บท
ตั้งค่า

บทที่ 4

“แต่ แต่พวกเราไม่ ไม่เคยฝึกมาก่อน......”

หลังจากฟังแผนการของหลินชวนจบ จางเสี่ยวเนียนก็พูดตะกุกตะกัก

“สู้ได้ก็สู้ สู้ไม่ได้ก็หนี!” หลินชวนอธิบาย

เขาไม่ได้คาดหวังว่าคนเหล่านี้จะสามารถทำประโยชน์อะไรได้มากนัก

หลายปีมานี้ เมื่อทุกคนได้ยินชื่อชาวตาดสีหน้าก็เปลี่ยนไป

ความหวาดกลัวในใจ เป็นไปไม่ได้เลยที่จะขจัดออกไปได้ในเวลาอันสั้น

หลินชวนเพียงแค่ต้องการให้มีคนช่วยดึงดูดความสนใจของชาวตาด หรือรบกวนอีกฝ่าย

เช่นนี้ เขาถึงจะสามารถหาโอกาสฆ่าคนได้

ไม่เช่นนั้น การที่เขาเผชิญหน้ากับชาวตาดหกคนเพียงลำพัง ก็ไม่มีโอกาสชนะเลย

“สรุปคือ สร้างความวุ่นวาย ข้าจะหาโอกาสฆ่าพวกเขา!”

ทุกคนฟังแล้วก็ตะลึงจนตาค้าง

เด็กหนุ่มี่ยังไม่โตเต้มวัยที่ถือไม้ไผ่คนนั้น ก็ตะโกนออกมา: “เข้าใจแล้ว! เหมือนกับวิธีการล้อมจับหมูป่าของเรา!”

เมื่อพูดถึงการล่าหมูป่า ทุกคนจึงเข้าใจในทันที

“ถูกต้อง!” หลินชวนพยักหน้า “จำไว้ว่า ชาวหลางหรงกลัวการต่อสู้ระยะประชิดที่สุด ธนูของพวกเขาไม่สามารถใช้ได้สะดวกในตรอกเล็ก นี่คือโอกาสของเรา!”

ทันใดนั้นก็มีเสียงกีบเท้าม้าดังมาจากที่ไกล ๆ พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนเล็กน้อย

หลินชวนสีหน้าเคร่งขรึม : “ไม่มีเวลาพูดรายละเอียดแล้ว จำไว้ พวกเจ้ามีหน้าที่ก่อกวน ส่วนข้าจะลงมือฆ่าพวกเขา! อย่าวู่วามจนถึงแก่ชีวิต!”

จางเสี่ยวเนียนพลันคว้าแขนเสื้อของหลินชวนไว้ : “ท่าน ท่านพี่ซิ่วไฉ ถ้า ถ้าพวกเรา...”

หลินชวนพลิกมือกลับไปกุมมือที่สั่นเทาของเขาไว้ : “เชื่อใจข้า พ่อเจ้ายังรอดูอนาคตของเจ้าอยู่นะ”

พูดจบก็ออกแรงผลัก “รีบไป!”

ชาวนาสิบเอ็ดคนย่อตัวลงแล้วมุดเข้าไปในตรอก ชั่วพริบตาเดียว ก็หายไปท่ามกลางกำแพงดินที่ซับซ้อน

หลินชวนสูดหายใจเข้าต็มปอด เหน็บดาบยาวไว้ที่เอว หันหลังวิ่งไปในทิศทางตรงกันข้าม

เขากำลังจะไปเป็น “เหยื่อล่อ” ที่อันตรายที่สุด

…...

หลินชวนเดินอย่างเร่งรีบผ่านตรอกในหมู่บ้าน เสียงกีบเท้าม้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ

เขาจงใจเผยตัวที่ถนนดินตรงทางเข้าหมู่บ้านครู่หนึ่ง แล้วรีบหลบเข้าซอกระหว่างบ้านดิน

“ทางนั้น! หยุดนะ!”

เป็นไปตามคาด มีเสียงตะโกนห้าวหาญของทหารสอดแนมหลางหรงดังมาจากด้านหลัง เสียงกีบเท้าม้าเร่งเร็วขึ้นทันที

มุมปากของหลินชวนโค้งขึ้นเล็กน้อย เหยื่อติดกับแล้ว

เขาเลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวา เจาะจงมุดใต้ชายคาเตี้ย ๆ บังคับให้พวกที่ไล่ตามต้องก้มตัวและควบคุมม้า

มีเสียงสบถอย่างโกรธเกรี้ยวดังมาจากด้านหลัง เห็นได้ชัดว่ามีชาวหลางหรงบางคน ที่หัวชนเข้ากับอะไรบางอย่าง

“ตอนนี้แหละ!”

หลินชวนหยุดฝีเท้ากะทันหัน หันหลังแล้วเป่านกหวีดเสียงแหลม

พวกจางเสี่ยวเนียนสามคนพุ่งออกมาจากหลังกองฟาง สาดดินสีเหลืองเต็มตะแกรงใส่หน้าทหารสอดแนม

ทหารสอดแนมหลางหรงเหล่านี้เคยชินกับการวางอำนาจมานาน

อาศัยม้าเร็วและดาบโค้ง จึงกำเริบเสิบสานในพื้นที่ชายแดนนี้

พวกเขามองชาวฮั่นเป็นเหมือนลูกแกะที่รอการเชือดนานแล้ว

จะคิดได้อย่างไรว่าจะเจอกับการต่อต้านจากชาวบ้าน?

และยิ่งคาดไม่ถึงว่าจะมีคนกล้าใช้ดินสีเหลืองมาสาดใส่ตาพวกเขา

ทันใดนั้น ฝุ่นก็ตลบอบอวล เกิดเสียงไอต่อเนื่อง ดูสับสนวุ่นวายไปหมด

ม้าศึกหลางหรงตัวที่อยู่ด้านหน้าสุดตกใจจนยกขาหน้าขึ้น

ทหารสอดแนมตาพร่ามัว รีบดึงบังเหียน แต่ถูกชาวบ้านที่พุ่งออกมาจากสองข้างใช้ไม้ไผ่กวาดเข้าที่ขาม้า

ม้าร้องโหยหวน เซไปสองสามก้าว ทหารสอดแนมหัวทิ่มลงมา

ท่ามกลางฝุ่นควัน หลินชวนฟันเข้าที่คอของทหารสอดแนม แล้วหันหลังวิ่งหนีทันที

ทหารสอดแนมคนนั้นยังไม่ทันได้ลืมตา ก็สิ้นลมหายใจแล้ว

“ไป!” หลินชวนตะโกนเสียงดัง

พวกของจางเสี่ยวเนียนสามคนรีบมุดเข้าตรอกข้าง ๆ แล้วหายตัวไปในพริบตา

อีกด้านหนึ่ง พวกของหวังเถี่ยจู้พุ่งออกมาจากหลังกำแพงบ้าน เหวี่ยงคราดลงกระแทกพื้นอย่างแรง

ม้าศึกหลางหรงตกใจจนวิ่งวนไปมาอยู่กับที่

ชาวบ้านคนหนึ่งถือโอกาสใช้เคียวเกี่ยวเกราะหนังของทหารสอดแนม ดึงจนเขาล้มเอียง แต่ยังไม่มีใครกล้าลงมือสังหาร

“บุกสิ!”

ชาวบ้านที่ซุ่มอยู่สองข้างทางพากันกรูกันออกไป ไม้ไผ่ที่เหลาปลายแหลมแทงออกมาจากร่องกำแพง พุ่งเป้าไปที่ท้องม้า

ทหารสอดแนมหลางหรงคำรามด้วยความโกรธแล้วตวัดดาบ แต่เพราะม้าตื่นตระหนก จึงฟันไม่ถูกชาวบ้านที่หลบหลีกอย่างว่องไว

ตอนนี้หลินชวนได้อ้อมไปอยู่ด้านท้ายของกองทหารสอดแนมแล้ว เขาเล็งเป้าไปที่ชาวหลางหรงคนหนึ่งที่หลงจากกลุ่ม พลันกระโดดออกมาจากหลังกำแพงเตี้ย

ดาบยาวว่องไวราวกับสายฟ้า พุ่งตรงเข้าใส่คอหอยของอีกฝ่าย!

“ฉึบ!”

คมดาบแทงเข้าที่รอยต่อของเกราะหนังอย่างแม่นยำ เลือดพุ่งกระฉูด

ทหารสอดแนมหลางหรงเบิกตากว้าง มีเสียง “กึกกึก” ในลำคอ แล้วร่วงตกจากหลังม้า

หลินชวนไม่หยุด หันหลังพุ่งเข้าใส่ทหารสอดแนมอีกคน

ทหารสอดแนมคนนั้นเพิ่งจะดึงบังเหียนม้าที่ตื่นตระหนกไว้ได้ ยังไม่ทันได้ตั้งตัว ดาบยาวของหลินชวนก็มาถึงแล้ว

เสียง “ฉึบ” ดังขึ้น ฟันเปิดไหล่ของเขา ลึกจนเห็นกระดูก

ทหารสอดแนมร้องโหยหวน ดาบโค้งหลุดจากมือ หลินชวนถือโอกาสฟันซ้ำอีกครั้ง ปลิดชีพเขา

“ถอย! ถอย! ถอย!”

หลินชวนวิ่งไปพลางตะโกนไปพลาง กลุ่มชาวบ้านตามรายทางได้ยินเสียง ก็รีบถอนตัวจากการต่อสู้ทันที แล้วมุดเข้าตรอกเล็ก ๆ อย่างชำนาญ

พวกทหารสอดแนมหลางหรงโกรธจนร้องโวยวาย แต่ก็หลงทิศทางอย่างสิ้นเชิงในตรอกซับซ้อนของหมู่บ้าน

หลินชวนปาดเลือดที่กระเด็นมาโดนหน้าออก สายตาคมกริบราวกับเหยี่ยวสำรวจสนามรบ

ยังมีทหารสอดแนมหลางหรงเหลืออีกสามคน กำลังวิ่งวุ่นไปทั่วในหมู่บ้าน ต้องรีบจบการต่อสู้ให้เร็วที่สุด

“จางเสี่ยวเนียน! พาคนไปที่ปากซอยด้านตะวันออก!”

หลินชวนตะโกนเสียงต่ำ “หวังเถี่ยจู้ พวกเจ้าก่อกวนต่อไป!”

จางเสี่ยวเนียนรับคำ พาคนวิ่งไปทางด้านตะวันออก

วิ่งไปไม่ไกลนัก ทหารม้าคนหนึ่งก็พลันวิ่งเข้ามาในตรอกด้านหน้า

ทหารสอดแนมหลางหรงส่งเสียงโวยวาย แล้วตวัดดาบโค้งพุ่งเข้าใส่

“พี่ ๆ ๆ ๆ ๆ ......” จางเสี่ยวเนียนพูดติดอ่าง ไม่สามารถพูดประโยคออกมาให้สมบูรณ์ได้

“พี่ซิ่วไฉช่วยด้วย!!!”

คนด้านหลังตะโกนเสียงดัง คว้าคอเสื้อของเขาไว้ ทั้งสามคนกรีดร้องแล้วมุดเข้าไปในลานบ้านข้าง ๆ

เสียงกีบเท้าม้ามาถึงอย่างรวดเร็ว

หลินชวนพลันพุ่งออกมาจากมุมกำแพง ดาบยาวแทงเข้าท้องม้าทันที

ม้าศึกเจ็บปวดจนยกขาหน้าขึ้น เหวี่ยงทหารสอดแนมบนหลังลงกระแทกพื้นอย่างแรง

“อ๊ะ!”

ทหารสอดแนมคนนั้นเพิ่งจะลุกขึ้น คมดาบของหลินชวนก็มาถึงแล้ว แทงเข้าที่คอหอยอย่างแม่นยำ

ศพที่สี่ล้มลง

เสียงสายธนูสั่นสะเทือนดังมาจากที่ไกล ๆ หลินชวนเอียงตัวหลบด้วยสัญชาตญาณ

ลูกธนูหลางหรงดอกหนึ่งปักเข้ากับกำแพงดินด้านหลังเขาดัง “ฉึบ” ปลายธนูยังคงสั่นไหว

ทหารสอดแนมที่ยิงธนูเห็นว่าโจมตีไม่สำเร็จ จึงสบถและกำลังจะง้างธนูอีกครั้ง

“คิดจะยิงธนูหรือ?” หลินชวนหัวเราะเยาะ วิ่งหลบเข้าตรอกแคบระหว่างบ้านสองหลัง

ทหารสอดแนมหลางหรงควบม้าไล่ตามมา แต่ถูกกำแพงเตี้ยที่โผล่มาตรงหัวมุมขวางทางไว้

เขาสบถอย่างฉุนเฉียว พลิกตัวลงจากหลังม้า

นี่คือโอกาสที่หลินชวนต้องการ

เมื่อทหารสอดแนมคนนั้นเพิ่งจะเลี้ยวผ่านมุมกำแพงมา ดาบยาวของหลินชวนก็ได้รออยู่ที่นั่นแล้ว

ฟันลงไปทีเดียว ศีรษะคนที่ห้าก็กลิ้งตกสู่พื้น

ทหารสอดแนมคนสุดท้ายเห็นท่าไม่ดี รีบหันหัวม้าเพื่อจะหลบหนี

“พี่ซิ่วไฉ คนผู้นั้นจะหนีไปแล้ว——” หวังเถี่ยจู้ตะโกน

“จะหนีไปไหน!”

หลินชวนเหยียบกำแพงบ้าน กระโดดขึ้นหลังคา พุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

“ว้าว ๆ ๆ ๆ——”

“อ๊า ๆ ๆ ๆ——”

“ฆ่า ๆ ๆ ๆ——”

เด็กหนุ่มสิบกว่าคนเงยหน้าขึ้น พยายามสร้างเสียงฮึกเหิมอย่างสุดชีวิต

บางคนถึงกับตีหม้อแตก ๆ

ทหารสอดแนมคนนั้นได้ยินเสียงตะโกนก้องสังหารอยู่รอบด้าน ไม่รู้ว่ามีคนและม้ามากมายขนาดไหนพุ่งเข้ามา ถึงกับขวัญหนีดีฝ่อ

เขากระหน่ำแส้บังคับม้า ได้ยินเพียงเสียงตะคอก “โธ่เอ๊ย” ดังมาจากเหนือศีรษะ

ร่างของหลินชวนกระโจนลงมาจากชายคา พร้อมกับดาบยาวในมือก็ฟันลงไปอย่างแรง!

ทหารสอดแนมหลางหรงรีบร้อนยกดาบขึ้นมาปัดป้อง

แต่ได้ยินเสียง “เช้ง” ดังชัด ดาบโค้งในมือถูกฟันขาดเป็นสองท่อน!

แรงดาบไม่ลดลง พุ่งตรงเข้าใส่หน้าผาก

“ฉึบ!”

เสียงคมดาบฝังเข้าเนื้อดังชัดเจนเป็นพิเศษ

เลือดพุ่งกระฉูดราวกับน้ำพุ ย้อมพื้นถนนดินสีเหลืองจนแดงฉาน

ศพของทหารสอดแนมโอนเอน ร่วงลงจากหลังม้าอย่างแรง

หลินชวนลงสู่พื้นอย่างมั่นคง ดาบยาวชี้ลงพื้น

หยดเลือดสีแดงเข้มไหลลงตามปลายดาบ กระทบพื้นดินจนเกิดหลุมเล็ก ๆ สีเข้ม

ทั้งหมู่บ้านเข้าสู่ความเงียบสงบที่แปลกประหลาด

หลินชวนสะบัดข้อมือที่ชา จึงพบว่าร่องง่ามนิ้วโป้งของเขาถูกแรงกระแทกจนฉีกแล้ว

ร่างกายนี้ยังอ่อนแอไปบ้าง หมดเรี่ยวแรงแล้ว

ยังโชคดีที่มีดาบเล่มนี้ของลุงจ้าว

เขารีบฉีกชายเสื้อมาพันบาดแผล สายตาจ้องเขม็งไปที่สัญญาณควันบนภูเขาที่อยู่ไกลออกไป

ทุกคนมองซ้ายมองขวา เมื่อแน่ใจว่าชาวตาดตายหมดแล้ว ก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“นี่ นี่ แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้วหรือ?” จางเสี่ยวเนียนไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

“ชาวตาด…...ก็ไม่ได้เก่งกาจอย่างที่ลือกันนี่นา?” มีคนบ่นพึมพำ

“นั่นเพราะพี่ซิ่วไฉเก่ง!” หวังเถี่ยจู้หัวเราะแหะ ๆ

“พี่ซิ่วไฉ!”

“พี่ซิ่วไฉ......”

ทุกคนเดินเข้ามาหาหลินชวน ร่างกายสั่นเทา แต่แววตาเต็มไปด้วยความเร่าร้อน

“พี่ พี่ซิ่วไฉ หลัง หลังจากนี้...”

จางเสี่ยวเนียนเดินเข้ามาใกล้ ถามติด ๆ ขัด ๆ

“จัดการเก็บศพพวกนี้ซะ”

เสียงของหลินชวนแหบแห้งแต่หนักแน่น “เก็บอาวุธที่ใช้ได้ทั้งหมดมา”

ชาวบ้านที่หลบอยู่ในบ้านทยอยกันออกมา มองศพที่พื้นอย่างเหม่อลอย

พวกที่ใจกล้าก็รวมตัวกันเข้ามา ทุกคนยังคงมองหลินชวนอย่างขวัญเสีย

“ไอ้หนูตระกูลหลิน!”

ผู้ใหญ่บ้านทรุดตัวนั่งลงบนพื้น

“เจ้านำหายนะครั้งใหญ่มาสู่หมู่บ้านของเราแล้ว!”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel