บท
ตั้งค่า

บทที่ 5

“ทำไมไม่ขี่มอเตอร์ไซค์ออกมา”

“ขี่ไม่เป็นครับ”

“เลยเดินเนี่ยเหรอ วันนี้จะถึงบ้านญาตินายไหม”

“ตั้งใจจะโบกรถแล้วขอติดไปด้วยครับ”

“ถูกปล้นมา ยังไม่เข็ดอีกหรือไง” โสภิตาพูดแทงใจดำจนราเชนค้านไม่ออก เขาไม่ได้ตั้งใจมาเพื่อให้ถูกปล้น แต่นั่นคือวิธีเดินทางที่เขาได้ยินจากคนสำคัญที่ทำให้เขามายืนอยู่ตรงนี้เสมอๆ ว่าอยากทำแบบนั้นแบบนี้ เพราะแบบนั้นเขาจึงอยากทำให้เป็นครั้งสุดท้าย

“เข็ดครับ”

“บ้านญาตินายอยู่ที่ไหน”

“หมู่บ้าน...ครับ” ราเชนบอกพิกัดไป โสภิตาประมวลผลเส้นทางในหัวครู่หนึ่งจากนั้นขับรถออกไปตามเส้นทางที่คดเคี้ยว

“คุณหวานไปถูกหรือครับ” คนข้างๆ เอ่ยถาม เพราะท่าทางของโสภิตานั้นเหมือนรู้ว่าต้องไปที่ไหน

“ไม่ถูกแต่ถามเอาก็ได้”

“ครับ” คนฟังแอบยิ้มกับคำตอบที่ได้ยิน น่าแปลกที่ถึงแม้โสภิตาจะชอบพูดจากับเขาห้วนๆ แต่มันกลับไม่ได้ทำให้เขารู้สึกอึดอัดแต่อย่างใด ดีกว่าปากหวานก้นเปรี้ยวเป็นไหนๆ

อาจเพราะเขาใช้ชีวิตแบบนั้นมาตลอด ทุกคนที่เข้าหาเขาส่วนมากมาเพื่อหาผลประโยชน์หรือไม่ก็ความเกรงกลัว เกรงใจ คำพูดการแสดงออกมันจึงดูไม่เป็นธรรมชาติอย่างที่โสภิตากำลังทำอยู่ในขณะนี้

“โค้งครับโค้ง” ราเชนรีบบอกนั่นเพราะโสภิตาไม่ได้ชะลอความเร็วของรถแต่อย่างใด

“อ้อ” คนถูกเตือนเอ่ยรับเพียงแค่นั้น โสภิตาขับรถมาตามเส้นทางเรื่อยๆ สลับมองดูป้ายข้างทางบ้างเพราะหมู่บ้านที่ราเชนบอกเธอนั้นหาไม่ได้ในจีพีเอส แต่ความซิ่งของเธอก็ทำเอาราเชนหัวใจจะวายหลายต่อหลายครั้ง ถึงกับต้องใช้มือยึดมือจับตรงเหนือศีรษะไว้ให้แน่น ในขณะที่ตัวก็เอียงไปมาตามจังหวะเข้าโค้งของเธอไปด้วย ในใจภาวนาขอให้ตัวเองรอดปลอดภัยทุกโค้ง

ในขณะที่โสภิตายังคงชิลล์เพราะถึงแม้จะขับรถมาในเส้นทางที่ไม่คุ้นเคยแต่ก็มั่นใจว่าฝีมือการขับรถของเธอนั้นปลอดภัยถึงที่หมายแน่นอน ช่วงไหนที่เริ่มหลงก็ให้ชายหนุ่มลงไปถามคนในพื้นที่ งมทางกันไปกันสองคนกระทั่งถึงที่หมาย ซึ่งทันทีที่ก้าวลงมาจากรถแข้งขาของราเชนก็ถึงกับสั่น

“ป้าคนเมื่อครู่ บอกว่าบ้านหลังนี้ใช่ไหม”

“ครับ” ขณะเอ่ยรับคำ ราเชนก็กวาดสายตามองบ้านหลังตรงหน้าไปด้วย สภาพที่เห็นไม่ได้ทรุดโทรมแต่ว่างเปล่าเหมือนไม่มีคนอยู่อาศัย

ทั้งโสภิตาและราเชนพยายามเรียกหาเจ้าของบ้าน กระทั่งเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ที่สุดแต่ก็ห่างไปเกือบร้อยเมตรบังเอิญผ่านมาเห็นเข้า จึงอดไม่ได้ที่จะเข้าไปหาทั้งคู่แล้วเล่าให้ฟังว่าทุกคนในบ้านหลังนี้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุยกครอบครัวไปเมื่อไม่กี่วันก่อน โสภิตาตกใจกับสิ่งที่ได้รู้และเป็นห่วงความรู้สึกของราเชนขึ้นมาอย่างไม่รู้สาเหตุ

ในขณะที่ราเชนยืนนิ่งงันไป ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาหนักๆ แล้วก้าวเท้าเดินเข้าไปหยุดอยู่ตรงหน้าบ้าน เขามั่นใจว่าบ้านหลังนี้สร้างมาด้วยเงินจากคนที่อยากกลับมาใช้ชีวิตบั้นปลายที่นี่มากที่สุด ชายหนุ่มหยิบอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋า ซึ่งมันคือเถ้าอัฐิที่เขาเก็บไว้กับตัวเป็นอย่างดี ขนาดถูกซ้อมปางตายวันนั้นเขาก็ยังกำมันไว้ไม่ยอมปล่อย

“แม่นมครับ ผมพาแม่นมกลับมาบ้านแล้วนะ” ราเชนเอ่ยกับเถ้าอัฐิที่อยู่ในมือ เพราะก่อนที่แม่นมที่เลี้ยงดูเขามาตั้งแต่เด็กๆ จะเสียชีวิตท่านได้ขอให้เขานำอัฐิส่วนหนึ่งกลับมาบ้านเกิด บ้านที่ท่านอยากกลับมาใช้ชีวิตในช่วงบั้นปลายแต่โรคร้ายก็มาพรากลมหายใจไปเสียก่อน

ราเชนเลือกที่จะเดินทางตามที่แม่นมของเขาอยากทำ แม้นั่นจะเป็นครั้งแรกของการนั่งรถทัวร์ปรับอากาศจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงรายก็ตาม ตลอดเวลาที่อยู่บนรถทัวร์ชายหนุ่มพูดคุยกับเถ้าอัฐิของแม่นมเสมอ แต่เหตุร้ายก็เกิดกับเขาจนเกือบมาไม่ถึงที่นี่

“แต่ผมมาช้าไปครับ ตอนนี้พวกเขาไม่อยู่แล้ว” นั่นคือสิ่งที่ราเชนเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน แต่ก็หวังว่าทุกคนที่จากไปจะได้พบกันในที่ไหนสักแห่ง ราเชนวางเถ้าอัฐิของแม่นมไว้แล้วเดินไปหาโสภิตา

“นายโอเคไหม”

“โอเคครับ” ราเชนเอ่ยบอกขึ้น แม้จะช็อคเล็กน้อยแต่เขาก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้

“จะเอายังไงต่อ จะอยู่ที่นี่หรือว่ากลับไปกรุงเทพฯ” น้ำเสียงของโสภิตาแฝงความเป็นห่วงไว้ซึ่งราเชนก็รับรู้ได้ เขาซาบซึ้งในน้ำใจของเธอที่กล้าช่วยผู้ชายแปลกหน้าแบบเขาแล้ว นี่เธอยังแสดงน้ำใจเป็นห่วงเรื่องอนาคตของเขาอีก

“ผมอยากอยู่ที่นี่แต่คงไม่ใช่บ้านหลังนี้ เพราะต่อให้พวกเขาเสียไปแล้วแต่ก็ไม่ได้แจ้งใครว่าให้ผมอยู่ในบ้านได้”

“งั้นกลับไปตั้งหลักที่ไร่ฉันก่อนแล้วกัน”

“ครับ” ราเชนเอ่ยรับ แม้เขาจะมีที่ไปแต่กลับเลือกที่จะขออยู่ที่ไร่ของโสภิตาไปก่อน เพราะก่อนหน้านี้ก็คิดอยากจะหนีชีวิตความวุ่นวายในเมืองกรุงแล้วไปอยู่ในที่ที่ไม่มีใครรู้จักเขาเช่นกัน

ขับรถกลับกันมาได้สักระยะ โสภิตาก็จอดรถริมถนนเพื่อหาอะไรเป็นมื้อเที่ยง เธอกินง่ายอยู่ง่ายส่วนราเชนนั้นใช้ชีวิตบนความสะดวกสบายกินดีอยู่ดีในสังคมไฮโซมานานจึงต้องใช้เวลาในการปรับตัวพอสมควร หลังกินอิ่มโสภิตาก็อาสาจ่ายเงินและเดินไปยังรถซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลนัก

“ผมขับให้ไหมครับ” นั่นเพราะราเชนไม่อยากซิ่งอีกแล้ว กลัวว่าข้าวเที่ยงที่กินไปจะไม่ทันย่อยก็อาเจียนออกมาเสียก่อน

“นายขับรถได้เหรอ”

“ได้ครับ”

“แต่ฉันไม่ชอบให้ใครขับรถให้” คนฟังแย้งเพราะเธอไม่ชอบให้ใครขับรถให้จริงๆ นั่งทีไรเธอก็ชอบเหยียบเบรกแบบไม่มีเบรกไปด้วยทุกที

“งั้นเป่ายิ้งฉุบ ใครชนะได้ขับรถ”

“เรื่องเป่ายิ้งฉุบนี่ฉันไม่เคยแพ้ใครอยู่แล้ว” โสภิตาวอมมือด้วยการหักนิ้วดังกรอบแกรบ สีหน้าดูจริงจังเพราะมั่นใจว่าเธอต้องชนะแน่นอน ท่าทางที่เห็นพลอยทำให้ราเชนนึกสนุกตามไปด้วย นานๆ จะทำตัวเป็นเด็กสักครั้งก็ดีไปอีกแบบ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel