เล่ห์รักน่านฟ้า

70.0K · จบแล้ว
กัญจารีย์
44
บท
5.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

จำไว้! ต่อไปอย่ามาอวดเก่งกับฉันอีกฉันยังไม่อยากใช้ของร่วมกับผู้ชายคนอื่น

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันผู้ชายอบอุ่นนักศึกษาฟินๆ

ตอนที่ 1 กำพร้า

หลังจากสายฝนที่โปรยปรายลงมาได้หยุดลง ภายในบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ตามสไตล์ชนบท กรรวีกำลังนอนเอาหมอนนุ่มปิดหูทั้งสองข้างของตัวเองเพื่อไม่ให้ได้ยินเสียงลุงกับป้าทะเลาะกัน แต่ถึงกระนั้นเสียงก็ยังเล็ดลอดเข้ามาให้เธอได้ยินอยู่ดี

นับตั้งแต่จำความได้จนตอนนี้เธออายุย่างเข้าสิบเก้าปีแล้วลุงกับป้าก็ยังทะเลาะกันไม่เว้นแต่ละวัน และเธอเองก็ไม่เคยชินกับเหตุการณ์นี้เสียที มันทำให้เธอเสียสุขภาพจิตเป็นอย่างมาก เคยคิดอยากจะหนีออกจากบ้านไปให้ไกลที่สุดแต่ด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัด จึงไม่รู้จะหนีไปไหน เงินติดตัวก็ไม่มีสักบาท

“เมื่อไหร่พี่จะเลิกเล่นการพนันซะที เมื่อไหร่จะมาช่วยฉันหาเงินบ้าง ฉันเหนื่อยจะตายอยู่แล้วนะ รู้มั้ยว่าเสี่ยซ้งเขาให้คนมาทวงหนี้ฉันถึงบ้าน พี่ไปกู้เงินเขามาอีกแล้วใช่มั้ย” ชวนชมพูดขึ้นเสียงดัง โมโหที่สามีไปยืมเงินกับเสี่ยซ้ง เพื่อเอาไปเล่นการพนันจนหมดตัว ลำพังที่เธอไปขอกู้เสี่ยซ้งมาเพื่อส่งให้ลูกสาวที่เรียนอยู่กรุงเทพฯก็มากพออยู่แล้ว

“โธ่เว้ย ก็หาช่วยอยู่นี่ไงครั้งนี้ไม่ได้ ครั้งหน้ามันก็ต้องได้แหละน่า เอ็งก็ใจเย็นๆก่อนสิวะ” ทรงชัยบอกภรรยาอย่างหัวเสียเช่นกัน วันนี้เล่นการพนันเสียแล้วยังต้องกลับมาโดนเมียที่บ้านด่าอีก

“ใจเย็นอะไรล่ะพี่ ตอนนี้เราเป็นหนี้เขาเกือบล้านแล้วนะ เงินที่จะส่งเป็นค่าเทอมให้ยัยรินฉันก็ยังไม่มีเลย พี่ไปยืมเขามาก่อนแบบนี้แล้วฉันจะไปหาที่ไหนมาให้ลูกล่ะ” น้ำใสๆเริ่มไหลออกมาจากหน่วยตาทั้งสองข้าง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอต้องแบกภาระภายในบ้านเองทุกอย่าง ดีที่มีหลานสาวอย่างกรรวีคอยช่วยรับจ้างหาเงินมาให้เธอส่งเสียลูกสาวเรียน

“เหอะน่า มันต้องมีทางออกสิ ขอฉันคิดก่อน” ทรงชัยเสียงอ่อนลงบอกกับภรรยา ชวนชมเหนื่อยใจกับสามีไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีเขาก็ยังไม่เคยเปลี่ยน ทั้งดื่มเหล้าทั้งเล่นการพนัน หลายครั้งที่ทั้งสองทะเลาะกันรุนแรงจนเกือบจะเลิกกันแต่สุดท้ายเมื่อทรงชัยได้เงินจากเล่นการพนันมาง้อขอคืนดี ชวนชมก็ยอมใจอ่อนกลับไปทุกที

กรรวีเองก็จนใจเพราะเงินจำนวนมากขนาดนั้นเธอคงไม่มีปัญญาไปหามาให้ป้าเธออย่างแน่นอน แค่ช่วยรับจ้างตัดอ้อยทุกวันนี้ก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด ไหนจะต้องมารับผิดชอบงานบ้านงานเรือนอีก เด็กอายุแค่นี้รับผิดชอบได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว เงินที่ได้มาทุกบาทก็ให้ป้าหมด ถ้าไม่ติดคำว่าบุญคุณเงินที่ได้จากการรับจ้างก็พอจะถูๆไถๆส่งตัวเองเรียนได้

แม่เธอจากไปตั้งแต่เธออายุได้เพียงเก้าขวบด้วยโรคร้ายเธอก็อาศัยอยู่กับลุงกับป้ามาโดยตลอด ส่วนชัชรินทร์ลูกสาวคนเดียวของลุงกับป้านั้นไปเรียนที่กรุงเทพฯ นานๆจะกลับมาเยี่ยมบ้านสักที

ส่วนมากจะโทรมาเฉพาะเวลาขอเงินพ่อกับแม่เท่านั้น พ่อกับแม่จะมีเงินให้หรือไม่นั้นไม่เคยสนใจแต่ขอเมื่อไหร่ก็ต้องได้ ไม่เคยรับรู้ว่าแม่ไปหยิบยืมเงินจากเสี่ยซ้งมาส่งเสียตัวเองเรียนมากมายแค่ไหน นอกนั้นก็ไม่เคยกลับมาดูแลพ่อกับแม่เลย พ่อกับแม่ก็ตามใจทุกอย่างยกเว้นหลานที่กำพร้าทั้งพ่อและแม่อย่างเธอ

กรรวียังไม่รู้ชะตาชีวิตของตัวเองเลยด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อไป เรียนจบแค่มัธยมปลายแต่ลุงกับป้าก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะให้เธอเรียนต่อ ทั้งที่เธอสอบได้ทุนเรียนดีแต่ป้าของเธอกลับให้เธอปฏิเสธเพราะกลัวไม่มีคนใช้งานและไม่มีคนคอยหาเงินให้หล่อน อีกทั้งไม่อยากซัพพอร์ตหลานสาวหากเงินทุนที่กรรวีได้รับมานั้นไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายตลอดเวลาที่เธอศึกษาอยู่

มือบางจับสร้อยเงินเส้นเล็กที่มีจี้รูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวล้อมรอบพระจันทร์เต็มดวงเรืองแสงสีฟ้าอยู่ด้านในอีกทีที่คอตัวของเองขึ้นมาดู มันเป็นสมบัติชิ้นสุดท้ายและชิ้นเดียวที่แม่ให้ไว้ก่อนตาย ยามท้อก็แอบจินตนาการว่าอยากให้มีปาฏิหาริย์ให้พ่อตัวเองรวยๆแล้วมารับไปอยู่ด้วย เธอจะได้เรียนหนังสือเหมือนกับเพื่อนคนอื่นๆบ้าง แต่มันก็เป็นเพียงแค่ความฝัน เพราะไม่มีใครบอกเธอได้ว่าพ่อของเธอคือใคร และเหตุใดพ่อของเธอถึงไม่อยู่กับแม่

แต่กรรวีเองก็ไม่เคยโทษใครเพราะทุกอย่างที่เกิดขึ้นทุกคนก็คงล้วนต้องมีเหตุผลเสมอ เพราะแม่ของเธอเองก็ยังไม่ยอมบอกว่าพ่อของเธอเป็นใครและทำไมท่านทั้งสองถึงไม่ได้อยู่ด้วยกัน ดวงเดือนยอมเก็บความลับไว้จนวาระสุดท้าย พอรู้ว่าตัวเองจะต้องจากไปแบบไม่มีวันกลับและเห็นว่าลูกไม่มีที่พึ่งอื่นแล้ว จะหวังพึ่งพี่สาวและพี่เขยไปตลอดก็คงไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจมอบสร้อยเส้นนี้ให้กับลูกสาว

‘ถ้าใบหม่อนเรียนจบมอปลายแล้วให้ไปถามหาคนคนนี้กับป้าแดงนะลูก’

ดวงเดือนบอกกับลูกสาวในวันนั้นเพื่อให้ลูกบรรลุนิติภาวะก่อน กรรวีเหม่อมองชื่อแม่ของตัวเองและใครอีกคนที่สลักอยู่บนจี้สร้อยพระจันทร์เสี้ยวนั้น