บทนำ เล่ห์รักนางโจร (2)
“อย่าโกหกเชร่าเช่นนั้นท่านพี่ บอกความจริงกับลูกของเราไปซะ ว่าชีคอับดุล ฮาเหม็ดจงใจสังหารเราทั้งครอบครัว!” นางมีนะเอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง ดวงตาคู่สวยของนางเป็นประกายระยับด้วยความเกลียดชังเมื่อเอ่ยถึงนามของจ้าวผู้ปกครองเนราเซียนคร เพราะมหาบุรุษผู้นี้ล่ะที่ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวนางตกต่ำลงถึงขีดสุด ชีคถ่อยผู้นั้นยึดทุกสิ่งทุกอย่างคืนกลับไป ไม่เหลือแม้แต่แผ่นดินที่จะเหยียบเท้าด้วยซ้ำ!
“ไม่... ไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิดมีนะ ท่านชีคอับดุล ฮาเหม็ดท่านช่วยเหลือเราต่างหาก ผู้ที่ทำให้เราเป็นเช่นนี้คือขุนนางในราชสำ...”
“ข้าไม่อยากฟังท่านอธิบาย!” นางมีนะตวาดขึ้นก่อนที่สามีจะชี้แจงเรื่องราวทั้งหมดจบ
“เจ้าควรฟังพี่บ้าง” อัฟฟานกดเสียงให้ต่ำลง
“ข้าฟังท่านมาตลอด ข้ารู้แค่ว่าความซื่อสัตย์ของท่านคือศาสตราวุธที่ใช้ประหารเราทั้งครอบครัว!” นางมีนะร่ำไห้จนตัวสั่นเทาอีกครั้ง เมื่อความขัดแย้งและความเครียดจากการถูกไล่ล่าเอาชีวิตประดังเข้ามา
“โอ้เทวีแห่งแสงสว่างทรงคุ้มครอง!” อัฟฟานวาดมือออกกว้างอย่างวิงวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาให้ความเคารพนับถือเมื่อไม่รู้ว่าจะจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นได้เช่นไร
“คำวิงวอนของท่านไร้ประโยชน์ ไม่มีใครสามารถคุ้มครองเราได้นอกจากตัวของเราเอง”
“ยอดชีวีแห่งข้า เจ้าควรศรัทธาในองค์เทวีแห่งแสงสว่าง” อัฟฟานเตือนด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ข้าศรัทธาในตนเอง ไม่มีใครช่วยเหลือเราได้ แม้แต่องค์เทวีแห่งท่าน!” นางมีนะกล่าวสรุปแล้วเช็ดน้ำตาออกจากแก้มชื้น
“เราสองคนไม่ควรทะเลาะกันให้เชร่าเห็น” อัฟฟานกล่าวเตือนสติเมื่อหันมาเจอสายตาใสเจ๋วของบุตรสาวเข้า
เชร่าฟังผู้ให้กำเนิดของตนเองพูดโต้กันไปกับโต้กันมา ตั้งแต่จำความได้นางงามตัวน้อยไม่เคยเห็นบิดาและมารดาทะเลาะกันเลยสักครั้ง และนี่ก็เป็นครั้งแรก...
“ท่านพี่กล่าวได้ถูกต้อง มันควรจะเป็นเช่นนั้น ถ้าท่านพี่ไม่เริ่มต้นก่อน”
“เจ้ากำลังทำตัวไร้เหตุผลนะมีนะ”
“ใช่ ข้ากำลังไร้เหตุผล ข้าคิดว่าต่อจากนี้ไปเราจะไม่ทะเลาะกันอีก... เชร่ามากับแม่เถิด” นางมีนะคว้าตัวบุตรสาวมากอดแล้วปัดเม็ดทรายออกจากเนื้อตัว ก่อนนำผ้าผืนโตมาคลุมศีรษะให้เด็กหญิงตัวน้อย จากนั้นนางจึงหันมาจัดการกับตัวเองในลักษณะเช่นเดียวกันบ้าง
“เอาล่ะเด็กดีของแม่ กล่าวคำล่ำลาท่านพ่อของเจ้าซะ แล้วเราสองคนแม่ลูกจะไปพบท่านตาท่านยายด้วยกัน”
“ท่านแม่ไม่พาท่านพ่อไปด้วยหรือเจ้าคะ?” เชร่าเอียงคอสงสัย
“พ่อของเจ้ายังมีอีกหลายเรื่องที่ต้องรีบกลับไปจัดการในนครเนราเซีย” นางมีนะกระซิบที่ข้างหูพอได้ยินกันสองคน พลางปัดเม็ดทรายออกจากแก้มใสของบุตรสาวอีกครั้ง
“เช่นนั้นเราควรไปด้วยกัน ท่านพ่อจะรู้สึกดีหากมีพวกเราอยู่เคียงข้าง”
ได้ยินเชร่าเอ่ยเช่นนั้น นางมีนะจึงกรอกลูกตาไปมากับความเฉลียวฉลาดเกินเด็ก ส่วนอัฟฟานผู้นำครอบครัวยิ้มกว้างออกมาทันทีเมื่อบุตรสาวตัวน้อยทำให้สถานการณ์พลิกกลับมาดีขึ้น
เคยได้ยินว่า ‘ลูก คือ โซ่ทองคล้องใจพ่อแม่’ เขาเพิ่งประจักษ์ด้วยตัวเองก็ตอนนี้นี่เอง
“เจ้ากล่าวได้ถูกต้องเชร่า พ่อคงอยู่ไม่ได้หากขาดเจ้าและแม่ของเจ้าไป”
เด็กน้อยยิ้มกว้างจนเห็นฟันซี่หน้าที่แหว่งเว้า ทว่ารอยยิ้มนั้นอันตรธานหายในทันทีเมื่อนางเหลือบตาไปเห็นชายร่างใหญ่หลายนายกำลังควบม้ามุ่งหน้ามาทางนี้
“ข้าคิดว่าท่านพ่อกำลังมีแขก”
อัฟฟานหันหลังกลับไปมอง ‘แขก’ ที่เชร่าเอ่ยถึง นี่เองจึงทำให้สีหน้าของอดีตเสนาบดีหนุ่มไฟแรง ซึ่งสร้างความดีความชอบให้ราชสำนักเนราเซียมามากมายถึงกับหน้าถอดสี
“ใครเหรอเจ้าคะ?” เชร่าเงยหน้าถามบิดาอย่างสงสัย
“ศัตรูของพวกเรา! หนีเร็ว มีนะ เชร่า!!!” อัฟฟานเตือนด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ก่อนต้อนให้ลูกสาวและภรรยาหนีไป ส่วนตัวอัฟฟานรีบทำหน้าที่คุ้มกันความปลอดภัยให้
แต่ไม่ทันกาลซะแล้ว!
ชายร่างใหญ่พร้อมลูกน้องผู้ติดตามได้ควบม้าฝีเท้าดีมาดักหน้าเอาไว้ซะก่อน
