“ประสาทหรือไง” คนขับรถพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก

“อย่าใส่อารมณ์ไปทั่ว ขาวขนาดนั้นชนไปเสียดายของแย่…” คนที่นั่งเบาะข้างคนขับบอกเพื่อนอย่างระอาเพราะตลอดทั้งทาง ‘บูรพา’ ก็เหยียบคันเร่งมิดไมล์

“คงมีไรติดเท้าแหละไม่งั้นจะหยุดเดินทำไม?” คนที่นั่งเบาะหลังเสนอหน้ามามองผู้หญิงซื่อบื้อคนนั้นเช่นกัน

“ก็ขาวอยู่น่าาาา สูงด้วย ดูเอว แขน…” ท่อนแขนข้างซ้ายของคนขับยกขึ้นดันไปทางด้านหลังเป็นผลทำให้คนที่ยื่นหน้ามาตรงกลางระหว่างคอนโซลรถต้องทิ้งตัวหลบไปกับเบาะ

คนขับถอนหายใจระอากับเพื่อนทั้งสองที่ลากเขามาสังสรรค์ก่อนกลับระยองที่นี่ บูรพาขมวดคิ้วมองผู้หญิงคนนั้น สายตาของเธอที่มองเข้ามาในรถทั้งที่มองไม่เห็นพวกเขาถึงจะค้อมหัวให้เหมือนว่าจะขอโทษ แต่สายตากลับไม่ได้สลดต่อความผิดตัวเองสักนิดเดียว!

“ขายาวฉิบหาย อย่าบอกนะว่าน้อง ๆ ที่นัดพบไว้!” คนที่นั่งอยู่เบาะหลังตื่นเต้นจนต้องยื่นหน้าสลอนชะโงกหน้ามองทั้งที่เรายังอยู่กันในรถ

“ใช้คำว่านัดพบกับผู้หญิงที่เลือกผ่านรูปภาพนะเหรอ?” คนขับรถหัวเราะพร้อมกับถอยรถเก็บเข้าซอง และเมื่อจอดเสร็จก็เหลือบสายตามองไปทางเดิน ยัยผู้หญิงคนนั้นยังคงยุ่มย่ามกับรองเท้าคู่เดิม

“ก็นัดไหมวะ ถ้าไม่นัดจะมาเจอกันได้ไง อารมณ์ดี ๆ อย่าทำเสียเรื่องได้ป่ะ” คนที่นั่งเบาะข้างคนขับชื่อว่าเบิร์ดพูดอย่างหงุดหงิด

เบิร์ดเป็นตัวตั้งตัวตีลากบูรพามาด้วยกันที่นี่ ก่อนที่มันจะกลับระยองในวันพรุ่งนี้ เพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องอมทุกข์ อยากให้มาปลดปล่อยหาอะไรสวยงาม น่ารัก ๆ ดูแบบใกล้ ๆ

“เรียกว่าซื้อง่ายกว่า…มึงใช้เงินซื้อผู้หญิงพวกนั้นมาต่างหาก” บูรพาเอ่ยออกมาอย่างไม่ยี่หระในคำพูดที่แสนจะฟังแล้วไม่เข้ารูหูเอาเสียเลย

“ไอ้บลู! ปากอย่างมึงเนี่ยนะ ไอ้ควายยย ทำอย่างกับมึงไม่เคยซื้อ!” เจ้าของชื่อยักไหล่ไม่ปฏิเสธ ไม่ใช่บูรพาไม่เคยเสียเงินกับเรื่องแบบนี้ แต่เสียบ่อยจนเฉย ๆ ไปแล้วด้วยซ้ำ เพียงแต่ช่วงนี้เขารู้สึกเบื่อ ๆ ไม่อยากจะเสียเงินในเรื่องที่ไม่ใช่เรื่อง และที่สำคัญมันไม่ถูกใจ

“ช่างเหอะโทรหาพี่กู๊ดดิ๊อยู่ไหนล่ะ คีย์การ์ดแม่งยังไม่เอามาให้กูเลย ให้มายืนรอเป็นเสี่ยวอีก!”

เบิร์ดเป็นคนเปิดประตูลงไปก่อน และปริญที่นั่งด้านหลังก็ลงตามไป ส่วนบูรพาลงไปคนสุดท้าย เสียงกดล็อกรถทำให้คนที่ยังสนใจกับอะไรในพื้นรองเท้ารู้ว่ามีคนกำลังจะเดินมาทางเธอ

วรวลัญช์หยุดการกระทำและยืดกายตัวตรงเดินเข้าประตูโรงแรมไปการที่จะเข้าไปด้านในตัวตึกได้ เธอก็แค่แตะคีย์การ์ดสีขาวกับประตูและมันก็เปิดออก

“น้องครับ!” เสียงนั้นพอจะเรียกความสนใจเธอได้ แต่วรวลัญช์ไม่คิดจะหันกลับไปมอง

เธอหยุดขายืนกดโทรศัพท์ตรงประตูสักพักโดยที่ยังหันหลังอยู่ เสียงเคาะกระจกดังเบา ๆ ให้พอได้ยินและแทนที่จะหันกลับไปอย่างมีมารยาทกลีบปากอวบอิ่มยกยิ้มขึ้น และก็มีสายโทรศัพท์โทรเข้ามาเป็นเบอร์แปลก หญิงสาวรับสายคุยสักพักและหันไปมองที่ประตูกระจกด้านหลังอีกครั้ง…

“ค่ะ ได้ค่ะ” หญิงสาวตอบรับคนในโทรศัพท์ไป ก่อนจะหมุนตัวกลับมาแตะฝ่ามือที่ด้านข้างประตูกระจกเพื่อปลดล็อกอีกครั้ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel