ตอนที่ 3 ทางออก
“ล้านเปอร์เซ็นต์ค่ะเสี่ย ฉันเอาหัวเป็นประกันเลยค่ะ” ชวนชมพูดอย่างมั่นใจทั้งที่ความจริงก็ไม่รู้ว่าหลานสาวจะแอบดื้อเงียบหรือเปล่า แต่ทุกครั้งที่ไปรับจ้างเธอก็ไปด้วยตลอด และตลอดเวลาที่เรียนจนจบมัธยมปลายก็ไม่เคยได้ยินหรือเห็นหลานสาวเอ่ยถึงเพื่อนผู้ชายสักคน
“งั้นก็ตกลงตามนั้น แล้วจะให้มาเมื่อไหร่ล่ะ” เสี่ยซ้งยิ้มออกมาอย่างพอใจ สายตาแฝงแววเจ้าเล่ห์อยู่ในนั้น ถึงผู้หญิงคนนี้จะเป็นคนที่เสี่ยซ้งยอมเสียเงินมากที่สุดก็ตาม เสี่ยซ้งไม่ใช่คนที่จะบังคับใครแต่ผู้หญิงส่วนมากถ้าเขาได้ตะล่อมคุยยื่นข้อเสนอให้อย่างงามแล้วก็เสร็จเสี่ยซ้งทุกราย
ชวนชมจึงนัดแนะกับเสี่ยซ้ง แล้วก็ให้ลูกน้องทำสัญญาเพื่อเป็นหลักฐานในวันนั้นทันที เธอดีใจจนอยากจะกรี๊ดออกมาไม่เคยคิดเลยว่าจะได้เงินจำนวนนี้มาจริงๆ ที่พูดออกไปก็เผื่อว่าเสี่ยซ้งจะต่อรองแต่เขากลับไม่ต่อราคาแม้แต่บาทเดียว หักหนี้สินแล้วก็เหลือตั้งสองล้านเศษๆ เธอไม่เคยคิดเลยว่าชาตินี้จะได้จับเงินมหาศาลขนาดนี้ ชีวิตนี้ไม่รู้ว่าต้องรับจ้างกี่ปีถึงจะได้จับเงินล้าน แค่นี้ก็ถือว่าคุ้มมากแล้วที่เลี้ยงดูหลานสาวคนนี้มาจนโต
หลายวันต่อมากรรวีเตรียมตัวจะไปทำงานที่บ้านเสี่ยซ้งตามปกติเหมือนเช่นทุกวัน
“เตรียมเอาชุดไปนอนค้างที่บ้านเสี่ยซ้งด้วยนะ แม่บ้านเขาลาป่วยหลายวันน่ะ เสี่ยซ้งเพิ่งโทรมาบอกป้าเมื่อเช้านี่เอง” ชวนชมบอกกับหลานสาวเมื่อเห็นกรรวีกำลังสะพายกระเป๋าเตรียมจะออกไปทำงานที่บ้านเสี่ยซ้ง
“ลากี่วันเหรอคะป้าชม” กรรวีเอ่ยถามผู้เป็นป้า เธอจะได้เตรียมเสื้อผ้าไปเผื่อ เพราะถ้าแม่บ้านเสี่ยซ้งลาหลายวัน นั่นก็เท่ากับว่าเธอต้องทำทุกอย่างภายในบ้านเองทั้งหมด รวมถึงทำอาหารสามมื้อให้เสี่ยซ้งด้วยเพราะเสี่ยซ้งจะแยกบ้านอยู่ต่างหากจากบรรดาเมียของเขาทั้งหลาย
“ก็เตรียมไปก่อนสักสามสี่วัน เดี๋ยวเสี่ยซ้งเขาก็บอกแกเองนั่นแหละ” ชวนชมบอกกับเธอเสียงเรียบใบหน้าวางเฉยเหมือนไม่มีสิ่งผิดปกติอันใด
“โอเคค่ะ งั้นหม่อนไปเก็บเสื้อผ้าก่อนนะคะ” กรรวีบอกกับป้าแต่ในใจก็คิดอยู่เหมือนกันว่าเหตุใดป้าแม่บ้านถึงไม่โทรมาบอกเธอ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เวลาเธอจะหยุดงานป้าแม่บ้านจะต้องโทรมาบอกตลอด
“โอย ประจำเดือนก็ดันมาวันนี้อีก นี่ต้องเหนื่อยแค่ไหนวะเนี่ย ป้าแดงก็ไม่อยู่” กรรวีบ่นพึมพำอยู่ในห้องคนเดียว เพราะทุกครั้งที่เป็นประจำเดือนร่างกายเธอจะอ่อนเพลียมากกว่าปกติ ยิ่งต้องไปทำงานบ้านเสี่ยซ้งคนเดียว เธอจะต้องเหนื่อยขึ้นเป็นสองเท่า
เก็บเอาของใช้ส่วนตัวและเสื้อผ้าพอให้อยู่ได้สี่วัน เสร็จแล้วก็เดินลงมาให้ป้าขับรถมอเตอร์ไชด์ไปส่ง ระยะทางจากบ้านป้าของเธอไปบ้านเสี่ยซ้งก็ประมาณยี่สิบกิโลเมตร เพราะบ้านของเสี่ยซ้งอยู่ในตัวอำเภอ
“หม่อนเก็บของเรียบร้อยแล้วค่ะป้าชม เราไปกันเถอะค่ะ”
“เอ้า นี่เงินเอาไว้เผื่อซื้อขนมตอนที่อยู่บ้านเสี่ย แต่ถ้าแกทำตัวดีๆเสี่ยซ้งก็จะให้แกเยอะกว่านี้สิบเท่า” ชวนชมยื่นธนบัตรจำนวนหนึ่งพันบาทให้เธอหนึ่งใบ กรรวีถึงกับตาโตเพราะป้าไม่เคยให้เงินเธอใช้เยอะขนาดนี้มาก่อน
“ทำไมให้เงินหม่อนเยอะขนาดนี้ล่ะคะ หม่อนไปไม่กี่วันเองนะคะ” กรรวีท้วงชวนชมขึ้นมาเพราะแต่ก่อนแค่ร้อยเดียวป้าของเธอยังไม่เคยให้จับ แม้แต่ขอเงินเติมค่าโทรศัพท์ครั้งละยี่สิบบาทก็ยังยากเย็นแสนเข็ญ
“รับไปเถอะน่า อย่าพูดมากรีบขึ้นรถ เอ้า ใส่ซะหน้าจะได้ไม่โดนแดดโดนลมเดี๋ยวจะไม่สวย” ชวนชมยื่นหมวกกันน็อคให้หลานสาว กรรวีทำหน้างงหนักเข้าไปอีก ป้าจะมาห่วงทำไมว่าเธอจะสวยหรือไม่สวยเพราะทุกครั้งก็ใส่อยู่แล้ว และก็ไม่เคยจะมาห่วงเรื่องความสวยของเธอสักที ตัดอ้อยตากแดดหน้าดำยิ่งกว่านี้ก็ไม่เคยห่วง
“ไปอยู่บ้านเสี่ยซ้งแล้วทำตัวดีๆล่ะ เขาจะได้เอ็นดู” ชวนชมย้ำกับหลานสาวอีกครั้ง เพราะถ้ากรรวีไม่ดื้อกับเสี่ยซ้งหลานสาวของเธอก็มีสิทธิ์ที่จะได้เรียนต่อเหมือนเด็กคนอื่นๆ เธอคิดว่าวิธีนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีกับทั้งสองฝ่าย
“แหมป้าชมคะ หม่อนไปแค่ไม่กี่วันเองค่ะ พูดเหมือนกับหม่อนจะต้องไปอยู่กับเขาตลอดงั้นแหละ”
“ก็พูดเผื่อไว้ไง เผื่อได้อยู่ดูแลเขานานๆ”
“ไม่เอาหรอกค่ะ หม่อนไม่ชอบสายตาเวลาที่เขามองหม่อนเลยค่ะ เขาเหมือนคนเจ้าชู้ยังไงก็ไม่รู้” เด็กสาวอย่างเธอคงยังดูผู้ชายไม่ค่อยออก เสี่ยซ้งไม่ใช่แค่ผู้ชายเจ้าชู้แต่โคตรเจ้าชู้ต่างหาก คนรุ่นราวคราวเดียวกันกับเสี่ยซ้งต่างรู้ดีว่าเสี่ยซ้งรับเลี้ยงดูส่งเสียเด็กที่อายุมากกว่าสิบแปดปปีหลายคนแค่ไหน สาวๆคนไหนที่หน้าตาดีหน่อยอยากมีเงินส่งตัวเองเรียนหรืออยากใช้ชีวิตติดหรูก็เดินเข้าไปหาเสี่ยซ้งได้อย่างสบาย